วานนี้ (9 พฤศจิกายน) รัสเซียได้สั่งถอนกำลังทหารออกจากเมืองเคอร์ซอนของยูเครน ซึ่งเป็นเมืองเอกเพียงแห่งเดียวในภูมิภาคที่กองกำลังของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน สามารถยึดครองไว้ได้ตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้นเพียงไม่นานนัก
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กองกำลังยูเครนได้รุกคืบเข้าต่อสู้เพื่อชิงพื้นที่ในเมืองเคอร์ซอนคืน ซึ่งนี่อาจเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า ปฏิบัติการทางทหารพิเศษในยูเครนของกองทัพรัสเซียอาจกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากครั้งใหญ่ นับตั้งแต่เปิดศึกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
เซอร์เก ซูโรวิคิน ผู้บัญชาการกองทัพรัสเซีย ยอมรับในการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ว่า รัสเซียไม่สามารถส่งเสบียงไปยังเมืองเคอร์ซอนได้อีกแล้ว โดยจะถอยกำลังให้มาป้องกันตามแนวฝั่งซ้ายของแม่น้ำนีเปอร์ หรือก็คือฝั่งตะวันออก
“ผมเข้าใจดีว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่ในขณะเดียวกัน เราจะรักษาสิ่งสำคัญที่สุดนั่นคือชีวิตของพลทหารของเรา และประสิทธิภาพในการรบของกองทหาร ซึ่งไม่มีประโยชน์หากเราจะจัดทัพไว้ในฝั่งขวาของแม่น้ำที่มีพื้นที่จำกัด” ซูโรวิคินกล่าว
ด้าน เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ได้แสดงความคิดเห็นที่สอดคล้องกับซูโรวิคิน โดยกล่าวว่า เขาเห็นด้วยกับข้อสรุปและข้อเสนอข้างต้น พร้อมสั่งการให้ดำเนินการถอนทหาร และงัดใช้ทุกมาตรการเพื่อย้ายกองกำลังไปสู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำนีเปอร์
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากมีรายงานว่า คิริลล์ สเตรมูซอฟ รองผู้ว่าการภูมิภาคเคอร์ซอนที่แต่งตั้งโดยรัสเซีย เสียชีวิตในอุบัติเหตุทางรถยนต์ หลังจากที่พยายามเรียกร้องให้ประชาชนอพยพออกจากเมืองอยู่หลายสัปดาห์
รามซาน คาดีรอฟ ผู้นำสาธารณรัฐเชเชนหรือเชชเนีย ซึ่งก่อนหน้านี้มักเรียกร้องให้มีการทำสงครามที่แข็งกร้าวมากขึ้น และเคยเรียกร้องให้ใช้อาวุธนิวเคลียร์อานุภาพต่ำ กล่าวว่า ซูโรวิคิน “ต้องตัดสินใจอย่างยากลำบาก แต่ก็เป็นทางเลือกที่ถูกต้อง”
การที่รัสเซียต้องล่าถอยออกจากเมืองเคอร์ซอนครั้งนี้ อาจเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของสงครามที่ดำเนินมากว่า 9 เดือน โดยเมืองเคอร์ซอนเป็นเมืองเอกของแคว้นเคอร์ซอน 1 ใน 4 แคว้นของยูเครนที่รัสเซียเพิ่งประกาศผนวกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ โดยถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์มากที่สุดแห่งหนึ่ง เนื่องจากเมืองเคอร์ซอนเป็นเมืองท่าสำคัญที่ติดกับทะเลดำ และอยู่ฝั่งตะวันตกของปากแม่น้ำนีเปอร์ ซึ่งควบคุมเส้นทางสู่คาบสมุทรไครเมีย ส่วนแคว้นเคอร์ซอนนั้นมีพรมแดนติดกับไครเมียด้วย
ภาพ: Metin Aktas / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: