วันนี้ (3 เมษายน) ความคืบหน้าสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนล่าสุด เริ่มต้นจากกระทรวงกลาโหมของรัสเซียแถลงว่า การโจมตีของกองทัพรัสเซียได้ทำลายโรงกลั่นน้ำมันและโรงเก็บเชื้อเพลิง 3 แห่งใกล้กับเมืองโอเดสซา โดยระบุว่าสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ถูกใช้เพื่อสนับสนุนทหารยูเครนที่อยู่ใกล้กับเมืองนีโคลาเยฟ ขณะที่สภาเมืองโอเดสซาระบุว่า ‘สิ่งอำนวยความสะดวกด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ’ ถูกขีปนาวุธโจมตี โดยยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
ทั้งนี้ เมืองโอเดสซาเป็นฐานทัพหลักของกองทัพเรือยูเครน และตกเป็นเป้าหมายของกองกำลังรัสเซียที่ต้องการหาทางเดินทางบกไปยังทรานส์นิสเตรีย จังหวัดของมอลโดวา ที่เป็นพื้นที่ที่ประกาศแยกตัวออกมาและพูดภาษารัสเซีย โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ตั้งของกองทหารรัสเซีย
ขณะที่ความพยายามอพยพผู้คนจากเมืองมารีอูปอลและเมืองแบร์เดียนสก์ที่อยู่ใกล้เคียงยังคงมีกำหนดจะเดินหน้าต่อ โดยปฏิบัติการนี้ได้รับความช่วยเหลือจากคณะกรรมการกาชาดสากล
ส่วนความคืบหน้าด้านการเจรจานั้น ฝั่งรัสเซียระบุว่ายังไม่คืบหน้ามากพอสำหรับการประชุมระดับผู้นำ โดย วลาดิเมียร์ เมดินสกี หัวหน้าคณะเจรจาของรัสเซีย กล่าวว่า ร่างข้อตกลงนั้นยังไม่พร้อมสำหรับการประชุมระหว่างประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน และบอกว่ายูเครนแสดงถึงแนวทางที่เป็นจริงมากขึ้น โดยยอมรับที่จะเป็นกลาง ละทิ้งอาวุธนิวเคลียร์ ไม่เข้าร่วมกลุ่มประเทศด้านการทหาร และปฏิเสธที่จะเป็นที่ตั้งฐานทัพทหาร แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับความต้องการที่สำคัญอื่นๆ ของรัสเซีย เมดินสกียังยืนยันด้วยว่าจุดยืนของรัสเซียที่มีต่อประเด็นไครเมียและดอนบาสนั้นยังไม่เปลี่ยนแปลง
ในขณะที่ฝั่งยูเครนอ้างว่าเข้ายึดพื้นที่รอบกรุงเคียฟคืนได้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งเป็นการระบุที่สำนักข่าว Reuters บอกว่ายังไม่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้และยังไม่มีความเห็นใดๆ จากรัสเซียต่อกรณีนี้นั้น นายกเทศมนตรีเมืองบูชา ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟและได้รับการปลดปล่อย กล่าวว่าประชาชน 300 คนถูกสังหารระหว่างการยึดครองนานหนึ่งเดือนโดยกองทัพรัสเซีย และเหยื่อก็ถูกพบเห็นในหลุมศพขนาดใหญ่ รวมถึงนอนเสียชีวิตอยู่บนถนน อย่างไรก็ตาม Reuters ระบุจากการลงพื้นที่ว่ายังไม่ชัดเจนถึงสาเหตุว่าทำไมร่างผู้เสียชีวิตบนถนนยังไม่ถูกฝัง และก็ยังไม่มีความเห็นใดๆ จากทำเนียบเครมลินในวันเสาร์ หรือกระทรวงกลาโหมรัสเซียในทั้งวันเสาร์และวันอาทิตย์ ต่อการพบร่างผู้เสียชีวิตในเมืองนี้เช่นกัน
ขณะที่ ลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษกล่าวว่า เธอรู้สึกตกใจกับความโหดร้ายในเมืองบูชา และสนับสนุนการไต่สวนของศาลอาญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับอาชญากรรมสงครามที่อาจเป็นไปได้
ส่วนหน่วยบริการฉุกเฉินของยูเครนก็ระบุว่า มีการพบระเบิดมากกว่า 1,500 ชิ้นภายในวันเดียว ระหว่างการตรวจค้นหมู่บ้านดมีทริฟกา ทางตะวันตกของกรุงเคียฟ โดยเซเลนสกีกล่าวหารัสเซียโดยไม่ระบุถึงหลักฐาน ว่ารัสเซียจงใจวางระเบิดในพื้นที่ทางตอนเหนือของยูเครน ขณะที่พวกเขาถอนกำลังหรือถูกกองกำลังยูเครนผลักดันออก ซึ่ง Reuters ก็ยังไม่สามารถตรวจสอบการกล่าวหาเหล่านี้ รวมถึงยังไม่มีความคิดเห็นในเรื่องนี้จากกระทรวงกลาโหมรัสเซียเช่นกัน
ภาพ: RONALDO SCHEMIDT / AFP (ภาพจากเมืองบูชาในยูเครน เมื่อ 2 เมษายน 2022)
อ้างอิง:
- https://www.reuters.com/world/europe/ukraine-claims-control-over-kyiv-region-russia-looks-east-2022-04-03/
- https://www.reuters.com/world/europe/ukrainian-president-says-retreating-russian-troops-are-leaving-mines-2022-04-02/
- https://www.reuters.com/world/europe/russian-retreat-leaves-trail-slain-civilians-town-near-kyiv-2022-04-02/
- https://www.reuters.com/world/europe/russia-says-peace-talks-not-ready-leaders-meeting-chief-negotiator-2022-04-03/