วันนี้ (21 กรกฎาคม) เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เผยว่า กองทัพรัสเซียไม่อาจมุ่งเป้าไปที่การปลดปล่อยภูมิภาคดอนบาส หรือพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนให้เป็นอิสระเพียงเป้าหมายเดียวได้อีกต่อไป รัสเซียจำเป็นต้องขยายเป้าหมายใหม่ หลังทางการสหรัฐอเมริกาประกาศส่งอาวุธพิสัยไกลช่วยเหลือยูเครน
ลาฟรอฟระบุว่า “เราไม่อาจยอมให้พื้นที่ของยูเครนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน ได้ครอบครองอาวุธยุทโธปกรณ์ดังกล่าว ซึ่งอาจจะเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อแผ่นดินรัสเซีย ขณะนี้จุดภูมิศาสตร์ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว”
โดยกองทัพรัสเซียได้เตรียมขยายเป้าหมายไปยังเมืองทางตอนใต้ อย่างเคอร์ซอนและซาปอริซเซียก็เป็นเป้าหมายล่าสุดของรัสเซียด้วย ซึ่งกองกำลังของรัฐบางส่วนเริ่มทยอยยึดครองพื้นที่บางส่วนของทั้งสองดินแดนนี้ไว้แล้ว หลังสงครามดำเนินมานานเกือบ 5 เดือนเต็ม
ทางด้าน จอห์น เคอร์บี โฆษกประจำสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่า รัสเซียกำลังเดินหมากตามแผนผนวกดินแดนทางภาคตะวันออกของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศตน ดังเช่นที่เคยทำมาแล้วในกรณีของการผนวกดินแดนไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเมื่อปี 2014
โดยเคอร์บีชี้ว่า รัสเซียได้จัดตั้งและร่วมมือกับกลุ่มโปรรัสเซียในพื้นที่เพื่อควบคุมดินแดนดังกล่าว ก่อนที่จะเปิดให้มีการลงประชามติในระดับท้องถิ่น ถามความต้องการว่าจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียหรือไม่ ซึ่งคาดว่าการลงประชามติดังกล่าวอาจเกิดขึ้นเร็วสุดในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ก่อนที่จะใช้ผลประชามติดังกล่าวสร้างความชอบธรรมให้กับตนเอง ในการพยายามผนวกดินแดนดังกล่าวภายใต้อำนาจอธิปไตยของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ซึ่งเบื้องต้นคือ เคอร์ซอน, ซาปอริซเซีย, โดเนตสก์ และลูฮันสก์
ภาพ: Russian Foreign Ministry / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง:
