Samsung ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทกำลังลดการผลิตชิปหน่วยความจำ หลังจากที่รายงานผลกำไรตํ่าสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2009 นับเป็นก้าวสำคัญในการยุติอุปทานที่ล้นเหลือ ซึ่งสร้างความเสียหายทางราคาให้แก่อุตสาหกรรมชิปทั่วโลก ขณะที่ราคาหุ้น Samsung พุ่งขึ้น 4.7% เป็นการกระโดดระหว่างวันสูงสุดในรอบ 3 เดือน
กำไรจากการดำเนินงานของผู้ผลิตชิปสัญชาติเกาหลีใต้ลดลงมากกว่า 95% เหลือเพียง 6 แสนล้านวอน หรือคิดเป็น 450 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์โดยเฉลี่ยที่ 1.4 ล้านล้านวอน ขณะที่ยอดขายลดลง 19% เหลือ 63 ล้านล้านวอน
Samsung กล่าวว่า จะลดการผลิตชิปหน่วยความจำลงให้อยู่ในระดับที่จำเป็นเท่านั้น ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่คู่แข่งผลิตชิปหลายรายรอคอย หลังจากที่ต้องประสบกับสินค้าคงคลังจำนวนมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาและผลกำไร
ที่ผ่านมา Samsung ได้พยายามคงการผลิตเดิม แม้ว่าเศรษฐกิจจะตกต่ำ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะต้องการแย่งส่วนแบ่งตลาดคืนจากคู่แข่งอย่าง SK Hynix และ Micron Technology ที่ถูกบังคับให้ลดกำลังการผลิต
การผลิตที่ลดลงของ Samsung จะช่วยหนุนราคาชิป ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญต่อการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมชิปทั่วโลก
Baik Gilhyun นักวิเคราะห์จาก Yuanta Securities เผยว่า “จากการปรับการผลิตและลดการผลิตชิปหน่วยความจำให้อยู่ในระดับที่มีความหมาย สถานการณ์ตลาดชิปกำลังปรับตัวได้ดีขึ้น ดังนั้นความกังวลในระยะสั้นกำลังจะสิ้นสุดลง”
ถึงกระนั้น Samsung ระบุว่า ยังคงมุ่งมั่นที่จะลงทุนระยะยาวในอุตสาหกรรมนี้ “แม้จะลดแผนการผลิตในระยะสั้น แต่ขณะเดียวกันยังคงต้องการความแข็งแกร่งในระยะกลางถึงระยะยาว ฉะนั้นจึงยังคงลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรักษาความต้องการที่จำเป็น ประกอบกับขยายการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีต่อไป” ยักษ์ใหญ่ด้านชิประบุในคำแถลง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- TSMC เล็งสร้างโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่มูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ
- TSMC ระงับการส่งซิลิคอนขั้นสูงให้ผู้ผลิตชิปในจีน เพื่อหลีกเลี่ยงการฝ่าฝืนข้อบังคับของสหรัฐฯ
- จีนอวดสายการผลิต ‘Photonic Chip’ เป็นครั้งแรก เตรียมเดินเครื่องผลิตภายในปี 2023
อ้างอิง: