รัสเซียประกาศว่าจะตัดการถือครองเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐทั้งหมดออกจากกองทุนน้ำมันของตัวเอง ก่อนการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน และประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา ที่จะเกิดขึ้นในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากชาติตะวันตก
อันทอน ซิลวาโนฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของรัสเซีย ระบุว่า สกุลเงินดอลลาร์ในกองทุน National Wellbeing Fund จะถูกแทนที่ด้วยสกุลเงินยูโร สกุลเงินหยวน และทองคำ
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ลงนามคำสั่งห้ามธนาคารสหรัฐฯ ทำธุรกรรมเกี่ยวกับหนี้สินของรัฐบาลรัสเซีย พร้อมเนรเทศนักการทูตรัสเซีย 10 คนในข้อหาจารกรรมความลับ และลงโทษบุคคลอีก 32 คนที่ถูกระบุว่าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2020
การส่งสัญญาณของรัสเซียครั้งนี้ส่งผลต่อค่าเงินสกุลดอลลาร์ในตลาดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาทันที โดยเงินสกุลดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยก่อนจะเด้งกลับมาอยู่ในจุดเดิม เนื่องจากกองทุนดังกล่าวมีมูลค่าสูงถึง 1.19 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และหนึ่งในสามของสินทรัพย์เป็นการถือครองเงินสกุลดอลลาร์
โซเฟีย โดเนตส์ นักเศรษฐศาสตร์ของ Renaissance Capital ในมอสโก กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์ในเงินทุนสำรองของรัสเซียจะเป็นการดำเนินการผ่านธนาคารกลาง
“ธนาคารกลางรัสเซียสามารถเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการลงทุนในกองทุน National Wellbeing Fund ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาตลาด”
แผนการปรับสัดส่วนลงทุนในกองทุนระดับชาติครั้งนี้ สะท้อนถึงความพยายามที่จะลดการพึ่งพาเงินสกุลดอลลาร์ของรัสเซีย หลังจากถูกสหรัฐฯ บีบด้วยการตั้งกฎเกณฑ์ต่างๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
“แน่นอนภูมิรัฐศาสตร์เข้ามามีบทบาทในการตัดสินใจครั้งนี้ เราพยายามปกป้องการลงทุนของเรา” ซิลวาโนฟให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลในงาน International Economic Forum ณ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ซิลวาโนฟกล่าวว่า รัสเซียสามารถดำเนินการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนสกุลเงินและสินทรัพย์ของกองทุนนี้ภายใน 1 เดือน แต่ธนาคารกลางจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะปรับเปลี่ยนสินทรัพย์ในเงินทุนสำรองของประเทศอย่างไร
แหล่งข่าวที่ไม่ต้องการเปิดเผยตัวรายหนึ่งเปิดเผยว่า ธนาคารกลางรัสเซียยังไม่มีแผนจะกลับเข้าไปซื้อทองคำในขณะนี้
ปัจจุบันโครงสร้างของกองทุน National Wellbeing Fund ประกอบด้วยสกุลเงินยูโร 35% และสกุลเงินดอลลาร์ 35% โดยที่เหลือเป็นสกุลเงินหยวน สกุลเงินเยน สกุลเงินปอนด์ และทองคำ
คาดว่าการถอนเงินสกุลดอลลาร์ออกในครั้งนี้จะส่งผลให้สกุลเงินยูโรในกองทุน National Wellbeing Fund มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 40% สกุลเงินหยวนเพิ่มขึ้นเป็น 30% และทองคำมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 20% ขณะที่สกุลเงินปอนด์และสกุลเงินเยนจะมีสัดส่วนสกุลละ 5%
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
อ้างอิง: