ดร.สุริยา จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรของไทย ประจำสหประชาชาติ (UN) แถลงจุดยืนต่อวิกฤตรัสเซีย-ยูเครนในที่ประชุมสหประชาชาติอีกครั้ง พร้อมโหวตหนุนมติประณามรัสเซียกรณีบุกยูเครน เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่า
ประเทศไทยมีความกังวลอย่างมากต่อสถานการณ์ความรุนแรงที่ดูย่ำแย่ลง อันเป็นผลมาจากการใช้กำลังทางทหารในยูเครน ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตของบรรดาพลเรือนผู้บริสุทธิ์ ทรัพย์สิน และโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนได้รับความเสียหาย
ที่ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนออกแถลงการณ์ร่วมถึงสถานการณ์ในยูเครนเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่นั้น สถานการณ์การใช้กำลังอาวุธยังคงดำเนินเรื่อยมา จำนวนผู้เสียชีวิต โดยเฉพาะกลุ่มพลเรือน ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์ด้านมนุษยธรรม ประเด็นด้านผู้ลี้ภัย และผู้อพยพหนีภัยความรุนแรง กำลังเป็นสิ่งที่น่าเป็นกังวล ไทยแนะให้ประเทศเพื่อนบ้านของยูเครนและประเทศอื่นๆ เตรียมความพร้อมให้ความช่วยเหลือพลเรือนที่ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ในส่วนของประเทศไทยจะพยายามอย่างเต็มที่ในการเป็นกระบอกเสียงให้กับพลเมืองที่ได้รับผลกระทบและต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน ทั้งทางตรงและผ่านความร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศ
ประเทศไทยยึดมั่นในหลักการที่บัญญัติไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเคารพหลักอำนาจอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และความเป็นอิสระของรัฐในทางการเมือง รวมถึงป้องกันการใช้กำลังหรือข่มขู่ที่จะใช้กำลังต่อรัฐอื่น ดังนั้น เราจึงเรียกร้องให้ยุติการใช้ความรุนแรงและกำลังอาวุธในทันที การยกระดับสถานการณ์ให้เลวร้านยิ่งขึ้น จะเป็นเหตุทำให้ผลกระทบขยายตัวเป็นวงกว้าง ทำให้ปัจจัยด้านมนุษยธรรมย่ำแย่ลง ส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจโลก ทำให้แผนฟื้นฟูประเทศจากความบอบช้ำเนื่องจากวิกฤตโรคระบาดโควิดหยุดชะงักลง
ดังนั้น ประเทศไทยจึงขอเน้นย้ำและเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหาทางออกโดยสันติและยั่งยืนผ่านสหประชาชาติ กลไกระดับภูมิภาค และโมเดลความร่วมมือต่างๆ เรารู้สึกยินดีและดีใจที่ได้เห็นความพยายามในการจัดการเจรจาทวิภาคีระหว่างฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และเฝ้ารอผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมจากการประชุมดังกล่าว
ในฐานะประเทศที่รักสันติ ประเทศไทยเชื่อมั่นในมิตรไมตรีจิตระหว่างชาติต่างๆ และความเห็นอกเห็นใจต่อความเป็นมนุษย์ ดังนั้น เราจะยังคงหวังว่า เส้นทางของสันติภาพ ความสมานฉันท์ และความเป็นมิตรที่ดีต่อกันจะชนะในท้ายที่สุด
โดยไทยเป็น 1 ใน 141 ประเทศที่โหวตสนับสนุนการประณามรัสเซีย กรณีรุกรานยูเครน ขณะที่ 35 ประเทศซึ่งรวมถึงจีนและอินเดียงดออกเสียง มีเพียง 5 ประเทศที่โหวตคัดค้านมติดังกล่าว ได้แก่ รัสเซีย, เบลารุส, เกาหลีเหนือ, ซีเรีย และเอริเทรีย ขณะที่ประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ มีเพียง 2 ประเทศเท่านั้น คือ ลาวและเวียดนาม ที่งดออกเสียง ส่วนอีก 8 ประเทศโหวตสนับสนุน
ภายหลังจากที่ลงคะแนนเสียงสนับสนุน ดร.สุริยา ทูตผู้แทนถาวรของไทยประจำ UN ได้ชี้แจงถึงการตัดสินใจดังกล่าว โดยระบุว่า ประเทศไทยได้พิจารณาอย่างรอบคอบถี่ถ้วนแล้ว และตัดสินใจโหวตสนับสนุนมติดังกล่าว เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ประเทศไทยยึดมั่นในหลักการที่บัญญัติไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเคารพหลักอำนาจอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และการไม่ใช้กำลังต่อรัฐอื่น
การสนับสนุนมติดังกล่าวยังได้ช่วยเน้นย้ำให้เห็นถึงสิ่งที่ประเทศไทยมีความกังวล เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เลวร้าย อันส่งผลกระทบต่อพลเรือนและประเด็นด้านมนุษยธรรมที่เกิดขึ้นจากการใช้กำลังอาวุธและความรุนแรงในพื้นที่ดังกล่าว เราจึงอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามหลักการและข้อบังคับต่างๆ ที่สอดคล้องกับหลักการด้านมนุษยธรรมสากล
นอกจากนี้ เรายังกังวลถึงความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดผลกระทบในระยะยาวที่อาจกระทบต่อระบบระเบียบระหว่างประเทศ เราจึงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้แนวทางสันติ เพิ่มพื้นที่ในการพูดคุยเจรจาผ่านเครื่องมือและกลไกต่างๆ ที่หลากหลาย เพื่อปูทางไปสู่สันติภาพ
ภาพ: Permanent Mission of Thailand to the United Nations
อ้างอิง: