เงินรูเบิลอ่อนค่า หลุดระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 100 รูเบิลต่อดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2022 เนื่องจากสงครามที่ยืดเยื้อและการคว่ำบาตรจากนานาชาติที่กำลังกดดันเศรษฐกิจรัสเซียต่อเนื่อง แม้ธนาคารกลางได้สั่งห้ามซื้อ-ขายสกุลเงินต่างประเทศ เพื่อลดความผันผวนแล้วก็ตาม
วันนี้ (14 สิงหาคม) เงินรูเบิลอ่อนค่าลง 1.5% โดยซื้อ-ขายอยู่ที่ราว 100.975 นับเป็นการอ่อนค่า 5 วันติดต่อกันแล้ว แม้ว่าธนาคารกลางรัสเซียจะพยายามสกัดการอ่อนค่า ด้วยคำสั่งยุติการซื้อสกุลเงินต่างประเทศในตลาดภายในประเทศช่วงที่เหลือของปี 2023
โดยตั้งแต่ต้นปี (YTD) รูเบิลอ่อนค่าลง 26% แล้ว นับเป็นสกุลเงินที่อ่อนค่าที่สุดเป็นอันดับ 3 ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่
ทั้งนี้ ย้อนกลับไปก่อนเกิดสงครามเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 เงินรูเบิลเคยเคลื่อนไหวอยู่ที่ราว 75 รูเบิลต่อดอลลาร์สหรัฐ
ปัจจุบันรัฐบาลรัสเซียขาดดุลงบประมาณ (Budget Deficit) ซึ่งหมายความว่า รัฐบาลมีการใช้จ่ายมากกว่ารายรับเป็นเวลา 8 เดือนติดต่อกันแล้ว เนื่องจากมอสโกพยายามประคองเศรษฐกิจที่ย่ำแย่จากปัญหารายได้จากการส่งออกที่หดตัว และการถูกตัดขาดออกจากตลาดเงินระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติที่นำโดยชาติตะวันตก
แม้ว่า เอลวิรา นาบูลลินา ผู้ว่าการธนาคารกลางรัสเซีย ได้กล่าวซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า สาเหตุหลักที่ทำให้รูเบิลอ่อนค่ามาจากการค้าของประเทศที่ถดถอย อย่างไรก็ตาม แม็กซิม โอเรชกิน ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กลับออกมาวิจารณ์นโยบายของธนาคารกลาง โดยระบุว่า เป็นสาเหตุที่ทำให้รูเบิลอ่อนค่า
ในวันนี้ (14 สิงหาคม) แม็กซิม โอเรชกิน กล่าวในคอลัมน์ของสำนักข่าวของรัฐบาลรัสเซียว่า “ต้นตอการอ่อนค่าของรูเบิลและการเร่งตัวของเงินเฟ้อคือนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย” พร้อมทั้งระบุว่า รัสเซียต้องการเงินรูเบิลที่แข็งแกร่ง และผู้กำหนดนโยบายก็มีเครื่องมือที่จำเป็นอยู่แล้วในการปรับค่าเงินรูเบิลให้กลับสู่ระดับปกติในอนาคตอันใกล้
ธนาคารกลางรัสเซียประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะหยุดซื้อเงินตราต่างประเทศในตลาดภายในประเทศ ภายใต้กลไกที่มีขึ้นเพื่อปกป้องเศรษฐกิจจากการแกว่งตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ นอกจากนี้การตัดสินใจดังกล่าวยังมีเป้าหมาย “เพื่อลดความผันผวนของตลาดการเงิน” แถลงการณ์ระบุ
อีริก เมเยอร์สสัน หัวหน้านักยุทธศาสตร์ตลาดเกิดใหม่ของ SEB AB ในสตอกโฮล์ม กล่าวว่า การอ่อนค่าของเงินรูเบิลเป็นผลจากมาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติต่อเศรษฐกิจรัสเซีย รวมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาเศรษฐกิจให้ดำเนินต่อไปของรัฐบาลรัสเซียด้วย
“ขณะเดียวกันบัญชีเดินสะพัดของประเทศก็ลดลงเรื่อยๆ ท่ามกลางการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นและรายได้จากการส่งออกที่ลดลง ซึ่งยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับเงินรูเบิล” อีริก เมเยอร์สสัน กล่าว
รายรับของผู้ส่งออกน้ำมันและก๊าซของรัสเซียลดลงเหลือ 6.9 พันล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม จาก 1.68 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามข้อมูลล่าสุดของธนาคารกลางรัสเซีย
อ้างอิง: