กระทรวงคมนาคมวางเป้าภายใน 7 ปี ขสมก. หวังพลิกมีกำไรได้ หลังรัฐจัดงบประมาณช่วยอุ้มกว่า 1.4 แสนล้านบาท พร้อมเดินหน้าเปิดทางเอกชนเข้าประมูลเดินรถ
ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามแผนฟื้นฟูกิจการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ตั้งเป้าจะหยุดการขาดทุนในปี 2572 และพลิกกลับมามีกำไรได้ โดยที่รัฐจะเข้ามารับภาระสนับสนุน ประกอบด้วย 1. ภาระหนี้สะสม รวม 127,786 ล้านบาท 2. เงินสนับสนุนจากรัฐบาล รวม 9,674 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 7 ปี (2565-2571) 3. ค่าใช้จ่ายการดำเนินการโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด จำนวน 4,000 ล้านบาท
“หาก ขสมก. ทำได้ตามแผนฟื้นฟูดังกล่าว คาดว่าภายในระยะเวลา 7 ปี คือ 2565-2571 ผลประกอบการของ ขสมก. จะพลิกมีกำไรเป็นบวกได้แน่นอน”
ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ซึ่งมี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานวันนี้ (8 มิถุนายน) ได้เห็นชอบหลักการตามแผนฟื้นฟู ขสมก. แล้ว แต่ให้กลับไปจัดทำรายละเอียดเพื่อสรุปตัวเลขการขอรับสนับสนุนงบประมาณเกี่ยวกับการฟื้นฟูที่ชัดเจนอีกครั้ง
โดยคาดว่าจะนำเสนอแผนฟื้นฟูให้ ครม. พิจารณาอนุมัติในเดือนมิถุนายน จากนั้นจะจัดทำทีโออาร์เปิดประมูลเช่ารถจ้างวิ่งตามระยะทางจำนวน 2,511 คัน คาดว่าจะลงนามสัญญาในเดือนกันยายน 2563 ทยอยรับรถเช่าและเดินรถ เริ่มเดินรถใหม่เดือนมีนาคม 2564 โดยเอกชนที่เสนอราคารับจ้างวิ่งต่อกิโลเมตรต่ำสุดจะเป็นผู้ชนะการประมูลได้สัมปทานเดินรถ 7 ปี โดยอาจจะมีการแบ่งย่อยเป็น 3 สัญญาป้องกันการผูกขาด โดยรถที่จะนำมาเข้าร่วมประมูลจะต้องเป็นรถที่พลังงานเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คือเอ็นจีวีและรถอีวี ที่จะต้องมีชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศไม่ต่ำกว่า 50% เท่านั้น
นอกจากนี้ตามแผนฟื้นฟู จะมีแนวทางการลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน โดยปรับแผนการจัดเก็บค่าโดยสารให้ลดลง ได้แก่ 1. จัดเก็บค่าโดยสารเหมารายวัน วันละ 30 บาทต่อคน ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว 2. จัดทำบัตรอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้สูงอายุเหมาจ่าย 15 บาทต่อคน ลดราคาจากเดิม 50% บัตรรายเที่ยว 15 บาทต่อเที่ยว และบัตรรายเดือน สำหรับนักเรียนและนักศึกษา ราคา 630 บาทต่อเดือน และบัตรสำหรับบุคคลทั่วไป ราคา 720 บาทต่อเดือน
เรียบเรียง จารุวรรณ เอี่ยมยิ่งพานิช
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
