คุณอาจเคยเห็นภาพวาด ‘อวัยวะเพศ’ ที่ถูกครีเอตขึ้นมาในลายเส้นการ์ตูนสีสันสดใส บิดความทะลึ่งตึงตังให้กลายเป็นความทะเล้นชวนอมยิ้ม พร้อมคาแรกเตอร์กวนๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Sahred Toy หรือ ต๊อด-อารักษ์ อ่อนวิลัย นักวาดภาพประกอบหนุ่มฝีมือจัดจ้านน่าจับตาที่สุดคนหนึ่งของยุคนี้ 

 

จากเด็กที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักเขียนการ์ตูน และเดินตามความฝันด้วยการเลือกเรียนในสายศิลปะเรื่อยมา ต๊อดในวัยทำงานค้นพบว่า การวาดคาแรกเตอร์เดิมๆ ซ้ำๆ ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานนั้นไม่ใช่สิ่งที่เหมาะกับเขาเท่าไรนัก ต๊อดจึงเบนเข็มมาสู่เส้นทางการเป็นนักวาดภาพประกอบที่ได้สร้างสรรค์คาแรกเตอร์ใหม่ๆ บรรยากาศใหม่ๆ ทุกวัน

 

คาแรกเตอร์สุดทะเล้นและลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์ของต๊อดปรากฏอยู่ทั้งบนปกหนังสือ เสื้อผ้า กระเป๋า โปสเตอร์เทศกาลดนตรี ไปจนถึงกล่องถุงยางอนามัย และล่าสุด ปกแผ่นเสียงลิมิเต็ดเอดิชัน โปรเจกต์พิเศษของค่ายยานยนต์ยักษ์ใหญ่อย่าง บีเอ็มดับเบิลยู ในอัลบั้มที่ชื่อว่า BE MY WORLD

 

โดยในโปรเจกต์นี้ ต๊อดได้จับมือกับ เป๋ง-ชานนท์ ยอดหงษ์ อาร์ตไดเรกเตอร์แถวหน้าผู้ออกแบบปกซีดีและคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดังในไทยมาแล้วหลายเวที เช่น บอดี้สแลม, ซิลลี่ฟูล, บิ๊กแอส, 25 HOURS ทั้งยังมีดีกรีความกวนและความทะลึ่งไม่แพ้กัน ร่วมออกแบบภาพปกและแพ็กเกจจิ้งอัลบั้ม BE MY WORLD เพื่อต่อยอดพลังของโลกแห่งเสียงเพลงที่ไม่เหมือนใคร และถ่ายทอดแนวคิดที่เชื่อในความแตกต่างหลากหลาย แต่ก็ยัง JOY ร่วมกันได้ในโลกของบีเอ็มดับเบิลยู

 

และบรรทัดต่อจากนี้คือ เรื่องราวเบื้องหลังงานดีไซน์แผ่นเสียง BE MY WORLD จากปากของพวกเขา

 

 

โลกแห่งความสนุกบนปกแผ่นเสียง

BE MY WORLD ถือเป็นงานออกแบบปกอัลบั้มแผ่นเสียงครั้งแรกของ Sahred Toy ต๊อดยอมรับว่า ในตอนแรกที่รู้ว่าจะได้ทำงานร่วมกับบีเอ็มดับเบิลยู เขาเกิดความรู้สึกก้ำกึ่งระหว่างความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับแบรนด์ระดับโลก และความสับสนว่าจะประยุกต์ลายเส้นกวนๆ ให้เข้ากับความเป็นบีเอ็มดับเบิลยูได้อย่างไร แต่หลังจากเข้าไปฟังบรีฟ ได้เห็นทิศทางที่แบรนด์อยากมุ่งไปอย่างชัดเจน ความรู้สึกของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นสนุกสนานและท้าทายในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ

 

“บีเอ็มดับเบิลยูในมุมของเราคือ รถเงาๆ มีแฉกของหน้ารถสี่แฉก เราจะวาดอย่างไรให้รถมีความบิดเบี้ยว แต่ยังดูเป็นบีเอ็มดับเบิลยูอยู่ หรือการรักษาโทนสีที่ยังเป็นบีเอ็มดับเบิลยู ในขณะที่เราเป็นคนใช้สีเยอะมาก เอาแม่สีกับสีพิเศษมาชนกัน โอกาสที่มันจะดูลิเกๆ สูงมาก แต่เรารู้สึกว่าแบบนี้มันคือเสน่ห์อย่างหนึ่ง

 

 

“เราเป็นคนชอบวาดอะไรยุบยิบมากมายไปหมด เราก็เห็นภาพว่า โอเค โลกที่เป็น Be My World ของบีเอ็มดับเบิลยูมันต้องเป็นโลกที่เหมือนรวมรถหลายๆ คันไว้ มีการเคลื่อนไหวที่สนุก มีตึกที่มันดูเพี้ยนๆ เราอยากทำให้มันดูไม่สมบูรณ์จนเกินไป” ต๊อดเล่าถึงแนวคิดเบื้องหลังการออกแบบปกแผ่นเสียงชุดพิเศษ

 

“คนในภาพเราก็ดึงคาแรกเตอร์มาจากคนที่เกี่ยวข้องกับโปรเจกต์นี้ มีพี่บอย พี่ป๊อด พี่เวย์ พี่มาเรียม เราอยากได้คนที่เกี่ยวข้องมากที่สุด เพื่อให้เขาเข้ามาอยู่ในโลกใบนี้ให้ได้ แล้วมีพวกมอนสเตอร์ มีคาแรกเตอร์ที่เป็นตัวเรา มีวัดพระแก้ว มีเสาชิงช้าในแบบของเรา

 

 

“เราอยากให้โลกนี้เป็นแฟนตาซี สนุกในแบบของเรา และเราเชื่อว่า ถ้าเราสนุก คนดูงานของเราก็จะสนุก”

 

โลกที่เติมเต็มด้วยสไตล์ของตัวเอง

เป๋ง-ชานนท์ ยอดหงษ์ คืออาร์ตไดเรกเตอร์ผู้รับไม้ต่อในการเติมแต่งศิลปะบนแผ่นเสียงจากต๊อด ด้วยความสนิทสนมและชื่นชมในสไตล์ภาพวาดของศิลปินรุ่นน้องเป็นทุนเดิม การร่วมมือกันในโปรเจกต์ BE MY WORLD จึงเต็มไปด้วยความสนุกสนาน

 

“ผมว่างานต๊อดเขามีเสน่ห์ ผมชอบลูกบ้า ลูกทะลึ่งลามกของเขาที่มันแอบในงาน สไตล์ต๊อดคือ แม่งทำลายหลักทุกอย่าง องค์ประกอบศิลป์ก็ผิด คู่สีก็ผิด สกิลการวาดก็ผิด ผิดทุกข้อ แต่เป็นงานต๊อดที่ออกมาแล้วมันดี” เป๋งเล่าถึงสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของนักวาดภาพประกอบคู่หู ก่อนจะเสริมอย่างจริงใจว่า “มันเป็นสไตล์ที่ก๊อบง่ายมาก เด็กหัดวาดก็ก๊อบมันได้ แต่ผมเชื่อว่า ไม่มีใครอยากได้งานคนอื่นนอกจากต๊อด ต้องเป็นต๊อดวาดเท่านั้น”

 

 

ในฐานะอาร์ตไดเรกเตอร์ที่เคยทำงานให้กับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่และดูแลภาพรวมอัลบั้มของศิลปินร็อกอันดับหนึ่งของไทย เป๋งมองว่า การทำงานแต่ละครั้งนั้นไม่มีสูตรตายตัว วิธีคิดสร้างสรรค์ผลงานแต่ละชิ้นย่อมต้องแตกต่างไปตามคาแรกเตอร์เฉพาะตัวของศิลปินแต่ละคน 

 

“ผมตั้ง Mindset สำหรับงานตัวเองไว้ตั้งแต่แรกเลยว่า ผมไม่ใช่อาร์ทิสต์ ผมเป็นอาร์ตไดเรกเตอร์ หน้าที่ของเราคือ ห้ามใช้สไตล์เป็นตัวเล่าเรื่อง ต้องใช้ตัวศิลปินเป็นตัวเล่าเรื่อง เราเป็นคน Follow เขาอีกทีหนึ่ง ผมต้องปักหมุดไว้อย่างนั้นเลย และผมจะไม่ให้งานซ้ำกัน ถ้างานไหนมีความคล้ายๆ เดิม ผมจะเริ่มคิดว่า ไม่ได้แล้ว ต้องเปลี่ยนแล้วว่ะ ข้อแรกคือ ห้ามเหมือนใคร ข้อสองคือ ห้ามซ้ำเดิม เป็น 2 ข้อที่ผมตั้งกฎไว้กับตัวเองตลอดเวลาทำงาน”

 

 

สำหรับโปรเจกต์ BE MY WORLD หน้าที่ของเป๋งคือ นำคาแรกเตอร์สุดยียวนของต๊อดมาจัดวางองค์ประกอบให้ดึงดูดใจยิ่งขึ้น โดยแอบแทรกกิมมิกการครีเอตสีของแผ่นเสียงเป็น 3 สีสดใสเซอร์ไพรส์ผู้ฟัง ไปจนถึงต่อยอดไอเดียการออกแบบแพ็กเกจจิ้งว่าต้องเพิ่มโอบิ หรือกระดาษหุ้มสันกล่อง เพื่อให้การวางข้อความต่างๆ ไม่ทำลายความสนุกของชิ้นงาน

 

การทำงานร่วมกับแบรนด์ระดับโลกอย่างบีเอ็มดับเบิลยู ช่วยสร้างระบบระเบียบใหม่ๆ ให้วิธีการทำงานของต๊อดและเป๋งไม่น้อย ในขณะเดียวกัน เป๋งมองว่า ความสนุกทะเล้นของพวกเขาก็ช่วยลดความเคร่งขรึมของแบรนด์ลงมาให้คนรุ่นใหม่รู้สึกเข้าถึงได้ง่ายขึ้นด้วย 

 

แผ่นเสียงอัลบั้ม BE MY WORLD จึงเป็นเหมือนตัวกลางที่พาความแตกต่างมาพบกัน เพื่อร่วมสร้างสรรค์ความเป็นไปได้ใหม่ๆ และส่งต่อความสนุก ความ JOY ไปชักชวนทุกคนให้มาใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง และมีความสุขไปพร้อมๆ กันในโลกของเสียงเพลงนี้

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล