หลังจากที่วานนี้ (11 กุมภาพันธ์) สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด เข้าพบเจ้าพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม ตามหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 กรณีติดสินบนเจ้าหน้าที่บริษัทเอกชนและเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เพื่อให้สิทธิบริษัทของสกุลธรเช่าที่ดินย่านชิดลมโดยไม่ต้องผ่านการประมูล
ล่าสุดสกุลธรได้ชี้แจงต่อสื่อมวลชนถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า จากรายงานข่าวการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ขออนุญาตชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมในประเด็นดังต่อไปนี้
- เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 ผมเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก เพื่อแสดงความเป็นบริสุทธิ์ใจ โดยผู้ที่ไปร้องทุกข์กล่าวโทษในคดีนี้คือ ณฐพร โตประยูร ซึ่งไม่ได้เป็นผู้เสียหายหรือเกี่ยวข้องกับคดีที่ผมถูกกล่าวหาแต่อย่างใด
- ผมยืนยันในความสุจริตใจว่า ตลอดระยะเวลาการทำงาน การติดต่อประสานงานกับสำนักงานทรัพย์สินฯ ทุกขั้นตอนได้ทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้มีหน้าที่รับผิดชอบเสมอ แต่กลับปรากฏว่ามีการปลอมแปลงเอกสารตอบกลับมายังบริษัทของผม เพื่อหลอกลวงให้ผมจ่ายเงินให้ตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในสัญญา ทั้งนี้ การจ่ายเงินเป็นไปตามสัญญาของ Project Consultancy ซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่ผมและสำนักงานทรัพย์สินฯ ตามที่ศาลได้มีคำพิพากษาลงโทษจำเลยไปแล้ว
- การที่สำนักงานทรัพย์สินฯ สามารถนำตัวบุคคลที่ร่วมกันปลอมแปลงเอกสารของสำนักงานทรัพย์สินฯ มาลงโทษได้ เนื่องจากผมได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของสำนักงานทรัพย์สินฯ ว่าขอให้ช่วยปกป้องชื่อเสียงของสำนักงานทรัพย์สินฯ ผมจึงส่งมอบเอกสารที่ได้รับให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ จึงทราบว่ามีการแอบอ้างปลอมเอกสาร และสามารถนำตัวบุคคลที่ร่วมกันปลอมแปลงเอกสารมาลงโทษได้
- เมื่อมีการดำเนินคดีกับผู้ที่ร่วมกันปลอมแปลงเอกสาร ผมยังได้รับการติดต่อจากพนักงานสอบสวนให้ช่วยให้ปากคำในฐานะพยาน เพื่อดำเนินคดีบุคคลที่ร่วมกันปลอมแปลงเอกสารของสำนักงานทรัพย์สินฯ แต่ในช่วงนั้นผมเดินทางไปต่างประเทศ จึงได้ประสานให้บุคคลที่เกี่ยวข้องและร่วมงานกับผมไปดำเนินการแทน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ผมได้ให้ความร่วมมือมาตั้งแต่แรก เพื่อให้ทางการนำตัวบุคคลที่ร่วมกันปลอมแปลงเอกสารของสำนักงานทรัพย์สินฯ มาลงโทษได้
“ผมขอยืนยันว่า ผมเป็นผู้บริสุทธิ์ คำตัดสินของศาลที่ผู้กล่าวหานำมาประกอบในการแจ้งความดำเนินคดีผม เป็นคำตัดสินของจำเลยที่ร่วมกันปลอมแปลงเอกสารของสำนักงานทรัพย์สินฯ เพื่อมาหลอกเอาเงินจากผม และที่ผมให้ความร่วมมือในการสอบสวนคดี จนนำตัวผู้แอบอ้างปลอมเอกสารมารับโทษได้ ก็เพราะผมหวังดี ไม่อยากให้ชื่อเสียงของสำนักงานทรัพย์สินฯ เสียหาย และไม่อยากเห็นบุคคลอื่นโดนหลอกลวงเอาเงินเช่นเดียวกับผมอีก
“การกล่าวหาว่าผมเป็นผู้กระทำความผิดในคดีนี้จึงไม่เป็นธรรมกับผมอย่างยิ่ง ผมหวังว่ากระบวนการยุติธรรมจะให้ความเป็นธรรมแก่ผม และช่วยปกป้องชื่อเสียงของผมต่อไป” สกุลธรกล่าว
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล