ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงผ่านทางโทรทัศน์เมื่อวานนี้ (31 มีนาคม) ประกาศว่าได้ลงนามในกฤษฎีกาที่กำหนดให้ต่างชาติ ต้องชำระเงินค่าซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียด้วยสกุลเงินรูเบิล ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ (1 เมษายน) พร้อมทั้งขู่จะระงับสัญญาซื้อขาย หากไม่มีการชำระเงินตามข้อกำหนดดังกล่าว
ท่าทีของปูตินมีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ เขาได้ประกาศคำสั่งให้ ‘ชาติไม่เป็นมิตร’ ที่คว่ำบาตรรัสเซีย จากกรณีการบุกยูเครน ต้องจ่ายเงินซื้อก๊าซจากรัสเซียเป็นสกุลเงินรูเบิลและขู่จะระงับการจัดส่งก๊าซหากไม่ดำเนินการตามที่เรียกร้อง
ขณะที่ปูตินเปิดเผยถึงกระบวนการชำระเงินว่า ผู้ซื้อต่างชาติที่มีจำนวนทั้งหมด 48 ประเทศ รวมถึงสหภาพยุโรปหรือ EU ต้องเปิดบัญชีในธนาคาร Gazprombank ทั้งบัญชีสกุลเงินต่างชาติและสกุลเงินรูเบิล โดยต้องโอนเงินสกุลยูโร หรือดอลลาร์เข้าไปในบัญชี ก่อนที่ธนาคารจะแปลงเป็นสกุลเงินรูเบิล ที่สามารถนำมาจ่ายค่าซื้อก๊าซได้
บทความที่เกี่ยวข้อง:
“ในการซื้อก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย พวกเขาต้องเปิดบัญชีรูเบิลในธนาคารของรัสเซีย มันคือจากบัญชีเหล่านี้ที่ใช้ชำระเงินสำหรับจัดส่งก๊าซ ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ หากไม่ชำระเงิน เราจะถือว่านี่เป็นการผิดนัดชำระเงินในส่วนของผู้ซื้อ ซึ่งจะมีผลที่ตามมา ไม่มีใครขายอะไรให้เราฟรีๆ และเราจะไม่ทำการกุศลด้วยเช่นกัน นั่นคือสัญญาที่มีอยู่จะยุติลง” ปูตินกล่าว
โดยปูตินให้เวลาธนาคารกลางรัสเซีย ศุลกากร และหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง เป็นเวลา 10 วัน เพื่อดำเนินการตามระบบใหม่นี้ เนื่องจากการชำระเงินที่เกี่ยวข้องกับการจัดส่งก๊าซในเดือนเมษายน จะไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะถึงช่วงต้นหรือกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งหมายความว่าคำขู่ในการระงับสัญญาหรือหยุดส่งก๊าซนั้นจะยังไม่เกิดขึ้นทันที
ทั้งนี้ ผู้นำรัสเซียประกาศว่า การเปลี่ยนมาใช้สกุลเงินรูเบิลในการซื้อก๊าซนั้น มีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอธิปไตยของรัสเซีย และยืนยันว่าจะยึดมั่นต่อพันธกรณีในทุกสัญญาที่มีอยู่
ขณะที่หลายฝ่ายมองว่าข้อกำหนดของปูตินเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามเพื่อกระตุ้นค่าเงินรูเบิล ที่อ่อนลงอย่างหนักหลังเผชิญมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ และชาติตะวันตก
อย่างไรก็ตาม เยอรมนีและฝรั่งเศสยืนยันปฏิเสธข้อเรียกร้องของปูติน โดยชี้ว่าเป็นการละเมิดสัญญาที่ยอมรับไม่ได้ และมองว่าการดำเนินการของรัสเซียนั้นเป็นการ ‘ขู่กรรโชก’
โดย โรเบิร์ต ฮาเบค รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนี แถลงร่วมกับ บรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของฝรั่งเศส ที่อยู่ระหว่างการเยือนกรุงเบอร์ลินเมื่อวานนี้ โดยยืนยันว่ารัฐบาลเยอรมนีเตรียมพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ รวมถึงการหยุดส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังยุโรป เช่นเดียวกับ เลอ แมร์ ที่เผยว่าฝรั่งเศสกำลังเตรียมพร้อมสำหรับความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะหยุดจัดส่งก๊าซ
“มันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเรา ที่จะไม่ส่งสัญญาณว่า เราจะถูกแบล็กเมลโดยปูติน” ฮาเบคกล่าว
ขณะที่ โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เปิดเผยว่า เขาได้โทรศัพท์พูดคุยกับปูติน เมื่อวันพุธ (30 มีนาคม) และแสดงความชัดเจนว่า เยอรมนีได้ทำการตรวจสอบสัญญาซื้อขายก๊าซกับรัสเซียแล้ว และจะยังคงจ่ายเงินให้รัสเซียด้วยสกุลเงินยูโรหรือดอลลาร์ในบางครั้งต่อไป
ด้าน มาริโอ ดรากี นายกรัฐมนตรีอิตาลี เผยว่า ได้ต่อสายตรงคุยกับปูตินเช่นกัน โดยปูตินได้ให้การรับรองต่อเขาว่า “ยุโรปจะไม่ต้องจ่ายค่าก๊าซด้วยเงินรูเบิล” และ “สัญญาซื้อขายที่มีอยู่ยังคงมีผลบังคับใช้ ซึ่งบริษัทในยุโรปจะยังคงจ่ายเงินเป็นดอลลาร์และยูโรต่อไป”
สำหรับ EU นั้นมีสัดส่วนการนำเข้าก๊าซจากรัสเซีย คิดเป็น 40% ของปริมาณการนำเข้าทั้งหมด โดยเยอรมนีนั้นถือเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ ที่มีสัดส่วนนำเข้าก๊าซจากรัสเซียในปี 2021 สูงถึง 55% ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่า ยังเป็นเรื่องยากสำหรับ EU ที่จะหาแหล่งจัดส่งก๊าซอื่นมาทดแทนรัสเซีย
ขณะที่รัสเซียได้รับเงินค่าขายก๊าซให้แก่ EU วันละ 400 ล้านยูโร หรือประมาณ 14,700 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นแหล่งรายได้สำคัญ และยังไม่มีหนทางที่จะสามารถโยกย้ายการจัดส่งก๊าซไปขายในตลาดภูมิภาคอื่น
ภาพ: Photo by Konstantin Zavrazhin / Getty Images
อ้างอิง:
- https://asia.nikkei.com/Politics/Ukraine-war/Russia-to-enforce-ruble-payments-for-gas-starting-Friday-Putin
- https://www.france24.com/en/europe/20220331-france-germany-reject-putin-demands-for-gas-payments-in-roubles-as-blackmail
- https://www.bbc.com/news/business-60945248
- https://www.ft.com/content/d8ee2429-7caf-4e1f-9c85-dd1f825d36e3