ช่วงนี้ตลาดสมาร์ทโฟนดูจะคึกคักและหวือหวามากเป็นพิเศษ เมื่อค่ายผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเจ้าต่างๆ ต่างก็แข่งกันเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของตัวเองกันออกมาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดเป็นคิวของ Samsung แบรนด์เจ้าตลาดอันดับหนึ่ง ซึ่งคราวนี้ขยับกำหนดการเปิดตัวเรือธง Galaxy โมเดล S เร็วกว่าทุกครั้งถึงหนึ่งเดือน
สำหรับ Galaxy S21 ที่ Samsung เพิ่งเปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ นั้นมาให้เลือกพร้อมกันถึง 3 โมเดล ได้แก่ Samsung Galaxy S21 5G, Samsung Galaxy S21+ 5G และตัวท็อปสุดอย่าง Samsung Galaxy S21 Ultra 5G ที่เราจะเน้นพูดถึงในอัปเดตนี้เป็นหลัก
โดย Galaxy S21 Ultra 5G เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดและท็อปสุดจากโมเดล S มาพร้อมกับดีไซน์กรอบกล้องหลังแบบใหม่ พร้อมกล้องหลัง 4 เลนส์ และรองรับการใช้งานคู่กับ S Pen ได้แล้ว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่สมาร์ทโฟนในซีรีส์ Galaxy S สามารถใช้งานคู่กับปากกาดังกล่าวได้ มาพร้อมการใช้งานคู่กับเทคโนโลยี 5G
เริ่มต้นที่หน้าจอ Galaxy S21 Ultra 5G มาพร้อมกับจอแสดงผลแบบ Quad HD+ Dynamic AMOLED 2X ที่ 6.8 นิ้ว โดยแสดงผลได้อย่างลื่นไหลด้วยอัตรารีเฟรชสูงสุดที่ 120Hz (ปรับตามการแสดงผลของเนื้อหาบนจอได้ระหว่าง 10-120 HZ) และยังแสดงผลในที่แจ้ง (แดดเยอะ) ได้อย่างหมดห่วงด้วยความสว่างของจอที่ 1,500 nits (เดิมใน S20 อยู่ที่ 1,200 nits) รวมถึงยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ปรับการแสดงผลแสงสีฟ้าแบบอัตโนมัติ (Eye Comfort Shield) เพื่อลดความเมื่อยล้าของตาอีกต่างหาก ขนาดแบตเตอรี่อยู่ที่ 5,000 mAh
จุดเด่นของ Galaxy S21 Ultra 5G อยู่ที่กล้องหลังเลนส์ 4 ตัว ที่ทาง Samsung เคลมว่าเป็นคุณภาพกล้องระดับ Pro Grade หรือมืออาชีพที่ถ่ายวิดีโอ 4k 60fps ได้ในทุกเลนส์ ได้แก่ เลนส์ Ultra wide 12 ล้านพิกเซล, เลนส์ Wide 108 ล้านพิกเซล และเลนส์ Tele แบบคู่ (เลนส์ละ 10 ล้านพิกเซล) ที่ซูมแบบ Space Zoom สูงสุดที่ 100 เท่า (ล็อกการโฟกัสเพื่อให้นิ่งขึ้นตอนซูมได้) ถ่ายภาพกลางคืนที่แสงน้อยได้ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยี Nona-Binning 12MP และ Bright Night Sensor ที่เข้ามาทำหน้าที่ลด Noise ได้อย่างอยู่หมัด ส่วนกล้องหน้า 40 ล้านพิกเซล
และไฮไลต์ตามที่ข่าวลือปรากฏออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งจะลืมพูดถึงไม่ได้เป็นอันขาดคือ Galaxy S21 Ultra 5G สามารถใช้งานคู่กับ S Pen ได้แล้ว (เฉพาะตัว Ultra เท่านั้น, ปากกาพัฒนาร่วมกับ Wacom) โดยจะต้องซื้อ S Pen แยกซึ่งมี 2 แบบให้เลือก คือ S Pen ธรรมดาที่ใช้งานจด วาด เขียน ได้ทั่วไป (ไม่มี Bluetooth ใช้งาน Air Action สั่งการกลางอากาศไม่ได้) และ S Pen Pro ซึ่งใช้งาน Air Action ได้ แต่จะเปิดตัวปลายปีนี้
อย่างไรก็ดี เพราะเป็นสมาร์ทโฟนที่แยกเซกเมนต์ผู้ใช้งานต่างจาก Note ชัดเจน (Note เน้นผู้ใช้งานกลุ่มคนทำงานที่ต้องเน้นการจดมากกว่า ส่วน S เน้นสายครีเอทีฟ คนรุ่นใหม่ สร้างคอนเทนต์ด้วยมือถือ) เจ้า S Pen จึงไม่ได้แถมมาให้กับตัวเครื่อง และ Galaxy S21 Ultra 5G ก็จะไม่ได้มาพร้อมกับช่องสล็อตเสียบเก็บปากกา โดยจะต้องซื้อเคสแบบที่มีที่เก็บปากกาเอาเอง โดย Samsung ยังบอกอีกด้วยว่า พวกเขากำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา S Pen แบบใหม่ๆ ร่วมกับแบรนด์ผู้ผลิตปากกาชั้นนำของโลก เช่น Wacom, Staedtler, Uni และ Lamy
โดย Galaxy S21 Ultra 5G มีมาให้เลือก 2 สี คือ Phantom Black และ Phantom Silver ส่วนบนเว็บไซต์ Samsung.com จะมีสี Phantom Titanium, Phantom Navy และ Phantom Brown เป็นสีพิเศษให้เลือกด้วย แต่ข่าวร้ายคือด้วยเหตุผลทางสิ่งแวดล้อม ทาง Samsung จึงตัดสินใจไม่แถมอะแดปเตอร์ชาร์จให้กับเจ้า Galaxy S21 ทุกโมเดลอีกแล้ว นั่นหมายความว่าเราจะต้องควักเงินซื้อหัวชาร์จแยกเอง (แต่ยังแถมสายชาร์จ USB-C ให้ตามปกติ)
สำหรับกำหนดการวางจำหน่ายทั่วโลก จะเริ่มวางขายอย่างเป็นทางการพร้อมกันคือวันที่ 29 มกราคม สนนราคาเริ่มต้นที่ 1,199 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 36,000 บาท ส่วนราคาจำหน่ายพร้อมกำหนดการวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ ทาง Samsung ประเทศไทย จะเปิดเผยออกมาในวันศุกร์ที่ 15 มกราคมนี้ เวลา 10.00 น. หรือสามารถเช็กข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.samsung.com/th/smartphones/galaxy-s21-ultra-5g/?page=home
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
