SAMART เตรียมรุกตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล เผยอยู่ระหว่างศึกษาแผนออก NFT ที่เกี่ยวข้องกับกีฬา พร้อมเล็งออกโทเคนของตัวเองภายในไตรมาส 2 ปีนี้ ส่วนภาพรวมธุรกิจมั่นใจยังเติบโตได้ต่อเนื่อง หลังทำผลดำเนินงานไตรมาสแรกเป็นไปตามเป้า
วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาธุรกิจใหม่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART) กล่าวว่า บริษัทยังคงศึกษาและมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงและการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาแผนการขยายธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น NFT ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องกีฬา รวมทั้งของสะสมโบราณ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างพูดคุยกับเจ้าของลิขสิทธิ์
นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่ในอนาคตอันใกล้นี้ บริษัทจะออกโทเคนของตัวเอง ซึ่งน่าจะเห็นความชัดเจนภายในไตรมาส 2 นี้ โดยจะออกในนามของบริษัท สามารถ ดิจิตอล จำกัด (มหาชน) ขณะเดียวกันบริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อระดมทุนมาใช้ในการดำเนินธุรกิจด้วย
สำหรับผลดำเนินงานงวดไตรมาสแรกปี 2565 ถือว่าเป็นไปตามที่บริษัทคาดการณ์เอาไว้ โดยในไตรมาสนี้บริษัทมีรายได้จากการติดตั้งและส่งมอบโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสินค้าประเภทสุราแช่ชนิดเบียร์ ที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศ ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวม 8,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังเริ่มให้บริการพิมพ์รหัสควบคุมบนบรรจุภัณฑ์ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นมา ทำให้บริษัทเริ่มทยอยรับรู้รายได้ โดยในปีนี้บริษัทจะมีรายได้ทั้งสิ้นประมาณ 600 ล้านบาท ในขณะที่สายธุรกิจ U-Trans โดยเฉพาะ CATS ส่งสัญญาณบวกของการฟื้นตัวอย่างชัดเจน จากจำนวนเที่ยวบินในไตรมาสแรกที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 38% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน
ส่วนสายธุรกิจ ICT ก็มีแนวโน้มการเติบโตที่โดดเด่นเช่นกัน โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าชนะโครงการประมาณ 11,000 ล้านบาท แค่เฉพาะไตรมาสแรกก็มีการเซ็นสัญญาใหม่ไปแล้วมูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท ส่งผลให้มี Backlog ณ สิ้นไตรมาสแรกสูงถึง 8,000 ล้านบาท
โดยบริษัทมุ่งนำเสนอ 4 โซลูชันมาแรง ได้แก่
- Financial and Banking Solution จะมีการขยายสาขา Smart Branch Outsourcing ในเฟสต่อไป
- Solutions for Utility Sector ที่จะมีการจัดหา E-Meter สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยทั่วประเทศ และการขยายฐานลูกค้า ERP ไปยังกลุ่ม Utility Sector อื่นๆ
- E-Payment Solution จะนำเสนอ Platform ที่เชื่อมทุก Wallet รองรับได้ทุก Platform ชำระเงินได้ทุก Merchant
- Cyber-Security Solution ที่กำลังขยายฐานลูกค้าเข้าสู่กลุ่ม Utility กลุ่มธนาคารและอื่นๆ
สายธุรกิจ Samart Digital (SDC) กระจายความเสี่ยงและสร้างสมดุลให้กับพอร์ตธุรกิจด้วย 2 สายธุรกิจคือ Digital Trunked Radio System (DTRS) เน้นสร้างรายได้ประจำจากค่าใช้บริการรายเดือนและค่าเช่าเครื่องลูกข่าย ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้บริการจาก 2 หน่วยงานคือ กระทรวงมหาดไทย และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำนวน 85,000 เครื่อง คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 115,000 เครื่องในสิ้นปีนี้ อีกหนึ่งธุรกิจคือ Digital Content & Service เน้นสร้างรายได้เติบโตตาม Digital Trend & Lifestyle ของคนยุคใหม่ โดยจะส่งผ่าน Content และบริการสายมู สายกีฬา และไลฟ์สไตล์ ไปสู่ผู้บริโภคผ่านแอปพลิเคชันที่ครบครันและง่ายต่อการใช้งาน
นอกจากนี้ บริษัทยังได้จัดตั้งบริษัท LUCKY Heng Heng ขึ้น โดยใช้รูปแบบการระดมทุนและการบริหารงานแบบ Start-up เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและรองรับการทำงานของคนรุ่นใหม่ ซึ่งภายใต้บริษัทนี้จะประกอบธุรกิจสายมู คือ Horoworld Mobile Application เป็น One Stop Service ทางด้านโหราศาสตร์และความเชื่อ ประกอบด้วยบริการดูดวงสดออนไลน์ ดูโหงวเฮ้ง ฮวงจุ้ย และฤกษ์มงคลต่างๆ เร็วๆ นี้จะเปิดตัวอีกหนึ่งแอปพลิเคชันภายใต้ชื่อ ‘Thai merit’ ที่ช่วยให้สายบุญได้ไหว้พระ บริจาคเงิน แก้บน เสี่ยงเซียมซี ตลอดจนการบูชาวัตถุมงคล จากทุกวัด ทุกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ผ่านช่องทางออนไลน์โดยไม่ต้องเดินทาง
วัฒน์ชัยกล่าวย้ำว่า บริษัทยังคงศึกษาและมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงและการเติบโตอย่างยั่งยืน ยิ่งไปกว่านั้น ยังหาแนวทางในการลดภาระค่าใช้จ่ายทางการเงิน และเพิ่มความคล่องตัวในการลงทุน เช่น การออกหุ้นกู้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และกำลังศึกษาแนวทางในการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน Infrastructure Fund เพื่อระดมทุนมาใช้ในโครงการ DTRS หากมีความคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP