ในฤดูกาลที่คาดหวังได้ถึงการเปลี่ยนแปลงมากมายในตำแหน่งผู้จัดการทีมของสโมสรฟุตบอลหลายแห่งทั่วยุโรป หนึ่งในโค้ชที่ได้รับการจับตามองและพูดถึงมากที่สุดคือ รูเบน อโมริม กุนซือคนหนุ่มที่กลายเป็นหนึ่งในชื่อที่เนื้อหอมที่สุด
นายใหญ่ที่กำลังนำสปอร์ติง ลิสบอน ลุ้นแชมป์ลีกโปรตุเกสเป็นสมัยที่ 2 ของตัวเองในรอบ 3 ฤดูกาล กลายเป็นที่สนใจขึ้นมาหลังจากมีข่าวเชื่อมโยงว่า เป็นหนึ่งในแคนดิเดตตำแหน่งผู้จัดการทีมคนต่อไปของลิเวอร์พูลที่จะมารับงานต่อจาก เจอร์เกน คล็อปป์ ที่กำลังจะวางมือเมื่อฤดูกาลนี้สิ้นสุดลง
ล่าสุดอโมริมได้ใช้ช่วงวันว่างที่สปอร์ติงพักการซ้อม 2 วันเดินทางมายังลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่การเดินทางมาครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่การเจรจาเพื่อรับช่วงงานของคล็อปป์แต่อย่างใด แต่เป็นการเจรจากับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด เพื่อรับช่วงต่อจาก เดวิด มอยส์ ที่กำลังจะหมดสัญญาในช่วงสิ้นสุดฤดูกาลนี้
เรื่องนี้จะเป็นคดีพลิกจริงดังกระแสข่าวหรือไม่?
ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา รูเบน อโมริม กุนซือวัย 39 ปี กลายเป็นชื่อที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดคนหนึ่งบนหน้าสื่อ เนื่องจากเป็นหนึ่งในแคนดิเดตที่ถูกคาดหมายว่าจะได้ลุ้นตำแหน่งผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลต่อจาก เจอร์เกน คล็อปป์ ซึ่งเหลือเวลากับทีม ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล อีกเพียงแค่ 5 นัดเท่านั้น
กระแสของกุนซือรายนี้ยิ่งโหมหนักขึ้นไปอีกเมื่อ ชาบี อลอนโซ ตัวเก็งเต็งหามที่ทุกคนคาดหวังว่ากุนซือชาวสเปนที่สร้างประวัติศาสตร์พาไบเออร์ เลเวอร์คูเซน คว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร รีบตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะอยู่กับสโมสรต่อไปในฤดูกาลนี้ ไม่ทิ้งทีมที่ร่วมทุกข์และเพิ่งจะได้ร่วมสุขกันกลางทาง
ช่วงที่ผ่านมาบรรดาสำนักข่าวและเหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์สายลิเวอร์พูลจึงต้องรีบ ‘แนะนำตัว’ อโมริมให้กับแฟนๆ เดอะค็อปได้รู้จักกันอย่างสนุกสนาน ตั้งแต่ความเป็นมาไปจนถึงสไตล์การทำงาน ระบบการเล่น หรือเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
ที่โปรตุเกสเอง อโมริมก็ถูกจี้ถามในเรื่องนี้หลายครั้งและออกมาปฏิเสธทุกครั้ง จนเริ่มสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจ
แต่ล่าสุดในวันอังคารที่ผ่านมามีรายงานข่าวในหลายสำนักข่าวใหญ่ที่ระบุตรงกันว่า อโมริมได้เดินทางมาลอนดอนเพื่อ ‘เจรจา’ ความเป็นไปได้ในการมาทำงานในพรีเมียร์ลีก
เพียงแต่ทีมที่เจรจานั้นไม่ได้มีแค่ลิเวอร์พูลทีมเดียวอีกต่อไป
The Athletic สำนักข่าวกีฬาระดับโลก ระบุว่า กุนซือวัย 39 ปีที่น่าจับตามองคนนี้ยังคงเป็นหนึ่งในการพิจารณาของฝ่ายบริหารของลิเวอร์พูล ซึ่งนำโดย ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ ผู้อำนวยการฟุตบอลกลุ่ม FSG ที่ทำงานร่วมกับ ริชาร์ด ฮิวจ์ส ว่าที่ผู้อำนวยการสโมสรคนใหม่
แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใช่ตัวเลือกที่เอ็ดเวิร์ดส์และฮิวจ์สชื่นชอบมากที่สุดในเวลานี้
ทีมที่เจรจากับอโมริมในครั้งนี้คือเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้จัดการทีมในช่วงสิ้นสุดฤดูกาลนี้ ซึ่ง เดวิด มอยส์ นายใหญ่คนปัจจุบันกำลังจะหมดสัญญา และสโมสรกำลังคิดถึงการกดปุ่ม ‘รีเฟรช’ ให้ทีมใหม่ แม้ว่าจะเป็นคนที่พาทีมคว้าแชมป์ยุโรปในรายการยูฟ่ายูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งเป็นแชมป์แรกนับตั้งแต่ปี 1965 ก็ตาม
เวสต์แฮมเชื่อว่า อโมริมเป็นโค้ชคนรุ่นใหม่ที่มีความโดดเด่นมากที่สุด และมีความสามารถที่จะนำพาสโมสรก้าวไปข้างหน้าในทิศทางที่ถูกต้องได้
กระนั้นเรื่องนี้ยังมีความไม่ชัดเจนอยู่
- อโมริมไม่ได้เป็นตัวเลือกเดียวสำหรับเวสต์แฮม เพราะทีม ‘ขุนค้อน’ ยังมีตัวเลือกอื่น อย่างเช่น ยูเลน โลเปเตกี, เปาโล ฟอนเซกา และ คริสตอฟ กาลติเยร์ ที่อยู่ในข่ายเหมือนกัน
- อโมริมเองก็ไม่ได้มีตัวเลือกแค่เวสต์แฮม เพราะประตูสำหรับลิเวอร์พูลก็ยังไม่ได้ปิดตาย และเชื่อว่าเขาจะมีโอกาสกับอีกหลายสโมสร ไม่ว่าจะในช่วงสิ้นสุดฤดูกาลนี้หรือในอนาคตอันใกล้ก็ตาม
อโมริมจะเป็นหนึ่งในกลุ่มโค้ชเนื้อหอมที่จะมีศึกชิงตัวกันอย่างดุเดือดหลังจบฤดูกาลนี้ โดยนอกจากลิเวอร์พูลแล้ว ทีมอย่างบาเยิร์น มิวนิกและบาร์เซโลนาก็ต้องการหาโค้ชคนใหม่ด้วย หลัง โธมัส ทูเคิล และ ชาบี เอร์นานเดซ ประกาศอำลาทีมหลังจบฤดูกาลนี้ (แม้ว่ารายหลังจะมีข่าวว่าเปลี่ยนใจอยากอยู่ต่อแล้วก็ตาม)
ในพรีเมียร์ลีกแม้จะไม่มีข่าวมาก่อน แต่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ในกระบวนการตัดสินใจว่าจะหาผู้จัดการทีมคนใหม่แทนที่ของ เอริก เทน ฮาก หรือไม่ ซึ่งมีชื่อ เกรแฮม พอตเตอร์ และ แกเร็ธ เซาท์เกต เป็นตัวเลือกที่เซฟกว่าสำหรับ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ที่เข้ามาบริหารทีมแทนครอบครัวเกลเซอร์ แต่ในความเป็นกุนซือที่โดดเด่นในภาคพื้นยุโรป อโมริมก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
เช่นเดียวกับเชลซีที่แม้สถานการณ์ของ เมาริซิโอ โปเชตติโน จะดีขึ้นและน่าจะได้ทำทีมต่อไป แต่หากจะมีการเปลี่ยนแปลง อโมริมก็อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเหมือนกัน
เมื่อมองมุมนี้ร่วมกับกระแสข่าวจากฝั่งโปรตุเกสที่ระบุว่า อโมริมเดินทางมาลอนดอนแค่ไม่นานก่อนจะเดินทางกลับทันที โดยที่การเจรจาไม่ได้เป็นไปด้วยดีอย่างที่คาดหวัง (โดยที่ไม่รู้ว่าใครผิดหวังใครกันแน่)
แปลว่าเรื่องราวของกุนซือคนหนุ่มผู้นี้ยังไม่แน่ไม่นอน ทุกอย่างยังเป็นไปได้เสมอ และตอนนี้เป็นเพียงแค่ ‘ช่วงแรก’ ของเรื่องราวเท่านั้น
ส่วนคนที่สงสัยว่า ถ้าไม่ใช่อโมริมแล้วจะเป็นใครที่เข้ามารับช่วงต่อจากคล็อปป์
ทิศทางข่าวเวลานี้ยังจับกระแสลมไม่ได้ ไม่มีใครรู้หรือสัมผัสได้ว่า เอ็ดเวิร์ดส์และฮิวจ์สต้องการใครที่จะเข้ามาทำทีมต่อจากคล็อปป์ และเชื่อว่ากระบวนการนี้จะต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ความชื่นชมกันเป็นการส่วนตัวของผู้อำนวยการอย่างฮิวจ์สที่มีต่อ โรแบร์โต เด แซร์บี ผู้จัดการทีมไบรท์ตัน ที่แม้ผลงานในฤดูกาลนี้จะไม่ดีนัก แต่ผลงานในฤดูกาลก่อนที่พาไบรท์ตันไปสู่ฟุตบอลยุโรปได้สำเร็จเป็นครั้งแรก บวกกับสไตล์การเล่นของทีมที่น่าประทับใจชนิดที่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ออกปากชื่นชม และการเป็นกุนซือที่พร้อมให้โอกาสดาวรุ่งลงสนาม ทำทีมในงบประมาณที่จำกัด ทำงานร่วมกับทีม Recruitment ได้ดี มองแล้วก็เป็นตัวเลือกที่ดีอยู่
โรแบร์โต เด แซร์บี, อาร์เน สล็อต และ โชเซ มูรินโญ
คือกุนซือที่มีข่าวเชื่อมโยงกับตำแหน่งผู้จัดการทีมคนใหม่ของลิเวอร์พูล
นอกเหนือไปจากนี้คือ อาร์เน สล็อต ที่ทำผลงานได้ดีกับเฟเยนอร์ดในดัตช์ลีก ที่เป็นชื่อใหม่ที่ติดโผเข้ามา
และอีกคนที่จู่ๆ ก็กลายมาเป็นประเด็นขึ้นมาคือ ‘The Special One’ โชเซ มูรินโญ ที่ปรากฏตัวในเกมที่ลิเวอร์พูลบุกไปเอาชนะฟูแลมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ถูกจับเชื่อมโยงกับลิเวอร์พูลไปด้วย
ในระหว่างที่ยังไม่มีความชัดเจนมากพอ ก็เป็นช่วงเวลาเหมาะสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน
คิดว่าสุดท้ายอโมริมจะไปไหน?
แล้วลิเวอร์พูลจะไปคว้าใครมาคุมทีม?
หรือคิดว่ามูรินโญจะมาแอนฟิลด์
สนุกไม่แพ้ตลาดนักเตะเลยว่าไหม
อ้างอิง: