รัฐบาลและธนาคารกลางของรัสเซีย มีแนวโน้มที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ในการเข้ามากำกับดูแลตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในฐานะสกุลเงินดิจิทัลมากกว่าการเป็นสินทรัพย์ รวมถึงนโยบายการเก็บภาษีในคริปโต ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นภายในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมคริปโต
ทั้งนี้ การจะนำคริปโตไปใช้ได้อย่างถูกต้องนั้นต้องผ่านการระบุตัวตนผ่านทางตัวกลาง หรือธนาคารที่ได้รับอนุญาตก่อนเท่านั้น
แอนโท พาเรียน หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของกองทุนที่เน้นในสกุลดิจิทัล ARK36 มองว่า การตอบสนองของรัสเซียจะเป็นการยืนยันถึงความสำคัญว่า เทคโนโลยีดังกล่าวนั้นมาเพื่อจะอยู่ต่อไป และจะมีส่วนสำคัญในระบบเศรษฐกิจอย่างแน่นอน ซึ่งการต่อต้านสกุลเงินเหล่านี้จะกลายเป็นความเสี่ยงแทนที่จะนำมันมาใช้ จากมุมมองที่ผู้คนมองต่อสกุลเงินเหล่านี้เปลี่ยนไป
นิค ดู ครอส หัวหน้าฝ่ายคอมไพล์แอนซ์ที่ CoinShares มองว่า แนวโน้มการเคลื่อนไหวเหล่านี้ ทำให้หลายประเทศที่ไม่ใช่ 7 ประเทศหลักควรเร่งดำเนินการสร้างมาตรฐานที่จะกำกับสกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้ ก่อนที่ 7 ประเทศหลักอย่าง แคนาดา,ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ญี่ปุ่น, สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ จะสร้างการกำกับดูแลขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ในฐานะประเทศคู่แข่งของรัสเซีย จะจับตามองการเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้นภายใน 18 กุมภาพันธ์นี้อย่างใกล้ชิดแน่นอน ว่าจะมีการพัฒนานโยบายการกำกับดูแลเช่นใดบ้างในอุตสาหกรรมคริปโต รวมถึงมาตรฐานภาษีที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเช่นกัน
โดยมาตรการที่จะเกิดขึ้นนั้น ตามมาหลังจากในเดือนที่ผ่านมา ธนาคารกลางรัสเซียได้ออกข้อเสนอที่จะจำกัดปริมาณการหมุนเวียนและการแลกเปลี่ยนคริปโตในประเทศ รวมถึงการแบนการขุดคริปโตเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการเงินที่อาจเกิดขึ้น
แต่ทั้งนี้ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ก็ยังเสนอมุมมองในรายงานว่า สนับสนุนการเก็บภาษีและกำกับการขุดคริปโต เพราะมองว่าเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้อีกด้วย
เช่นเดียวกับประเทศคู่แข่งอย่างสหรัฐฯ ที่กำลังรอความชัดเจนในการเก็บภาษีเกี่ยวข้องกับคริปโตในแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอยู่เหมือนกัน เนื่องจากทั้งสองประเทศนี้อย่างสหรัฐฯ และรัสเซีย มีแรงจูงใจในการทำมาตรการเหล่านี้ จากการที่เป็นสองประเทศที่มีอัตราการขุดคริปโตที่สูงในโลก หลังจากประเทศจีนโดนห้ามการขุดคริปโต
ทาง วิต กิบส์ ซีอีโอ Compass Mining ที่มีเหมืองขุดคริปโตอยู่ในไซบีเรียและรัสเซีย ได้อธิบายถึงมุมมองของประเทศนี้ว่า เป็นการ ‘Do No Harm’ หรือการไม่ทำให้เกิดผลเสีย ซึ่งทำให้มีนักลงทุนจากทั่วโลกจำนวนมากเข้าไปทำธุรกิจขุดคริปโตในรัสเซีย ทำให้เขามองว่าหลายประเทศทั่วโลกน่าจะสร้างมาตรฐานที่คล้ายๆ กันออกมาเกี่ยวกับ ‘บิทคอยน์’ และคริปโตที่จะมองในฐานะสกุลเงินมากขึ้น
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP