ฟินแลนด์และสวีเดนสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO อย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้ (18 พฤษภาคม) โดยเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดที่เกิดขึ้นท่ามกลางการทำสงครามบุกยูเครนของรัสเซีย และถือเป็นการจุดชนวนการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญต่อสถานการณ์ความมั่นคงของทวีปยุโรปในรอบหลายทศวรรษ
ที่ผ่านมาฟินแลนด์และสวีเดนต่างยืนยันจุดยืนสถานะความเป็นกลางอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ยุคสงครามเย็น ซึ่งการตัดสินใจสมัครสมาชิก NATO ครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ของยุโรป และสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างกว้างขวางในแนวคิดของประชาชนในภูมิภาคนอร์ดิก ที่เกิดขึ้นภายหลังจากที่รัสเซียเปิดฉากบุกโจมตียูเครนอย่างเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์
เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการใหญ่ NATO กล่าวยินดีต่อการยื่นคำร้องสมัครเป็นสมาชิกของฟินแลนด์และสวีเดน โดยยกย่องสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์และทั้งสองประเทศ ถือเป็นพันธมิตรที่มีความใกล้ชิดของ NATO
“นี่เป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์ ซึ่งเราต้องคว้าไว้” สโตลเทนเบิร์กกล่าวในระหว่างพิธีรับมอบจดหมายสมัครสมาชิกจากเอกอัครราชทูตสวีเดนและฟินแลนด์ประจำ NATO
อย่างไรก็ตาม การเข้าเป็นสมาชิกของทั้ง 2 ประเทศ ต้องผ่านการให้สัตยาบันในรัฐสภาของชาติสมาชิก NATO ทั้ง 30 ประเทศ ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจต้องใช้เวลาในการดำเนินการนานถึง 1 ปี
ทางด้านตุรกีที่เป็นหนึ่งในชาติสมาชิก NATO ยังแสดงความกังขาต่อการสมัครเข้าร่วมของสวีเดนและฟินแลนด์ โดยรัฐบาลอังการาอ้างเหตุผลว่า ต้องการให้ทั้ง 2 ประเทศยุติการสนับสนุนและให้ที่พักพิงแก่กลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ด ที่ตุรกีขึ้นบัญชีเป็นกลุ่มก่อการร้าย และให้ยกเลิกการห้ามขายอาวุธบางอย่างต่อตุรกี
ขณะที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ จะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงรับรองผู้นำฟินแลนด์และสวีเดนที่ทำเนียบขาวในวันพรุ่งนี้ (19 พฤษภาคม) เพื่อหารือเรื่องการสมัครสมาชิก NATO ของทั้ง 2 ประเทศ
ภาพ: Photo by JOHANNA GERON / POOL / AFP
อ้างอิง:
