×

เกาะติดวิกฤตยูเครน vs. รัสเซีย สถานการณ์ล่าสุด (24 กุมภาพันธ์ 2565)

โดย THE STANDARD TEAM
24.02.2022
  • LOADING...
วิกฤตยูเครน vs รัสเซีย

 


 

เจ้าหน้าที่ยูเครนเผย กองกำลังรัสเซียยึด ‘เชอร์โนบิล’ ได้แล้ว

 

 

สำนักข่าว AFP รายงานเมื่อราว 01.00 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ (ตามเวลาในไทย) ว่ายูเครนประกาศว่ากองกำลังรัสเซียเข้ายึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลได้แล้ว หลังจากการสู้รบที่ ‘ดุเดือด’ ในวันแรกของการบุกโจมตีโดยรัสเซีย

 

Mykhailo Podolyak ที่ปรึกษาทำเนียบประธานาธิบดียูเครน กล่าวว่า “หลังจากการจู่โจมอย่างไร้เหตุผลของรัสเซียในทิศทางนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลปลอดภัย นี่เป็นหนึ่งในภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดต่อยุโรปในปัจจุบัน”

 

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนการรุกรานของรัสเซีย โซนเชอร์โนบิลถูกปิดสำหรับนักท่องเที่ยว และรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวด้านความมั่นคงของรัสเซียรายหนึ่งระบุว่า ทหารรัสเซียบางส่วนได้รวมตัวกันใน ‘เขตห้ามเข้า’ ของเชอร์โนบิล ก่อนข้ามเข้าสู่ยูเครนก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี แหล่งข่าวรายเดียวกันยังระบุว่า รัสเซียต้องการควบคุมเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เชอร์โนบิล เพื่อส่งสัญญาณให้ NATO ไม่แทรกแซงทางทหาร

 

แฟ้มภาพ: DimaSid / Shutterstock (ภาพประกอบเป็นภาพเก่า ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ในวันนี้)

 

อ้างอิง:

 

 


 

เรือลาดตระเวนชั้น Slava ของรัสเซียยังปฏิบัติการในทะเลดำ-ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รับมือกองเรือบรรทุกเครื่องบิน NATO

 

 

มีรายงานว่า เรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธชั้น Slava ทั้ง 3 ลำของกองทัพเรือรัสเซียยังคงลอยลำปฏิบัติการอยู่ในทะเลดำและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพื่อรับมือกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีของสหรัฐฯ, อิตาลี และฝรั่งเศส ที่ปฏิบัติการอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียดยิ่งขึ้น หลังรัสเซียเริ่มปฏิบัติการทางทหารในยูเครน

 

โดยเรือลาดตระเวนชั้น Slava ที่มีระวางขับน้ำ 11,500 ตัน ประกอบด้วยเรือ Moskva ที่มีฐานอยู่ในทะเลดำ,​ เรือ Marshal Ustinov จากกองเรือทะเลเหนือ และ Varyag จากกองเรือแปซิฟิก ซึ่งออกแบบมาให้สามารถจมเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯ และ NATO ด้วยจรวดร่อนความเร็วสูง

 

ภาพ: Reuters


ประธานาธิบดียูเครนทวีต กองกำลังรัสเซียพยายามเข้ายึดโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล กรุงเคียฟประกาศเคอร์ฟิว 4 ทุ่มถึง 7 โมงเช้า ตามเวลาท้องถิ่น

 

 

โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าววันนี้ (24 กุมภาพันธ์) ว่ากองกำลังของยูเครนกำลังต่อสู้กับการบุกรุกกองทหารรัสเซียเพื่อเข้าควบคุมโรงงานเชอร์โนบิล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยเกิดภัยพิบัตินิวเคลียร์ครั้งร้ายแรงที่สุดของโลก

 

เขาระบุบน Twitter ว่ากองกำลังรัสเซีย ‘กำลังพยายามเข้ายึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ทหารของเรากำลังสละชีวิตของพวกเขาเพื่อที่โศกนาฏกรรมในปี 1986 จะไม่เกิดขึ้นอีก’

 

เขาเรียกการโจมตีครั้งนี้ว่า ‘การประกาศสงครามกับทั้งยุโรป’

 

อีกด้านหนึ่ง วิตาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่กรุงเคียฟในคืนวันนี้ ตั้งแต่เวลา 22.00-07.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และระบบขนส่งสาธารณะจะหยุดการให้บริการระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว แต่สถานีรถไฟใต้ดินจะยังเปิดอยู่เพื่อให้บริการเป็นที่กำบังจากระเบิด อย่างไรก็ตาม ไม่ปรากฎข้อมูลแน่ชัดในเว็บไซต์สำนักข่าวแห่งชาติของยูเครนว่าการใช้มาตรการเคอร์ฟิวดังกล่าวจะบังคับใช้กี่วัน

 

แฟ้มภาพ: Karen Kasmauski / Getty Images
(ภาพประกอบเป็นภาพเก่า ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ในวันนี้)

 

อ้างอิง:
• AFP
https://twitter.com/ZelenskyyUa/status/1496862540957114370
https://www.ukrinform.net/rubric-ato/3411775-kyiv-imposes-curfew-from-2200-to-700.html


เรือลาดตระเวนชั้น Slava ของรัสเซียยังปฏิบัติการในทะเลดำ-ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รับมือกองเรือบรรทุกเครื่องบิน NATO

 

 

มีรายงานว่า เรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธชั้น Slava ทั้ง 3 ลำของกองทัพเรือรัสเซียยังคงลอยลำปฏิบัติการอยู่ในทะเลดำและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพื่อรับมือกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีของสหรัฐฯ, อิตาลี และฝรั่งเศส ที่ปฏิบัติการอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียดยิ่งขึ้น หลังรัสเซียเริ่มปฏิบัติการทางทหารในยูเครน

 

โดยเรือลาดตระเวนชั้น Slava ที่มีระวางขับน้ำ 11,500 ตัน ประกอบด้วยเรือ Moskva ที่มีฐานอยู่ในทะเลดำ,​ เรือ Marshal Ustinov จากกองเรือทะเลเหนือ และ Varyag จากกองเรือแปซิฟิก ซึ่งออกแบบมาให้สามารถจมเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯ และ NATO ด้วยจรวดร่อนความเร็วสูง

 

ภาพ: Reuters

 


 

ประธานาธิบดียูเครนทวีต กองกำลังรัสเซียพยายามเข้ายึดโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล กรุงเคียฟประกาศเคอร์ฟิว 4 ทุ่มถึง 7 โมงเช้า ตามเวลาท้องถิ่น

 

 

โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าววันนี้ (24 กุมภาพันธ์) ว่ากองกำลังของยูเครนกำลังต่อสู้กับการบุกรุกกองทหารรัสเซียเพื่อเข้าควบคุมโรงงานเชอร์โนบิล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยเกิดภัยพิบัตินิวเคลียร์ครั้งร้ายแรงที่สุดของโลก

 

เขาระบุบน Twitter ว่ากองกำลังรัสเซีย ‘กำลังพยายามเข้ายึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ทหารของเรากำลังสละชีวิตของพวกเขาเพื่อที่โศกนาฏกรรมในปี 1986 จะไม่เกิดขึ้นอีก’

 

เขาเรียกการโจมตีครั้งนี้ว่า ‘การประกาศสงครามกับทั้งยุโรป’

 

อีกด้านหนึ่ง วิตาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่กรุงเคียฟในคืนวันนี้ ตั้งแต่เวลา 22.00-07.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และระบบขนส่งสาธารณะจะหยุดการให้บริการระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว แต่สถานีรถไฟใต้ดินจะยังเปิดอยู่เพื่อให้บริการเป็นที่กำบังจากระเบิด อย่างไรก็ตาม ไม่ปรากฎข้อมูลแน่ชัดในเว็บไซต์สำนักข่าวแห่งชาติของยูเครนว่าการใช้มาตรการเคอร์ฟิวดังกล่าวจะบังคับใช้กี่วัน

 

ภาพ: Karen Kasmauski / Getty Images (ภาพประกอบเป็นภาพเก่า ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ในวันนี้)

อ้างอิง:

 


 

NATO จ่อจัดประชุมหารือวิกฤตการณ์รัสเซีย-ยูเครนพรุ่งนี้ ออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรง เรียกร้องรัสเซียถอนทหารจากยูเครน และนำแผนป้องกันสำหรับชาติสมาชิกมาใช้

 

 

องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) จะจัดการประชุมแบบ Video Summit เกี่ยวกับวิกฤตการณ์รัสเซีย-ยูเครนในวันศุกร์นี้ (25 กุมภาพันธ์) ในขณะเดียวกัน NATO ก็ประกาศหลังการประชุมฉุกเฉินของทูต 30 ชาติสมาชิก NATO ว่าขั้นตอนเพิ่มเติมกำลังถูกนำมาใช้เพื่อปกป้องชาติสมาชิก

 

“เราได้ตัดสินใจดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างการป้องปรามและป้องกันทั่วทั้งกลุ่ม NATO ตามแผนการเชิงป้องกันของเราเพื่อปกป้องพันธมิตรทั้งหมด มาตรการของเรายังคงเป็นมาตรการเชิงป้องกัน ซึ่งได้สัดส่วนและไม่ขยายระดับสถานการณ์” NATO กล่าวในแถลงการณ์

 

นักการทูตรายหนึ่งบอกกับ AFP ว่า “กองกำลังป้องกันพิเศษทางบกและทางอากาศกำลังจะถูกส่งไปยังแนวรบด้านตะวันออกของ NATO และจะมีมาตรการทางเรือเพิ่มเติม”

 

และในแถลงการณ์ของ NATO ที่เผยแพร่ออกมาเมื่อช่วงเย็น (ตามเวลาในประเทศไทย) ปรากฏว่า NATO ประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการโจมตีของรัสเซียในยูเครน ซึ่ง ‘ไม่ยุติธรรมและปราศจากการยั่วยุ’ และเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและพันธกรณีของรัสเซีย นอกจากนี้แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุว่า การกระทำของรัสเซีย ‘เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงของภูมิภาคยูโร-แอตแลนติก และพวกเขาจะได้รับผลกระทบเชิงภูมิยุทธศาสตร์’ และยังประณามพันธมิตรรัสเซียอย่างเบลารุสสำหรับการทำให้การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้น

 

“เราเรียกร้องให้รัสเซียยุติปฏิบัติการทางทหารทันที และถอนกำลังทั้งหมดออกจากในและรอบๆ ยูเครน เพื่อเคารพกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเต็มที่ และเพื่ออนุญาตให้มีการเข้าถึง ตลอดจนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่ปลอดภัยและไม่ถูกขัดขวางแก่ทุกคนที่ต้องการ”

 

นอกจากนี้ แถลงการณ์ของ NATO ยังประณามการตัดสินใจของรัสเซียในการรับรองเอกราชของ 2 พื้นที่แบ่งแยกดินแดนในยูเครนตะวันออก ว่าเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน และขัดต่อข้อตกลงมินสก์ ซึ่งรัสเซียเป็นผู้ลงนาม และ NATO จะไม่ยอมรับการรับรองที่ผิดกฎนี้

 

“บรรดาผู้นำของรัสเซียต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อผลที่ตามมาของการกระทำของพวกเขา รัสเซียจะต้องชดใช้ราคาทางเศรษฐกิจและการเมืองที่หนักอึ้ง”

 

ถ้อยแถลงของ NATO ยังระบุว่า บรรดาทูตได้ปรึกษาหารือกันภายใต้ข้อกำหนดมาตรา 4 ของสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ซึ่งถูกใช้เมื่อฝ่ายใดของ NATO เชื่อว่าบูรณภาพแห่งดินแดน ความเป็นอิสระทางการเมือง หรือความมั่นคงของฝ่ายใดๆ ถูกคุกคาม

 

ทั้งนี้ แม้ว่ายูเครนจะไม่ได้เป็นสมาชิก NATO แต่ก็ถือเป็นประเทศหุ้นส่วน

 

และในช่วงเย็นเช่นกัน เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการ NATO ยืนยันว่า NATO กำลังนำ ‘แผนป้องกัน’ สำหรับชาติสมาชิกพันธมิตรมาใช้ ทั้งนี้ เขาไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับแผนนี้นอกจากกล่าวว่าเป็น ‘แผนเชิงป้องกัน’ ที่อนุญาตให้ส่งกำลังที่ ‘ครอบคลุมทั่วทั้งตะวันออกของชาติพันธมิตร’ และ ‘ให้อำนาจผู้บัญชาการทหารของเรามากขึ้นตามแนวทางที่กำหนดทางการเมือง’ และบอกว่าแผนนี้จะรวมถึงองค์ประกอบของกองกำลังตอบโต้อย่างรวดเร็วของ NATO ที่มีทหาร 40,000 นาย รวมถึงหน่วยที่เตรียมพร้อมอย่างสูง 7,000 นาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวฝรั่งเศสและหน่วยอากาศยานทางทหารภายใต้การบัญชาการของฝรั่งเศส

 

อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่า NATO ไม่มีแผนจะส่งกองกำลังของตนเข้าไปในยูเครน ซึ่งยูเครนเองก็อยู่ทางตะวันออกของ NATO เช่นกัน

 

สโตลเทนเบิร์กยังระบุว่า การบุกยูเครนจะมีผลกระทบในระยะยาวต่อความสัมพันธ์ของ NATO กับรัสเซีย ตลอดจนท่าทีด้านความมั่นคงของ NATO

 

“เราไม่มีคำตอบทั้งหมดในวันนี้ แต่มันจะเป็นความเป็นจริงใหม่ มันจะเป็นยุโรปใหม่หลังจากการรุกรานที่เราเห็นในวันนี้” เขากล่าว และระบุถึงรัสเซียว่า ไม่ได้ใช้ความพยายาม ‘อย่างจริงจัง’ ในการหาทางแก้ไขทางการเมืองเพื่อจัดการกับความตึงเครียดที่เกิดขึ้นก่อนการโจมตีทางทหารต่อยูเครน

 

“ดังนั้นรัสเซียได้ปิดประตูสู่การแก้ปัญหาทางการเมืองแล้ว เราเสียใจกับสิ่งนั้น แต่นั่นเป็นความจริงที่น่าเศร้า ซึ่งมีผลกระทบอย่างสาหัสและร้ายแรงมากสำหรับประชาชนของยูเครน และยังส่งผลกระทบต่อความมั่นคงสำหรับพวกเราทุกคนด้วย

 

“และนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงเพิ่มการประจำการของเราในทางตะวันออกของ NATO”

 

ภาพ: JOHN THYS / AFP

อ้างอิง:

 


 

จีนเรียกร้องทุกฝ่ายนั่งลงเจรจาแก้ปัญหายูเครน

 

 

รัฐบาลจีนออกมาเรียกร้องอีกครั้งให้ทุกฝ่ายพูดคุยเพื่อหาทางออกจากวิกฤตยูเครน ขณะเดียวกันก็ปฏิเสธที่จะวิจารณ์การโจมตีของรัสเซียในหลายพื้นที่ของยูเครน

 

ฮว่าชุนอิ๋ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวในการแถลงข่าวประจำวันที่กรุงปักกิ่งวันนี้ (24 กุมภาพันธ์) ว่าปัญหายูเครนมีความซับซ้อนด้วยภูมิหลังทางประวัติศาสตร์

 

“จีนกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เรายังหวังว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะไม่ปิดประตูสู่สันติภาพ และใช้การพูดคุยและหารือแทน เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าว

 

ภาพ: Artyom Ivanov / TASS via Getty Images

 


 

ยูเครนประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซีย และแจกอาวุธแก่พลเมืองที่ปกป้องยูเครนได้

 

 

16.49 น. โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนแถลงว่า ยูเครนได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซียแล้ว นับเป็นการสะบั้นความสัมพันธ์ครั้งแรกตั้งแต่รัสเซียและยูเครนกลายมาเป็นประเทศอิสระหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี 1991

 

“เราได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซีย ยูเครนกำลังปกป้องตนเอง และจะไม่ละทิ้งเสรีภาพไม่ว่ารัสเซียจะคิดอย่างไร”

 

ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์หลายรายระบุว่า ยูเครนกระตือรือร้นที่จะรักษาช่องทางการทูตกับรัสเซียให้เปิดเอาไว้ เนื่องจากจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือด้านกงสุลและอื่นๆ ให้กับชาวยูเครนเกือบ 3 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในรัสเซีย

 

นอกจากนี้ สำนักข่าวแห่งชาติของยูเครนยังรายงานคำกล่าวของเซเลนสกีด้วยว่า ยูเครนเริ่มมอบอาวุธให้แก่พลเมืองทุกคนที่ปรารถนาและสามารถปกป้องยูเครนได้

 

“เราได้แจกอาวุธแล้วให้กับทุกคนที่ต้องการ ทุกคนที่สามารถปกป้อง (ยูเครน) ได้ และจะทำต่อไปเพื่อปกป้องดินแดนของเรา”

 

ภาพ: (เซเลนสกีเข้าประชุม Eastern Partnership summit วันที่ 15 ธันวาคม 2564): Alexandros Michailidis / Shutterstock”

อ้างอิง:

 


 

สมาชิกหน่วยพิทักษ์ชายแดนยูเครนเสียชีวิต 3 ราย แต่อีกด้านยูเครนอ้างกองกำลังของรัฐบาลสังหารทหารรัสเซียได้ 50 ราย

 

 

17.13 น.

 

เมื่อเวลา 15.42 น. วันนี้ (24 กุมภาพันธ์) หน่วยงานพิทักษ์ชายแดนของยูเครนระบุว่า จำนวนกำลังของหน่วยพิทักษ์ชายแดนที่เสียชีวิตจากการต่อสู้หลังเกิดปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียเพิ่มขึ้นเป็น 3 ราย และกำลังอีกบางส่วนได้รับบาดเจ็บ

 

จำนวนผู้เสียชีวิตดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ไม่นานนัก ที่หน่วยงานดังกล่าวเพิ่งยืนยันอย่างเป็นทางการว่ามีกำลังของหน่วยพิทักษ์ชายแดนยูเครนเสียชีวิตเป็นรายแรก โดยเป็นผู้เสียชีวิตจากการโจมตีตามแนวชายแดนไครเมีย

 

หน่วยงานพิทักษ์ชายแดนยังระบุว่า แม้จะมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ แต่ทางหน่วยยังคงต่อสู้กับผู้ที่พยายามยึดครองต่อไป

 

ขณะเดียวกัน ฝั่งกองบัญชาการทหารของยูเครนก็ระบุว่ากองกำลังของรัฐบาลได้สังหารกำลังทหารของรัสเซียประมาณ 50 ราย ขณะที่พยายามโต้กลับการโจมตีเมืองแห่งหนึ่งในแนวหน้ากับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย

 

ภาพ: xbrchx / Getty Images

อ้างอิง:

 


 

EU ระบุ การโจมตีของรัสเซีย เป็นหนึ่งในชั่วโมงที่มืดมิดที่สุดของยุโรป นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2

 

 

17.00 น.

 

โจเซฟ บอร์เรลล์ รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) และผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศของ EU ระบุว่า “การโจมตีของรัสเซีย นับเป็นชั่วโมงที่มืดมิดที่สุดสำหรับยุโรป นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2”

 

โดย EU ให้คำมั่นจะส่งความช่วยเหลือเร่งด่วนให้กับยูเครน และอำนวยความสะดวกในเรื่องการอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง เตรียมพร้อมดำเนินนโยบายคว่ำบาตรที่รุนแรงต่อรัสเซีย เพื่อตอบโต้การกระทำดังกล่าวที่ทำให้วิกฤตการณ์ในครั้งนี้ทวีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น

 

ภาพ: EU Commission / Pool / Anadolu Agency via Getty Images

 


 

ประมวลภาพความเสียหายในยูเครน หลังรัสเซียสั่งปฏิบัติการทางทหาร

 

วันนี้ (24 กุมภาพันธ์) นี่คือประมวลภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อชีวิตประชาชน ทรัพย์สินและอาคารบ้านเรือนของชาวยูเครนในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงกรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศ ภายหลังจากที่ทางการรัสเซียสั่งปฏิบัติการพิเศษทางทหารและเคลื่อนกำลังพลเข้าสู่ภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน ที่รัสเซียเคยประกาศรับรองเอกราชให้ในฐานะรัฐอิสระเมื่อไม่กี่วันก่อน เบื้องต้นเริ่มทยอยมีรายงานการเสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้แล้ว

 

ภาพ: Wolfgang Schwan / Anadolu Agency via Getty Images

 

ภาพ: Wolfgang Schwan / Anadolu Agency via Getty Images

 

ภาพ: Wolfgang Schwan / Anadolu Agency via Getty Images

 

ภาพ: Sergei Supinsky / AFP

 

ภาพ: Wolfgang Schwan / Anadolu Agency via Getty Images 

 

 


 

กองทัพรัสเซียอ้าง ทหารยูเครนทิ้งฐานที่มั่นและอาวุธ หลังปูตินเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารในดอนบาส

 

 

15.36 น.

 

เว็บไซต์สำนักข่าว RBC News ของรัสเซียรายงานโดยอ้างข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ที่ระบุว่า หน่วยทหารของยูเครนได้ละทิ้งฐานที่มั่นและอาวุธ หลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศเริ่มต้นปฏิบัติการพิเศษทางทหารในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน และมีการเปิดฉากโจมตีเต็มรูปแบบ รวมถึงการยิงขีปนาวุธโจมตีเป้าหมายทางทหารของยูเครน

 

“ข้อมูลข่าวกรองแสดงให้เห็นว่า หน่วยรบและทหารของกองทัพยูเครนกำลังออกจากที่มั่นและละทิ้งอาวุธ” รายงานระบุ พร้อมเผยว่ากองทัพรัสเซียไม่ได้โจมตีฐานที่มั่นของหน่วยทหารยูเครนที่ยอมวางอาวุธ

 

เบื้องต้นทางกองทัพยูเครน รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากการโจมตีของฝ่ายรัสเซียในช่วงต้น ที่เริ่มจากพื้นที่ขัดแย้งทางตะวันออก ขณะที่ทางการยูเครนไม่ยืนยันข้อมูลว่ามีทหารละทิ้งฐานที่มั่นตามที่รัสเซียกล่าวอ้างหรือไม่

 

รหัสภาพ Getty: 455528268

ภาพ: Photo by Sean Gallup/Getty Images

อ้างอิง

 


 

ยูเครนเผย การโจมตีจากรัสเซียมาจากทุกทิศทุกทาง

 

 

ยูเครนระบุว่า ยานหุ้มเกราะทหารของรัสเซียเคลื่อนข้ามพรมแดนเข้ามาในยูเครนจากหลายทิศทาง ซึ่งรวมทั้งจากเบลารุสทางทิศเหนือ และไครเมียทางทิศใต้

 

 

นอกจากนี้รัสเซียยังมีการเคลื่อนกำลังข้ามแดนทางทิศตะวันออกในแคว้นคาร์คิฟและลูฮันสก์ โดยกองกำลังพิทักษ์ชายแดนยูเครนเผยว่า รัสเซียเปิดฉากยิงด้วยปืนใหญ่ก่อนจะส่งรถทหารข้ามพรมแดนเข้ามา

 

 

ทั้งนี้หน่วยข่าวกรองตะวันตกประเมินเมื่อ 10 วันที่แล้วว่า หากรัสเซียจะโจมตีเคียฟได้สำเร็จ (จากทางทิศเหนือ) จะต้องปิดล้อมหรือบั่นทอนกำลังของหน่วยทหารที่มีศักยภาพที่สุดของยูเครน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ตะวันออก

 

 

โดยจากหลักฐานที่มีอยู่จนถึงขณะนี้ บ่งชี้ว่าการโจมตีจากรัสเซียมาจากทุกทิศทุกทาง

 

 

ภาพ: Wolfgang Schwan / Anadolu Agency via Getty Images


ตลาดหลักทรัพย์มอสโกกลับมาเปิดการซื้อขายอีกครั้ง หลังระงับการซื้อขายไปชั่วคราว

 

 

15.05 น. ตลาดหลักทรัพย์มอสโก (Moscow Exchange) ของรัสเซีย ประกาศกลับมาเปิดการซื้อขายอีกครั้งในเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) หลังประกาศระงับการซื้อขายชั่วคราวไปตั้งแต่เวลาราว 08.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)

 

ข้อมูล ณ เวลา 15.12 น. ระบุว่าดัชนี MOEX ลดลงมากกว่าร้อยละ 33 ขณะที่ดัชนี RTS ลดลงราวร้อยละ 39

 

ภาพ: T. Schneider / Shutterstock

อ้างอิง:
https://www.moex.com/en/

 


 

ถนนในกรุงเคียฟเริ่มแน่นขนัด รถจำนวนมากมุ่งหน้าออกจากเมืองหลวง

 

 

15.00 น. บรรยากาศบนท้องถนนในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน เริ่มแน่นขนัด รถจำนวนมากต่างมุ่งหน้าออกจากเมืองหลวง หลังรัสเซียปฏิบัติการพิเศษทางทหารในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน หวั่นสถานการณ์บานปลายปะทุกลายเป็นสงครามใหญ่

 

 


ตำรวจยูเครนเผย มีประชาชนเสียชีวิตจากเหตุระเบิดโจมตีโดยฝีมือกองทัพรัสเซียแล้ว 7 คน

 

 

14.31 น. ตำรวจท้องถิ่นของยูเครนรายงานว่า มีประชาชนเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 7 คน จากเหตุระเบิดโดยฝีมือของกองทัพรัสเซีย ในจำนวนนี้ 6 คน เสียชีวิตภายหลังเกิดเหตุระเบิดโจมตีหน่วยบัญชาการกองทัพในเมืองโปดิลสก์ จังหวัดโอเดสซา ทางตะวันตกเฉียงใต้ โดยมีผู้บาดเจ็บ 7 คน และสูญหาย 19 คน ส่วนอีก 1 คน เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่เมืองมารีอูปอล

 

รายงานผู้เสียชีวิตดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ทางการยูเครนเปิดเผยว่า ยานพาหนะของกองทัพรัสเซียได้ข้ามชายแดนเข้าสู่ยูเครนจากหลายจุด รวมถึงชายแดนทางตอนเหนือจากเบลารุสและชายแดนทางใต้จากไครเมีย ขณะที่เกิดเหตุระเบิดและการโจมตีขึ้นในหลายเมือง

 

ภาพ: Ukrainian President’s Office

อ้างอิง:
https://www.bbc.com/news/live/world-europe-60454795

 


กลาโหมรัสเซียระบุ ได้ทำลายศูนย์อากาศยานทางทหารและระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครน

 

 

13.15 น. กระทรวงกลาโหมของรัสเซียระบุว่า ได้ทำลายศูนย์อากาศยานทางทหารและระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครน ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ประกาศปฏิบัติการทางทหารในภูมิภาคดอนบาสของยูเครน

 

“โครงสร้างพื้นฐานทางทหารที่ศูนย์อากาศยานทางทหารของกองทัพยูเครนถูกทำให้ไม่สามารถใช้งานได้” กระทรวงกลาโหมกล่าวในแถลงการณ์ที่ถูกนำเสนอโดยหลายสำนักข่าว ซึ่งเสริมว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศของกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนนั้น ‘ถูกกำจัด’

 

สำนักข่าว RT ของรัสเซียยังรายงานว่า รัสเซียปฏิเสธคำอ้างของฝั่งยูเครนว่ารัสเซียได้สูญเสียเครื่องบินทหารอย่างน้อยหนึ่งลำทั่วประเทศระหว่างการโจมตี

 

ภาพ: Ultraskrip / Shutterstock

อ้างอิง:

• AFP
https://www.rt.com/russia/550426-ukrainian-air-defense-systems-suppressed/

 


บรรยากาศโดยรวมล่าสุดในกรุงเคียฟ หลังรัสเซียปฏิบัติการพิเศษทางทหารในดอนบาส

 

 

วันนี้ (24 กุมภาพันธ์) นี่คือบรรยากาศโดยรวมล่าสุดภายในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน หลังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน มีคำสั่งปฏิบัติการพิเศษทางทหารในภูมิภาคดอนบาสหรือพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน ที่เคยให้การรับรองเป็นรัฐเอกราชเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

 

 

มีรายงานการได้ยินเสียงระเบิดขึ้นเป็นระยะในหลายจุดของยูเครน รวมถึงภายในกรุงเคียฟ เป็นเหตุให้ประชาชนจำนวนมากต่างทยอยรีบอพยพออกจากพื้นที่ดังกล่าว เพื่อหาที่หลบภัย ขนส่งสาธารณะหลายสายแน่นขนัด ยานพาหนะต่างมุ่งหน้าออกจากเมืองหลวง หวั่นสถานการณ์บานปลาย ด้านกระทรวงกลาโหมของรัสเซียยังยืนกรานว่า รัสเซียไม่ได้โจมตีเมืองต่างๆ ในยูเครนแต่อย่างใด

 


กองทัพยูเครนเผย เครื่องบินรัสเซีย 5 ลำ และเฮลิคอปเตอร์อีก 1 ลำ ถูกยิงตก

 

 

13.20 น. กองทัพยูเครนอ้างว่า มีเครื่องบินทหารของรัสเซีย 5 ลำ กับเฮลิคอปเตอร์อีก 1 ลำ ถูกยิงตกในช่วงเช้านี้ (24 กุมภาพันธ์) ตามเวลาท้องถิ่น ในขณะที่กองกำลังรัสเซียโจมตีเป้าหมายในยูเครนอย่างต่อเนื่อง

 

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลว่าอากาศยานที่ถูกยิงตกนั้นเป็นรุ่นใด ขณะที่กองทัพรัสเซียปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าว

 

หมายเหตุ: ภาพเป็นแฟ้มภาพประกอบเครื่องบินรัสเซีย ไม่ใช่เครื่องบินที่ถูกยิงตกแต่อย่างใด

 

ภาพ: Getty Images


ผู้นำยุโรปร่วมประณามรัสเซีย เรียกร้องให้เคารพอธิปไตยและถอนทหารออกจากยูเครนในทันที

 

 

13.50 น. ชาร์ล มีแชล ประธานคณะมนตรียุโรป (European Council) และ อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ร่วมประณามรัสเซีย หลังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน มีคำสั่งปฏิบัติการพิเศษทางทหารในภูมิภาคดอนบาสที่ตนเคยประกาศรับรองเอกราชเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

 

โดยชี้ว่า “การกระทำของรัสเซียละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ บ่อนทำลายความมั่นคงและเสถียรภาพของยุโรป รวมถึงประชาคมโลกอย่างเด่นชัด

 

เราจึงขอเรียกร้องให้รัสเซียยุติพฤติการณ์ที่เป็นปฏิปักษ์ดังกล่าวนั้นทั้งหมด ถอนกำลังทางทหารออกจากยูเครน รวมถึงเคารพบูรณภาพแห่งดินแดน อำนาจอธิปไตยและความเป็นเอกราชของยูเครนในทันที ไม่มีพื้นที่ให้กับการใช้กำลังและการบังคับขู่เข็ญในโลกศตวรรษที่ 21”

 

สหภาพยุโรปและพันธมิตรโดยเฉพาะ NATO และ G7 เตรียมพร้อมส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในทันที และเรียกร้องให้รัสเซียและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนรัสเซียเคารพหลักการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสากล

 


กองทัพอากาศยูเครนตอบโต้การโจมตีทางอากาศของรัสเซียในยูเครน

 

 

12.49 น. กองทัพยูเครนออกแถลงการณ์ว่า กองทัพรัสเซียได้เริ่มโจมตีหน่วยทหารที่อยู่ในพื้นที่ตะวันออกของยูเครนอย่างหนัก

 

แถลงการณ์ระบุว่า รัสเซียโจมตีด้วยอาวุธนำวิถีใส่สนามบินบอริสพิลใกล้กรุงเคียฟและสนามบินอีกหลายแห่ง ซึ่งล่าสุดกองทัพอากาศยูเครนได้เริ่มปฏิบัติการโต้กลับเพื่อสกัดการโจมตีทางอากาศของรัสเซียแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม กองทัพยูเครนปฏิเสธรายงานข่าวเกี่ยวกับหน่วยพลร่มของรัสเซียที่ปฏิบัติการในพื้นที่เมืองท่าโอเดสซา ทางใต้ของยูเครน

 

ภาพ: getty

 


ยูเครนเผยรายละเอียดปฏิบัติการทางทหารรัสเซียตั้งแต่เช้า มีการยิงจรวดร่อนโจมตีเป้าหมายในเคียฟ

 

 

12.37 น. เจมส์ วอเตอร์เฮาส์ ผู้สื่อข่าว BBC ในกรุงเคียฟ รายงานว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครนได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียที่เปิดฉากขึ้นในช่วงเช้าตรู่วันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น

 

เจ้าหน้าที่เผยว่า รัสเซียได้ยิงจรวดร่อนนำวิถีโจมตีเป้าหมายหลายจุดในเคียฟช่วงเช้านี้ รวมทั้งมีการเคลื่อนกำลังทหารในเมืองโอเดสซาไปทางใต้ของประเทศ

 

นอกจากนี้ยังมีการเคลื่อนทหารข้ามชายแดนในคาร์คิฟ ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนรัสเซียราว 25 ไมล์

 

มีรายงานจากสื่อท้องถิ่นที่อ้างข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทยยูเครนด้วยว่า รัสเซียได้โจมตีศูนย์บัญชาการขีปนาวุธของยูเครนและกองบัญชาการทหารในกรุงเคียฟด้วย

 

อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมของรัสเซียยืนกรานว่า รัสเซียไม่ได้โจมตีเมืองต่างๆ ในยูเครน แต่ระบุว่า การโจมตีมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานทางทหาร การป้องกันทางอากาศ และกองทัพอากาศ ด้วยอาวุธที่แม่นยำสูง

 


 

ผู้นำสหรัฐฯ-ยูเครนต่อสายพูดคุย ไบเดนให้คำมั่นจะสนับสนุนและช่วยเหลือยูเครน

 

 

12.30 น. เว็บไซต์ทำเนียบขาวเผยแพร่แถลงการณ์จาก โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา หลังการพูดคุยทางโทรศัพท์กับ โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีของยูเครน ในคืนวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงวอชิงตัน โดยไบเดนให้คำมั่นถึงการสนับสนุนและช่วยเหลือยูเครนและประชาชนยูเครน

 

แถลงการณ์ดังกล่าวมีใจความดังนี้

 

“ประธานาธิบดีเซเลนสกีติดต่อกับผมในคืนนี้และเราเพิ่งพูดคุยกันจบ ผมประณามการโจมตีโดยกองกำลังทหารรัสเซียโดยปราศจากการยั่วยุและไม่ยุติธรรม ผมสรุปแก่เขาเกี่ยวกับขั้นตอนที่เรากำลังดำเนินการเพื่อระดมการประณามในระดับนานาชาติ รวมทั้งคืนนี้ที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

 

“เขา (เซเลนสกี) ขอให้ผมเรียกร้องให้บรรดาผู้นำของโลกพูดอย่างชัดเจน เพื่อต่อต้านการรุกรานอย่างโจ่งแจ้งของประธานาธิบดีปูตินและยืนเคียงข้างประชาชนของยูเครน พรุ่งนี้ฉันจะพบกับผู้นำของ G7 และสหรัฐอเมริกา พันธมิตร และหุ้นส่วนของเราจะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรอย่างรุนแรงต่อรัสเซีย เราจะให้การสนับสนุนและช่วยเหลือยูเครนและประชาชนยูเครนต่อไป”

 

ภาพ: JIM WATSON, GINTS IVUSKANS / AFP

อ้างอิง:

 


 

CNN เผยภาพทหารและยานพาหนะข้ามชายแดนจากเบลารุสเข้ายูเครน

 

 

สำนักข่าว CNN เผยแพร่ภาพจากคลิปวิดีโอไลฟ์ที่แสดงให้เห็นขบวนยานพาหนะของกองทัพพร้อมกำลังทหารเคลื่อนจากชายแดนเบลารุสเข้าสู่ยูเครน โดย CNN ระบุว่า คลิปวิดีโอไลฟ์นี้ถ่ายจากบริเวณจุดตรวจชายแดนเซนคีฟกาที่เป็นจุดเชื่อมระหว่าง 3 ชายแดน ทั้งเบลารุส รัสเซีย และยูเครน โดยขบวนยานพาหนะกองทัพนั้นข้ามเข้าสู่ชายแดนยูเครนเมื่อเวลาประมาณ 06.48 น. ตามเวลาท้องถิ่น

 

การเคลื่อนย้ายยานพาหนะกองทัพเข้าสู่ยุเครนมีขึ้นหลังจากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาปรากฏรายงานว่า กองทัพรัสเซียได้เคลื่อนขบวนยานพาหนะ รถหุ้มเกราะ และรถถัง จำนวนมากไปยังชายแดนเบลารุส ซึ่งก่อนหน้านี้รัสเซียอ้างว่า ได้ขยายการฝึกซ้อมรบร่วมกับเบลารุสและมีการคงกำลังทหารไว้ในเบลารุสกว่า 30,000 นาย

 

ภาพ: Ukrainian Border Guard

อ้างอิง:


 

 

รัสเซียเผย กำลังกำหนดเป้าหมายการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของยูเครนด้วยอาวุธที่มีความแม่นยำ

 

 

12.09 น. กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวในวันพฤหัสบดีว่า พวกเขากำลังกำหนดเป้าหมายการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของยูเครนด้วยอาวุธที่มีความแม่นยำ หลัง ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศปฏิบัติการทางทหารในภูมิภาคดอนบาสของยูเครน

 

“โครงสร้างพื้นฐานทางทหาร สิ่งอำนวยความสะดวกในการป้องกันทางอากาศ สนามบินทหาร และการบินของกองทัพยูเครน ถูกปิดการใช้งานด้วยอาวุธที่มีความแม่นยำสูง” กระทรวงกลาโหมกล่าวในแถลงการณ์ของสำนักข่าวของรัสเซีย

 

อ้างอิง: AFP

 


 

บอริส จอห์นสัน ประกาศ สหราชอาณาจักรและพันธมิตรจะตอบโต้รัสเซียอย่างเด็ดขาด

 

 

12.09 น.

บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ระบุว่า เขารู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงในยูเครน และว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียได้เลือกเส้นทางแห่งการนองเลือดและการทำลายล้างด้วยการเปิดฉากโจมตี

ผู้นำอังกฤษเผยด้วยว่า เขาได้หารือกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ถึงแนวทางการตอบโต้ และให้คำมั่นว่าสหราชอาณาจักรและชาติพันธมิตรจะใช้ปฏิบัติการที่เด็ดขาด


เลขาธิการ NATO ประณามการโจมตีโดยไม่ยั้งคิดและปราศจากการยั่วยุของรัสเซียต่อยูเครน ย้ำ NATO จะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องพันธมิตร

 

 

เมื่อเวลา 10.42 น. ที่ผ่านมา เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) กล่าวประณาม “การโจมตีโดยไม่ยั้งคิดและปราศจากการยั่วยุ” ของรัสเซียต่อยูเครน พร้อมเตือนว่าจะทำให้ชีวิต ‘นับไม่ถ้วน’ ตกอยู่ในอันตราย

 

“ผมขอประณามอย่างยิ่งต่อการโจมตียูเครนโดยไม่ยั้งคิดและปราศจากการยั่วยุของรัสเซีย ซึ่งทำให้ชีวิตของพลเรือนนับไม่ถ้วนต้องอยู่ในความเสี่ยง เป็นอีกครั้งที่แม้จะมีคำเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าและความพยายามอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยในการมีส่วนร่วมทางการทูตของพวกเขา แต่รัสเซียก็ได้เลือกเส้นทางของการรุกรานต่อรัฐอธิปไตยและอิสระ” สโตลเทนเบิร์กกล่าวในแถลงการณ์

 

“นี่เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงของภูมิภาคยูโร-แอตแลนติก ผมขอเรียกร้องให้รัสเซียยุติปฏิบัติการทางทหารทันที และเคารพอธิปไตยตลอดจนบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน

 

“พันธมิตร NATO จะประชุมกันเพื่อจัดการกับผลที่ตามมาจากการกระทำที่ก้าวร้าวของรัสเซีย เรายืนหยัดร่วมกับประชาชนของยูเครนในช่วงเวลาเลวร้ายนี้ NATO จะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องและคุ้มกันพันธมิตรทั้งหมด”

 

แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศปฏิบัติการทางทหารในยูเครน และได้ยินเสียงระเบิดในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

 

ก่อนหน้านี้สโตลเทนเบิร์กเคยกล่าวไว้ว่า NATO ไม่มีแผนที่จะส่งทหารไปสู้รบในยูเครนหากรัสเซียโจมตี ส่วนสหรัฐฯ ก็ปฏิเสธการส่งกำลังทหารเพื่อป้องกันยูเครนเช่นกัน

 

แฟ้มภาพ: NATO / Pool / Anadolu Agency via Getty Images

อ้างอิง: AFP


 

ประธานาธิบดียูเครนเรียกร้องประกาศกฎอัยการศึก

 

 

เมื่อเวลา 11.50 น. โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เสนอให้สภาความมั่นคงและการป้องกันแห่งชาติประกาศกฎอัยการศึก หลังรัสเซียประกาศปฏิบัติการทางทหารในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งยูเครนถือว่าเป็นการเปิดฉากรุกรานดินแดนของยูเครน

 

 

คาดว่าสภาจะจัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อตัดสินใจในเร็วๆ นี้

 


BREAKING: ผู้นำยูเครนยืนยันการโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียในดินแดนยูเครน

 
 

เมื่อเวลา 11.58 น. ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ยืนยันว่ามีการโจมตีด้วยขีปนาวุธในยูเครน

 

เซเลนสกีระบุว่า การโจมตีด้วยมิสไซล์นี้มุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานและทหารรักษาชายแดนของยูเครน

 


 

Reuters รายงานพบเสียงระเบิดในรัสเซีย ไม่ไกลจากชายแดนยูเครน

 

 

เมื่อเวลา 10.44 น. สำนักข่าว Reuters รายงานอ้างผู้อยู่ในเหตุการณ์ว่าได้ยินเสียงระเบิดในแคว้นเบลโกรอด ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากชายแดนยูเครน

 

ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเสียงระเบิดนั้นคืออะไร แต่ เฟรเดอริก เพลตเจน ผู้สื่อข่าว CNN ในเบลโกรอด เผยว่าเขาได้ยินเสียงปืนใหญ่ เช่นเดียวกับการยิงจรวด และเสียงเครื่องบินที่อาจบินไปทางยูเครน

 


เลขาธิการ NATO ประณาม “การโจมตีโดยไม่ยั้งคิดและปราศจากการยั่วยุ” ของรัสเซียต่อยูเครน ย้ำ NATO จะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องพันธมิตร

 

เมื่อเวลา 10.42 น. ที่ผ่านมา เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) กล่าวประณาม “การโจมตีโดยไม่ยั้งคิดและปราศจากการยั่วยุ” ของรัสเซียต่อยูเครน พร้อมเตือนว่าจะทำให้ชีวิต “นับไม่ถ้วน” ตกอยู่ในอันตราย

 

“ผมขอประณามอย่างยิ่งต่อการโจมตียูเครนโดยไม่ยั้งคิดและปราศจากการยั่วยุของรัสเซีย ซึ่งทำให้ชีวิตของพลเรือนนับไม่ถ้วนต้องอยู่ในความเสี่ยง เป็นอีกครั้งที่แม้จะมีคำเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าและความพยายามอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยในการมีส่วนร่วมทางการทูตของพวกเขา แต่รัสเซียก็ได้เลือกเส้นทางของการรุกรานต่อรัฐอธิปไตยและอิสระ” สโตลเทนเบิร์กกล่าวในแถลงการณ์

 

“นี่เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงของภูมิภาคยูโร-แอตแลนติก ผมขอเรียกร้องให้รัสเซียยุติปฏิบัติการทางทหารทันที และเคารพอธิปไตยตลอดจนบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน”

 

“พันธมิตร NATO จะประชุมกันเพื่อจัดการกับผลที่ตามมาจากการกระทำที่ก้าวร้าวของรัสเซีย เรายืนหยัดร่วมกับประชาชนของยูเครนในช่วงเวลาเลวร้ายนี้ NATO จะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องและคุ้มกันพันธมิตรทั้งหมด”

 

แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศปฏิบัติการทางทหารในยูเครน และได้ยินเสียงระเบิดในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

 

ก่อนหน้านี้ สโตลเทนเบิร์กเคยกล่าวไว้ว่า NATO ไม่มีแผนที่จะส่งทหารไปสู้รบในยูเครนหากรัสเซียโจมตี ส่วนสหรัฐฯ ก็ปฏิเสธการส่งกำลังทหารเพื่อป้องกันยูเครนเช่นกัน

 

แฟ้มภาพ: NATO / Pool / Anadolu Agency via Getty Images

 

อ้างอิง: AFP


BREAKING: ผู้นำยูเครนยืนยันการโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียในดินแดนยูเครน

 

11.58 น.

ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครนยืนยันว่า มีการโจมตีด้วยขีปนาวุธในยูเครน 

 

เซเลนสกี ระบุว่า การโจมตีด้วยมิสไซล์นี้มุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานและทหารรักษาชายแดนของยูเครน

 


ประธานาธิบดียูเครนเรียกร้องประกาศกฎอัยการศึก

 

11:50 น.

 

โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เสนอให้สภาความมั่นคงและการป้องกันแห่งชาติประกาศกฎอัยการศึก หลังรัสเซียประกาศปฏิบัติการทางทหารในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งยูเครนถือว่าเป็นการเปิดฉากรุกรานดินแดนของยูเครน

 

คาดว่าสภาจะจัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อตัดสินใจในเร็วๆ นี้

 

 

 


Reuters รายงานพบเสียงระเบิดในรัสเซีย ไม่ไกลจากชายแดนยูเครน

 

10.44 น.

สำนักข่าว Reuters รายงานอ้างผู้อยู่ในเหตุการณ์ว่าได้ยินเสียงระเบิดในแคว้นเบลโกรอด ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากชายแดนยูเครน

 

ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเสียงระเบิดนั้นคืออะไร แต่เฟรเดอริก เพลตเจน ผู้สื่อข่าว CNN ในเบลโกรอด เผยว่าเขาได้ยินเสียงปืนใหญ่ เช่นเดียวกับการยิงจรวด และเสียงเครื่องบินที่อาจบินไปทางยูเครน

 


ไบเดนแถลงด่วน ประณามรัสเซียเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารในดอนบาส ยืนยันโลกจะทำให้รัสเซียต้องรับผิดชอบ 

 

10.30 น.

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ด่วนภายหลังรัสเซียเปิดฉากปฏิบัติการพิเศษทางทหารในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน โดยประณามการกระทำของรัสเซียที่ก่อเหตุโจมตีโดยปราศจากการยั่วยุและไม่ชอบธรรม พร้อมชี้ว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้เลือกทำสงครามที่มีการไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าว่าจะก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตของประชาชน และยืนยันว่าโลกจะทำให้รัสเซียต้องรับผิดชอบต่อการโจมตีที่เกิดขึ้น ซึ่งสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรจะดำเนินการตอบโต้ต่อการกระทำครั้งนี้อย่างเด็ดขาด

 

“คำอธิษฐานของคนทั้งโลกอยู่กับประชาชนในยูเครนคืนนี้ เนื่องจากพวกเขาถูกโจมตีโดยกองกำลังทหารของรัสเซียโดยปราศจากการยั่วยุและไม่ชอบธรรม ประธานาธิบดีปูตินได้เลือกสงครามที่ไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าว่าจะนำมาซึ่งความสูญเสียครั้งใหญ่ต่อชีวิตและความทุกข์ทรมานของมนุษย์ รัสเซียเท่านั้นที่รับผิดชอบต่อความตายและการทำลายล้างที่เกิดจากการโจมตีในครั้งนี้ ทางสหรัฐฯ และพันธมิตรจะตอบโต้ด้วยวิธีการที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและเด็ดขาด โลกจะทำให้รัสเซียต้องรับผิดชอบ” เขากล่าว

 


ปูตินสั่งปฏิบัติการทางทหารพิเศษในดอนบาส แต่ย้ำรัสเซียไม่มีเป้าหมายยึดครองยูเครน

 

10.22 น.

สำนักข่าว CNN รายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ประกาศปฏิบัติการทางทหารในภูมิภาคดอนบาสของยูเครนในช่วงเช้าตรู่วันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น โดยให้เหตุผลว่าเพื่อปกป้องชีวิตพลเรือน

 

ในการแถลงผ่านโทรทัศน์ ปูตินระบุว่า ปฏิบัติการดังล่าวมีขึ้นเพื่อตอบโต้ภัยคุกคามจากยูเครน พร้อมกล่าวเสริมว่า รัสเซียไม่มีเป้าหมายที่จะยึดครองยูเครนแต่อย่างใด

 

ผู้นำรัสเซียยังเตือนประเทศอื่นๆ ว่า ความพยายามใดๆ ในการแทรกแซงปฏิบัติการของรัสเซียจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ประเทศเหล่านั้นไม่เคยเห็นมาก่อน

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X