บริษัท Gazprom ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซีย แจ้งต่อโปแลนด์และบัลแกเรีย ว่าจะระงับการจัดส่งก๊าซธรรมชาติให้แก่ทั้ง 2 ประเทศ เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ (27 เมษายน) หลังจากที่ทั้ง 2 ประเทศปฏิเสธที่จะจ่ายค่าก๊าซด้วยสกุลเงินรูเบิล ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวที่ส่งผลให้ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกขยายตัวมากยิ่งขึ้น
โดยบริษัทก๊าซ PGNiG ของรัฐบาลโปแลนด์ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจาก Gazprom ว่าการส่งก๊าซทั้งหมดจะถูกระงับตั้งแต่เวลา 08.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของยุโรปกลาง (CET) หรือ 13.00 น. ตามเวลาในไทย
เช่นเดียวกับกระทรวงพลังงานบัลแกเรีย ที่ยืนยันว่าได้รับแจ้งเรื่องการระงับส่งก๊าซตั้งแต่วันนี้เช่นกัน
ท่าทีของ Gazprom มีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ยืนยันว่า ‘ประเทศที่ไม่เป็นมิตร’ ซึ่งหมายถึงชาติตะวันตกและพันธมิตรที่คว่ำบาตรรัสเซีย ต้องจ่ายค่าซื้อก๊าซด้วยเงินรูเบิล ไม่เช่นนั้นจะระงับการจัดส่งก๊าซ
โดยโปแลนด์และบัลแกเรียปฏิเสธที่จะจ่ายค่าก๊าซด้วยรูเบิล และยืนยันว่าเป็นการละเมิดสัญญาที่ทำไว้
สำหรับ PGNiG มีการพึ่งพิงการนำเข้าก๊าซส่วนใหญ่จาก Gazprom ถึง 53% ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งบริษัทระบุว่า การระงับจัดส่งก๊าซดังกล่าวถือเป็นการละเมิดสัญญาและจะดำเนินการเพื่อให้มีการจัดส่งก๊าซตามเดิม
ขณะที่ แอนนา มอสกวา รัฐมนตรีสภาพภูมิอากาศของโปแลนด์ เปิดเผยว่า ยังไม่มีความจำเป็นที่ต้องดึงก๊าซจากคลังสำรองมาใช้ และจะไม่ตัดลดก๊าซสำหรับผู้บริโภคในประเทศ
โดย Marcin Przydacz รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศโปแลนด์ กล่าวว่า โปแลนด์ ได้เตรียมพร้อมสำหรับความเป็นไปได้ที่รัสเซียอาจจำกัดการส่งออกก๊าซ ด้วยการกระจายแหล่งนำเข้าก๊าซ และมั่นใจว่าจะรับมือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้
นอกจากนี้ เขาชี้ว่า การระงับส่งก๊าซของ Gazprom เป็นข้อพิสูจน์ว่า รัฐบาลมอสโก ‘ไม่ใช่คู่ค้าที่เชื่อถือได้ ไม่ว่าจะในธุรกิจใดๆ ก็ตาม’ และเรียกร้องให้ชาติยุโรปอื่นๆ เช่น เยอรมนี สนับสนุนการแบนนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย
ทางด้านบัลแกเรียที่พึ่งพิงก๊าซจาก Gazprom มากกว่า 90% ของปริมาณก๊าซทั้งหมด ระบุว่า ได้ดำเนินการเพื่อหาแหล่งก๊าซทางเลือกอื่นแล้ว และตอนนี้ยังไม่มีการจำกัดการบริโภคก๊าซ
โดยกระทรวงพลังงานบัลแกเรียยืนยันว่า ได้ปฏิบัติตามข้อผูกมัดภายใต้สัญญาปัจจุบันที่ทำกับ Gazprom แล้ว และได้ดำเนินการชำระเงินตามที่กำหนดในสัญญาแล้วทั้งหมด ซึ่งระบบการจ่ายเงินแบบใหม่ที่เสนอโดยรัสเซียนั้นถือเป็นการละเมิดสัญญาฉบับเดิม และการจ่ายเงินด้วยรูเบิลเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้และอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อบัลแกเรีย
ทั้งนี้ รัฐบาลโปแลนด์วางแผนที่จะหยุดนำเข้าก๊าซจากรัสเซียภายในสิ้นปีนี้อยู่แล้ว หลังสัญญาระยะยาวที่ทำกับ Gazprom สิ้นสุดลง
โดย PGNiG ระบุว่า คลังก๊าซใต้ดินของบริษัทนั้นเต็มเกือบ 80% และยิ่งใกล้ถึงช่วงฤดูร้อน ความต้องการใช้ก๊าซจะยิ่งลดลง ซึ่งนอกจากนี้โปแลนด์ยังมีแหล่งก๊าซอื่นๆ อีก รวมถึงคลังก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่เมืองสไวนูจซี ซึ่งเป็นเมืองท่าติดทะเลบอลติก
อีกทั้งในวันที่ 1 พฤษภาคม จะมีการเปิดท่อก๊าซใหม่ที่เชื่อมต่อกับลิทัวเนีย ซึ่งจะทำให้โปแลนด์เข้าถึงแหล่งก๊าซ LNG จากลิทัวเนียได้ นอกจากนี้ท่อส่งก๊าซจากนอร์เวย์ที่รู้จักในชื่อ ‘ท่อบอลติก (Baltic Pipe)’ ก็จะเปิดใช้งานในเดือนตุลาคม ซึ่งคาดว่าจะจัดส่งก๊าซได้เต็มความจุภายในสิ้นปี และสามารถแทนที่ก๊าซจากรัสเซียทั้งหมดได้
แฟ้มภาพ: Photo by Karol Serewis / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง: