ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซียที่เสร็จสิ้นวานนี้ (17 มีนาคม) โดยได้คะแนนเสียงสูงกว่า 87 ซึ่งสูงสุดในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งผู้นำรัสเซียหลังยุคสหภาพโซเวียต
ผลการเลือกตั้งดังกล่าวทำให้ปูติน วัย 71 ปี ครองอำนาจประธานาธิบดีสมัยที่ 5 ต่ออีกในวาระ 6 ปี และกลายเป็นประธานาธิบดีรัสเซียที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในรอบกว่า 200 ปี แซงหน้าโจเซฟ สตาลิน
ขณะที่ปูตินกล่าวสุนทรพจน์ประกาศชัยชนะต่อกลุ่มผู้สนับสนุนในกรุงมอสโก โดยยืนยันว่าจะให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน และจะเสริมความแข็งแกร่งของกองทัพรัสเซีย
“เรามีภารกิจมากมายรออยู่ข้างหน้า แต่เมื่อเรารวมกำลังเข้าด้วยกัน ไม่ว่าใครก็ตามที่ต้องการข่มขู่เรา กดขี่เรา ไม่มีทางจะประสบความสำเร็จในประวัติศาสตร์ พวกเขาไม่ประสบความสำเร็จในตอนนี้ และพวกเขาจะไม่ประสบความสำเร็จตลอดไปในอนาคต”
นอกจากนี้ เขายังกล่าวต่อผู้สื่อข่าวโดยมองว่าการเลือกตั้งของรัสเซียเป็นประชาธิปไตยและมีความโปร่งใสมากกว่าหลายประเทศตะวันตก พร้อมชี้ถึงการเลือกตั้งในสหรัฐอเมริกาว่าเป็นหายนะและไม่ใช่ประชาธิปไตย
“ทั้งโลกกำลังหัวเราะกับสิ่งที่เกิดขึ้น (ในสหรัฐฯ) นี่เป็นเพียงหายนะ ไม่ใช่ประชาธิปไตย การใช้ทรัพยากรของรัฐโจมตีหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยใช้ระบบตุลาการ ถือเป็นประชาธิปไตยหรือไม่” เขาถามโดยอ้างถึงคดีอาญา 4 คดีที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเผชิญอยู่
นอกจากนี้ ปูตินยังแสดงความคิดเห็นเป็นครั้งแรกต่อการเสียชีวิตของอเล็กเซ นาวาลนี ผู้นำฝ่ายค้าน โดยกล่าวว่าการจากไปของนาวาลนีเป็น ‘เหตุการณ์อันน่าเศร้า’ และยืนยันว่ารัสเซียพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนตัวนักโทษที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองฝ่ายค้าน
ทั้งนี้ กลุ่มผู้สนับสนุนนาวาลนีในหลายเมืองของรัสเซียยังได้มีการประท้วงเชิงสัญลักษณ์ที่เรียกว่าการต่อต้านปูตินในเวลาเที่ยงวัน (Noon against Putin) ด้วยการไปใช้สิทธิลงคะแนนต่อต้านปูตินในเวลาเที่ยง ซึ่งทำให้หลายหน่วยเลือกตั้งในมอสโก เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และสถานทูตในต่างประเทศ มีผู้ไปต่อแถวยาวเพื่อลงคะแนน
โดยระหว่างการประท้วงตลอด 3 วัน (15-17 มีนาคม) มีรายงานเหตุวุ่นวายจากการประท้วงเกิดขึ้นในหลายจุด เช่น การจุดไฟเผาคูหา เทสีลงไปในหีบลงคะแนน หรือโพสต์ภาพที่เขียนข้อความต่อต้านปูตินลงในบัตรลงคะแนน
ขณะที่รายงานจาก OVD-Info กลุ่มติดตามการปราบปรามผู้เห็นต่างในรัสเซีย ระบุว่ามีประชาชนทั่วรัสเซียถูกจับกุมอย่างน้อย 74 คนระหว่างการเลือกตั้งครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม คาดว่าการประท้วงด้วยวิธีนี้ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อผลการเลือกตั้ง โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งเผยว่าจำนวนประชาชนรัสเซียที่ออกไปใช้สิทธิทั่วประเทศอยู่ที่ 74.22% จากผู้มีสิทธิลงคะแนนทั้งหมดกว่า 114 ล้านคน ซึ่งมากกว่าในปี 2018 ที่มีผู้ออกไปใช้สิทธิ 67.5%
เลือกตั้งปลอม
รัฐบาลเยอรมนีระบุถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซียที่เกิดขึ้นว่าเป็นการ ‘เลือกตั้งปลอม’ (Pseudo Election) ภายใต้การปกครองแบบเผด็จการ ซึ่งมีการปิดกั้นความคิดเห็น การปราบปราม และใช้ความรุนแรงจัดการผู้ต่อต้าน
เดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร ประณามการจัดการเลือกตั้งที่ผิดกฎหมายในดินแดนของยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดครอง
ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ประณาม ‘การกระทำแบบเผด็จการ’ ของรัสเซีย และชี้ว่าการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นในดินแดนของยูเครนนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย
อ้างอิง:
- https://www.bbc.com/news/world-europe-68592781
- https://www.reuters.com/world/europe/russias-presidential-vote-starts-final-day-with-accusations-kyiv-sabotage-2024-03-17/