เมื่อวานนี้ (29 ก.ค.) ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยทีมงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการปรับปรุงทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) บริเวณทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย ตอน 3 บริเวณกิโลเมตรที่ 17+900 (ทางเข้าวัดพันท้ายนรสิงห์) เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด บรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ใช้ถนนพระราม 2
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวว่าการลงพื้นที่ในครั้งนี้ได้พูดคุยหารือ พร้อมติดตามการดำเนินโครงการและแก้ไขปัญหาผลกระทบด้านการจราจรบริเวณถนนพระราม 2 ขณะนี้ภาพรวมการแก้ไขปัญหาตามข้อสั่งการเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มช่องทางพิเศษในทางหลักก่อนถึงปากซอยพันท้ายนรสิงห์ การจัดการพื้นที่บริเวณปากซอยที่มีงานวางท่อระบายน้ำให้สามารถใช้งานได้ 2 ช่องจราจร เป็นต้น มีความคืบหน้า 75% สามารถลดปริมาณการจราจรติดขัดสะสมจาก 2 กิโลเมตรเหลือเพียง 400 เมตร ภายใต้การบูรณาการร่วมกันทั้งประชาชนในพื้นที่ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และกรมทางหลวง เพื่อให้การจัดการจราจรและการก่อสร้างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
รวมถึงการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจแก่ผู้ใช้เส้นทางระหว่างที่มีการก่อสร้าง ซึ่งกรมทางหลวงได้ติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ทางเลี่ยงครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม), ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 9 (ถนนกาญจนาภิเษก), ถนนพระราม 2, ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 338 (ถนนบรมราชชนนี), ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3091 และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3310 กว่า 50 ป้าย รวมถึงการเปิดพื้นที่ก่อสร้างเท่าที่จำเป็น ส่วนการก่อสร้างทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 สายธนบุรี-ปากท่อ (ถนนพระราม 2) บริเวณทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย ความยาวประมาณ 10 กิโลเมตร จำนวน 3 สัญญาที่ยังไม่ได้ลงนามในสัญญา ได้กำชับให้วางแผนบริหารจัดการการก่อสร้างร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการจัดการจราจรระหว่างก่อสร้างให้เรียบร้อยก่อนลงนามในสัญญา
นอกจากนี้ทางหอการค้าจังหวัดสมุทรสาครและผู้ประกอบการสมาคมขนส่งในพื้นที่มีความเห็นสอดคล้องกันในการพิจารณาเส้นทางขนส่งสินค้าเส้นทางอื่นเพื่อบรรเทาปัญหาผลกระทบด้านจราจรจากรถบรรทุก โดยเห็นว่าการขนส่งทางน้ำเป็นทางเลือกที่ดี สามารถลดต้นทุนและใช้เวลาใกล้เคียงกันกับการขนส่งทางถนน เบื้องต้นอาจใช้แพขนานยนต์ขนาดใหญ่ที่สามารถบรรทุกรถบรรทุกได้ 180 คันต่อเที่ยว ขนส่งรถบรรทุกจากอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สู่ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี
ทั้งนี้เอกชนในพื้นที่มีความพร้อมด้านการลงทุน โดยกระทรวงคมนาคมต้องพิจารณาอำนวยความสะดวกด้านใบอนุญาต ด้านการก่อสร้างท่าเรือ และด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากภาครัฐไม่สามารถดำเนินการในทุกเรื่องได้เพียงลำพัง ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อให้การแก้ไขปัญหา การพัฒนา และการดำเนินโครงการต่างๆ สำเร็จลุล่วง สร้างประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน
ภาพ: Facebook – คนภูมิใจไทย
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: www.facebook.com/khonbhumjaithai/posts/395845211283923
