- ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียยังคงพยายามเดินหน้าโจมตีในกรุงเคียฟและหลายเมืองของยูเครน โดยมีรายงานอาคารและสิ่งปลูกสร้างถูกทำลายและมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเพิ่มเติมอีกหลายคน โดยทางการยูเครนเผยว่า สามารถอพยพพลเรือนออกจากพื้นที่สู้รบในแนวหน้าได้อีกกว่า 4,000 คน ขณะที่โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เผยว่าการเจรจาสันติภาพรอบที่ 4 ระหว่างคณะผู้แทนของรัสเซียและยูเครน อาจจัดขึ้นในวันนี้ (15 มีนาคม)
- ในกรุงเคียฟ สถานการณ์ล่าสุดเช้าวันนี้ประมาณเวลา 05.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น มีรายงานเสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังขึ้น 2 ครั้งจากพื้นที่ฝั่งตะวันตกของเมือง แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นการโจมตีด้วยอาวุธอะไร และโจมตีเป้าหมายใด
- ผู้สื่อข่าว CNN ที่อยู่ในกรุงเคียฟรายงานว่า เมื่อวานนี้ (14 มีนาคม) มีอาคารพักอาศัยในเขตโอโบลอนถูกโจมตี จนส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บอย่างน้อย 6 คน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ผู้สื่อข่าว 1 คน ของ Fox News จากสหรัฐฯ ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีในเคียฟเช่นกัน
- เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยว่า การโจมตีและความพยายามรุกคืบเข้าสู่เมืองต่างๆ ของกองทัพรัสเซียแทบทั้งหมดยังคงหยุดชะงักและมีความคืบหน้าน้อยมากในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งกองทัพยูเครนสามารถโจมตีตัดการขนส่งและเสบียงอาหารของกองทัพรัสเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกแถลงการณ์ ประกาศแผนโจมตีโรงงานผลิตอาวุธของยูเครนและเตือนให้พลเรือนอพยพ โดยอ้างว่าเป็นการตอบโต้ที่กองทัพยูเครนยิงขีปนาวุธสังหารประชาชนในแคว้นโดเนตสก์ไปกว่า 20 คน แต่ทางฝ่ายยูเครนโต้กลับว่าเป็นรัสเซียเองที่ยิงขีปนาวุธโจมตีในโดเนตสก์
- ในมาริอูโปล ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญทางตอนใต้ และเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่กองทัพรัสเซียปิดล้อมและพยายามบุกเข้ายึดตลอดหลายวันที่ผ่านมาแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ พบว่ามีการเผยแพร่ภาพดาวเทียมและคลิปวิดีโอความเสียหายในพื้นที่ชุมชนจากการโจมตีของรัสเซีย โดยมีทั้งภาพอาคารบ้านเรือนและห้างสรรพสินค้าถูกทำลาย และไฟไหม้อาคารอพาร์ตเมนต์อย่างรุนแรง
- The Kyiv Independent รายงานว่า กองทัพยูเครนนั้นประสบความสำเร็จในการปกป้องมาริอูโปล แม้ว่าสภาพภายในเมืองจะเสียหายหนัก และมีผู้เสียชีวิตรวมแล้วมากกว่า 2,500 คน โดย โอเลกซี เอเรสโตวิช ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน ระบุว่า “กองทัพรัสเซียพยายามกวาดล้างมาริอูโปลด้วยปืนใหญ่และจรวด”
- รามซาน คาดิรอฟ ผู้นำสาธารณรัฐเชเชน ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย เปิดเผยผ่านแอปพลิเคชัน Telegram เมื่อวานนี้ว่า นักรบเชเชนกำลังนำทัพรัสเซียในการบุกยึดมาริอูโปล โดยได้เคลื่อนกำลังพลเข้าไปในเมืองแล้ว แต่ได้ระงับการโจมตีในช่วงกลางคืน
- สำหรับการช่วยเหลือและอพยพพลเรือนออกจากเมือง มีรายงานจากที่ปรึกษานายกเทศมนตรีมาริอูโปลว่า ทางการได้เริ่มต้นอพยพพลเรือนผ่านช่องทางฉนวนมนุษยธรรม และกำลังนำผู้อพยพไปยังเมืองซาปอริซเซีย ที่ตอนนี้ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครน โดยล่าสุดพบว่ามีขบวนรถอพยพราว 160 คันที่เดินทางออกจากเมืองได้สำเร็จ
- อิรีนา เวเรชชุก รองนายกรัฐมนตรียูเครน เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ทางการยูเครนสามารถอพยพพลเรือนอีกกว่า 4,000 คนออกจากพื้นที่สู้รบในแนวหน้าของหลายเมือง โดยอพยพผ่านช่องทางฉนวนมนุษยธรรม ใน 7 จุด แต่มี 3 จุด รวมถึงในภูมิภาคเคียฟ ที่การอพยพไม่สำเร็จ ซึ่งเธอกล่าวหาว่ากองทัพรัสเซียได้ยิงใส่กลุ่มพลเรือนที่พยายามอพยพ
- ด้านโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เผยแพร่คลิปวิดีโอแถลงการณ์ผ่านทาง Telegram ช่วงเช้าวันนี้ โดยส่งข้อความเตือนไปยังบรรดาทหารเกณฑ์รัสเซียว่าจะไม่ได้อะไรจากการทำสงครามในยูเครน นอกจากการเสียชีวิตของทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมเผยว่า ได้ยินทุกอย่างที่ทหารรัสเซียโทรศัพท์พูดคุยกับครอบครัวและคนอื่นๆ เกี่ยวกับสงครามอันไร้เหตุผลนี้ และให้โอกาสรอดชีวิตหากยอมจำนนต่อกองทัพยูเครน โดยยืนยันว่าทหารรัสเซียจะได้รับการปฏิบัติแบบที่ผู้คนควรจะได้รับอย่างเหมาะสม
- “ในนามของชาวยูเครน ผมให้โอกาสคุณ โอกาสที่จะรอด หากคุณยอมจำนนต่อกองทัพของเรา เราจะปฏิบัติต่อคุณในแบบที่ผู้คนควรได้รับการปฏิบัติ ในฐานะประชาชนอย่างเหมาะสม ในแบบที่คุณไม่เคยได้รับการปฏิบัติในกองทัพของคุณ และในแบบที่กองทัพของคุณไม่เคยปฏิบัติต่อพวกเรา จงเลือกซะ!” เซเลนสกีกล่าว พร้อมอ้างว่ากองทัพรัสเซียสูญเสียเครื่องบินรบไปแล้ว 80 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ของรัสเซียที่ถูกยิงตกจะเพิ่มถึง 100 ลำในเร็วๆ นี้
- เซเลนสกียังเปิดเผยว่า การเจรจาสันติภาพรอบที่ 4 ระหว่างคณะผู้แทนของรัสเซียและยูเครน อาจจัดขึ้นในวันนี้ แต่ยังไม่มีการระบุสถานที่หรือเวลาที่แน่ชัด ขณะที่เขายังได้ยื่นขอให้รัฐสภายูเครนขยายระยะเวลาประกาศกฎอัยการศึกที่จะสิ้นสุดในวันที่ 24 มีนาคม ออกไปอีก 30 วัน
- สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) เปิดเผยว่า มีพลเรือนเสียชีวิตจากสงครามในยูเครนแล้วอย่างน้อย 636 คน และบาดเจ็บอีก 1,125 คน (ข้อมูลจนถึงวันที่ 13 มีนาคม) แต่คาดว่าตัวเลขแท้จริงอาจจะสูงกว่านี้มาก
ภาพ: Photo by Mykhaylo Palinchak/SOPA Images/LightRocket via Getty Images
อ้างอิง:
