ยูเครนเรียกร้องให้พลเรือนในแคว้นลูฮันสก์ ทางภาคตะวันออกของประเทศ หลบหนีออกจากพื้นที่ หลังจากเกิดเหตุโจมตีสถานีรถไฟในเมืองครามาทอร์สก์ แคว้นโดเนตสก์ ที่อยู่ใกล้เคียง จนเป็นเหตุให้มีพลเรือนเสียชีวิตมากกว่า 50 คน
เสียงไซเรนโจมตีทางอากาศดังขึ้นในเมืองต่างๆ ทางภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งได้กลายเป็นหัวใจของปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากถอนกองกำลังออกจากพื้นที่รอบๆ กรุงเคียฟ
“พวกเขากำลังรวบรวมกองกำลังเพื่อโจมตี” เซอร์ฮีย์ ไกได ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์ กล่าวแถลงทางโทรทัศน์ ซึ่งเขาเรียกร้องให้พลเรือนที่ยังเหลืออยู่หลบหนีการโจมตีที่ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
การรุกรานของรัสเซียซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ส่งผลให้ประชาชนมากกว่า 4 ล้านคนในยูเครนต้องหลบหนีการสู้รบไปต่างประเทศ มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บหลายพันคน ทำให้ประชากร 1 ใน 4 ไร้ที่อยู่อาศัย และเปลี่ยนเมืองให้กลายเป็นซากปรักหักพัง
การสังหารพลเรือนทำให้นานาประเทศออกมาประณาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์สังหารหมู่ในเมืองบูชา ซึ่งกองกำลังรัสเซียเข้ายึดครองอยู่นานก่อนที่จะถอนทหารออกไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่รัสเซียโดยตลอดปฏิเสธว่าไม่ได้พุ่งเป้าโจมตีพลเรือน
ทั้งนี้ เกิดเหตุโจมตีด้วยขีปนาวุธเมื่อวันศุกร์ที่สถานีรถไฟที่เต็มไปด้วยผู้หญิง เด็ก และผู้สูงอายุในเมือง ครามาทอร์สก์ แคว้นโดเนตสก์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางสำหรับพลเรือนที่พยายามหลบหนีออกจากภูมิภาคตะวันออก
โอเล็กซานเดอร์ ฮอนชาเรนโก นายกเทศมนตรีเมืองครามาทอร์สก์ ประมาณการว่ามีคนประมาณ 4,000 คนที่สถานีรถไฟในขณะเกิดเหตุ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 52 คน
กระทรวงกลาโหมของรัสเซียปฏิเสธความรับผิดชอบ โดยกล่าวในแถลงการณ์ว่า ขีปนาวุธที่ใช้โจมตีสถานีรถไฟดังกล่าวนั้นมีแต่กองทัพยูเครนเท่านั้นที่ใช้ขีปนาวุธชนิดนี้ และกองกำลังติดอาวุธของรัสเซียไม่ได้วางแผนปฏิบัติการในเมืองครามาทอร์สก์เมื่อวันศุกร์ (8 เมษายน) ที่เกิดเหตุ
ด้านสถานีโทรทัศน์ของทางการรัสเซียระบุว่า การโจมตีดังกล่าวเป็น ‘การยั่วยุนองเลือด’ โดยยูเครน
ขณะที่ในวอชิงตัน เจ้าหน้าที่กลาโหมระดับสูงคนหนึ่งกล่าวว่า สหรัฐฯ ไม่ยอมรับการปฏิเสธของรัสเซีย และเชื่อว่ากองกำลังรัสเซียได้ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ในการโจมตีครั้งนี้ อย่างไรก็ดี สำนักข่าว Reuters ระบุว่ายังไม่สามารถตรวจสอบรายละเอียดของการโจมตีได้
กองทัพยูเครนกล่าวว่า มอสโกกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีเพื่อพยายามเข้าควบคุมแคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์ หรือที่เรียกว่าภูมิภาคดอนบาส ซึ่งส่วนหนึ่งถูกยึดครองโดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ได้รับการสนับสนุนจากมอสโกมาตั้งแต่ปี 2014
กระทรวงกลาโหมของอังกฤษระบุในรายงานข่าวกรองล่าสุดว่า การโจมตีทางอากาศมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในภาคใต้และตะวันออก เนื่องจากรัสเซียพยายามที่จะสร้างสะพานเชื่อมระหว่างไครเมียกับดอสบาส แต่กองกำลังยูเครนกำลังขัดขวางการรุกรานดังกล่าว
ทำเนียบเครมลินกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า กองทัพรัสเซียและคณะผู้แทนเจรจาสันติภาพอาจทำให้ปฏิบัติการครั้งนี้สิ้นสุดลงได้ใน ‘อนาคตอันใกล้’
อย่างไรก็ตาม เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการ NATO เตือนว่าสงครามอาจกินเวลานานหลายเดือนหรือหลายปี
ภาพ: Joe Raedle / Getty Images
อ้างอิง:
