“ผมขอยุติการทำหน้าที่พิธีกรเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับช่อง 3 เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย”
คือข้อความที่ประกาศผ่านอินสตาแกรมของ ‘สรยุทธ สุทัศนะจินดา’ เมื่อ 3 มีนาคม 2559 หรือเมื่อปีที่แล้ว เพื่อยุติบทบาททางหน้าจอรายการข่าวชื่อดัง เรื่องเล่าเช้านี้ ซึ่งเขานั่งแท่นเป็นพิธีกรมาตั้งแต่ปี 2546
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็นับรวมเป็นเวลาปีกว่าๆ แล้วที่สรยุทธห่างจากหน้าจอ หายไปจากหน้าม่าน 13 ปีกว่าที่เขาทำหน้าที่ ‘ยามเช้าพี่ก็เฝ้าคิดถึงน้อง’ มาโดยตลอด
https://www.instagram.com/p/BCfG78UDdMK/?hl=th&taken-by=sorrayuth9111
เพราะต้องเจอมรสุมชีวิตที่เขาตกเป็นจำเลยในคดีไร่ส้ม แถมยังถูกคนในวงการเรียกหาจริยธรรมการทำหน้าที่อย่างเซ็งแซ่อยู่ช่วงหนึ่ง สถานะทางคดีในปัจจุบันคือการต่อสู้ในชั้นศาลฎีกา หลังสองศาลตัดสินให้เขาต้องรับโทษจำคุก และเมื่อชั้นศาลอุทธรณ์ เขาต้องเข้าไปใช้ชีวิตในเรือนจำอยู่หลายสิบวัน ก่อนจะได้รับการประกันตัวให้ออกมาต่อสู้คดี
มรสุมเรื่องชะตากรรมชีวิตที่ว่าหนักหนาสาหัสแล้วยังต้องเผชิญกับมรสุมธุรกิจเป็นระลอกต่อมา เมื่อหน้าจอ เรื่องเล่าเช้านี้ ขาดแม่เหล็กดึงดูดคนดูอย่างสรยุทธ วิกฤตของรายการที่ครองเรตติ้งข่าวเช้ามานานก็บังเกิดเมื่อต้องเจอกับเรตติ้งที่ดำดิ่ง แถมถูกหั่นเวลา ยังไม่นับก่อนหน้านี้ที่มีกระแสให้เอเจนซีบอยคอตการลงโฆษณาในรายการนี้
การจะหาคนที่มีพลังทัดเทียมสรยุทธเพื่อมานั่งหน้าจอกระชากเรตติ้งกลับคืนมาหรือประคองให้ดีเท่าเดิมเป็นเรื่องที่ทีมงานก็แก้ไม่ตก แม้พิธีกรหลักที่ยืนพื้นคู่สรยุทธในรายการมากว่า 7 ปีอย่าง ไบรท์-พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ ก็เอาไม่อยู่ เพราะบทบาทในรายการผ่านสายตาผู้ชมที่เห็นมาตลอดคือการเป็นประหนึ่งลูกคู่ของสรยุทธเท่านั้น และเมื่อต้องรับบทหนักในการเป็นพิธีกรหลักของรายการก็ยังไม่สามารถประคองหรือโกยเรตติ้งให้อยู่รอดได้
แม้ก่อนหน้านี้จะดึง เจก รัตนตั้งตระกูล เข้ามาช่วย แต่ก็เป็นพิธีกรได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น เป็นการขัดตาทัพในช่วงที่ไบรท์ พิชญทัฬห์ ต้องพักรักษาตัว เนื่องจากป่วยเป็นไข้เลือดออก
ต่อมาได้มีการเปิดตัวพิธีกรฝ่ายชายอย่าง ต๊ะ-พิภู พุ่มแก้วกล้า ที่เคยเป็นผู้ประกาศทางช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ แล้วย้ายไปช่องทรูโฟร์ยูได้ไม่ถึงเดือน ทำหน้าที่เป็นพิธีกรหลักฝ่ายชายมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2559 เป็นเวลา 1 ปีนิดๆ ที่เขาเข้ามาทำหน้าที่แทนสรยุทธ แต่ก็ยังไม่สามารถตรึงคนดูอยู่ แถมมีเสียงวิจารณ์เล็กๆ ว่าเขาสามารถที่จะเจิดจรัสทางหน้าจอได้ดียิ่งกว่านี้
หากไล่เรียงดูพิธีกรในรายการ คนที่อยู่มายาวนานมากที่สุดรองๆ จากสรยุทธก็คือ หนุ่ย-เอกราช เก่งทุกทาง ที่ทำหน้าที่เป็นพิธีกรในช่วงข่าวกีฬายืนพื้นมาตั้งแต่ปี 2546 ใกล้เคียงกับกรรมกรข่าวคนดังที่ตอนนี้ต้องปล่อยมือไปต่อสู้คดี มีการดึงเอาพิธีกรฝีปากกล้าอย่าง น้าเน็ก-เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา เข้ามาเสริมทัพในช่วงข่าวบันเทิงที่มี โก๊ะตี๋ อารามบอย และว่าน-ธนกฤต พานิชวิทย์ เข้ามาช่วยเสริม โดยแบ่งการทำหน้าที่ตั้งแต่วันจันทร์ถึงศุกร์
ก่อนหน้านี้ช่อง 3 ดิ้นปรับตัวและปรับผังไตรมาสสุดท้ายเดือนตุลาคม 2559 หลังหั่นเวลาของรายการสุดฮอตอย่าง เรื่องเล่าเช้านี้ ทิ้งถึง 45 นาที ก็ดันรายการ ผู้หญิงถึงผู้หญิง กลับมาอีกรอบ ซึ่งปัจจุบันยังคงออกอากาศอยู่เพื่อมาช่วยเรื่องเรตติ้งในช่วงเวลาออกอากาศดังกล่าว
https://twitter.com/KaiPasit/status/920272517222121472
ปีกว่าๆ ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีการออกมาเปิดเผยอีกรอบผ่านทวิตเตอร์ของ ไก่-ภาษิต อภิญญาวาท พิธีกรช่อง 3 และในวันเดียวกัน หนึ่งในพิธีกรหลักอย่างไบรท์ พิชญทัฬห์ ก็ได้อัพอินสตาแกรมเป็นคลิปวิดีโอโปรโมต เรื่องเล่าเช้านี้ โฉมใหม่ที่มีการเปิดตัวพิธีกรแบบให้ลุ้นระทึกว่าเป็นใครบ้าง พร้อมทิ้งท้ายให้ติดตามเร็วๆ นี้
แวดวงสื่อได้ยินเรื่องนี้มาช่วงหนึ่งและไม่ประหลาดใจนักที่จะมีการปรับเปลี่ยนหรือพลิกโฉม เอาพิธีกรเก่าไป เอาพิธีกรใหม่มา ซึ่งเป็นเรื่องของการปรับตัวเพื่อการอยู่รอด และเพื่อตรึงคนดูให้กลับมาให้ได้มากที่สุด
แน่นอนว่าในคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ยากนักว่าจะเป็นใครบ้าง เฉลยให้ตายอย่างไร ไบรท์ พิชญทัฬห์ ก็น่าจะยังนั่งแท่นเป็นพิธีกรหลัก และดึงเอาไก่ ภาษิต มานั่งแท่นอ่านคู่ ส่วน เซน-เมจกา สุพิชญางกูร ที่รับผิดชอบข่าวต่างประเทศ และเป็นผู้ประกาศด้วยน่าจะอยู่ทำหน้าที่ต่อไป
คำถามคือ แล้วต๊ะ พิภู จะอยู่หรือไป?
หนุ่ย เอกราช น่าจะได้รับความไว้วางใจให้อยู่ทำหน้าที่ต่อไป แต่ที่ถือว่าใจกล้า ฮือฮา และไม่ผิดไปจากที่หลายคนคิดคือการดึงเอา ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มานั่งเป็นพิธีกรในช่วงหนึ่งของรายการด้วย ส่วนคนอื่นๆ ก็คงต้องลองคาดเดากันดู เพราะหากวิเคราะห์ทั้งหมดอาจดูไม่ลุ้นระทึก ซึ่งคาดการณ์ว่าน่าจะลงตัวปลายเดือนนี้ และโฉมใหม่น่าจะมาเร็วๆ นี้แบบที่มีการโปรโมตกันอยู่
การพลิกโฉมครั้งนี้จะช่วยให้รายการไปได้ดีขึ้นและกลับมาผงาดอีกครั้งหรือพอประคองตัวได้คงต้องรอติดตาม และจับตาดูช่องอื่นๆ ที่จะต้องปรับตัวมาสู้ในสนามหน้าจอกันอย่างดุเดือด พร้อมๆ กับสถานการณ์ธุรกิจทีวีทั้งช่องเดิมและดิจิทัลที่ต่างเผชิญปัญหาหลายๆ อย่างที่คล้ายกัน
https://www.instagram.com/p/BaWYhNzH5Wm/?hl=th&taken-by=bright_ch3