วันนี้ (21 เมษายน) ที่สโมสรราชพฤกษ์ พรรค รวมไทยสร้างชาติ จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2567 โดยมีคณะกรรมการบริหารพรรคเข้าร่วมประชุม เช่น พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค, วิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค, เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค, ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษา, พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, สุชาติ ชมกลิ่น, ธนกร วังบุญคงชนะ, ชัชวาลล์ คงอุดม สส. แบบบัญชีรายชื่อพรรค รวมถึง พล.ต. นพ.เหรียญทอง แน่นหนา คณะกรรมการสาขาพรรค ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด และสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
พีระพันธุ์กล่าวเปิดการประชุมด้วยการต้อนรับสมาชิกว่า ขอบคุณ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพรรค โดยย้ำว่า การที่พรรคเลือกสโมสรราชพฤกษ์จัดการประชุมครั้งนี้ เพื่อให้สมาชิกพรรคได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง หลังเป็นจุดเริ่มต้นในการประชุมก่อตั้งพรรคเมื่อปี 2566
อีกทั้งยังประกาศว่า พรรคจะเดินหน้าต่อด้วยความมั่นคงแม้จะเป็นน้องใหม่นอกสายตา แต่การเลือกตั้งที่ผ่านมาก็ได้ สส. ถึง 36 คน ซึ่งกำลังหลักที่ทำให้พรรคมาถึงทุกวันนี้ได้ก็เพราะลุงตู่ ซึ่งพวกเราไม่เคยลืม และด้วยเหตุผลความจำเป็นที่ท่านต้องไปทำงานที่ใหญ่กว่า ภาระจึงตกมาอยู่ที่ตนเองและสมาชิกทุกคน ว่าทำอย่างไรจะทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติเดินไปอย่างแข็งแกร่ง เป็นที่ยอมรับมากขึ้น และเมื่อลุงตู่พ้นตำแหน่งไปแล้ว ได้เห็นผลงานและความตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์
ทุกคนต้องเก็บดีเอ็นเอของลุงตู่ไว้เป็นของรวมไทยสร้างชาติ เพื่อให้พรรคมั่นคง แต่จะทำอย่างไรให้ประชาชนเชื่อได้ว่าเป็นพรรคของประชาชน สู้ทุกปัญหา พึ่งพาได้เป็นจริง และพรรคเดินมาด้วยความมั่นคงและจะเดินต่อไป โดยจะสืบทอดตามแนวทางของ พล.อ. ประยุทธ์ ในเรื่องการตั้งใจทำงาน และเชื่อว่าการเดินมาในแนวทางนี้จะเห็นความตั้งใจในการทำงานและผลงานของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่จะทำให้พรรคแข็งแกร่งกว่านี้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งอยากให้พรรคชนะการเลือกตั้ง เพื่อให้พรรคปลดพันธนาการและลดภาระประชาชน โดยตนเองและกรรมการบริหารพรรคจะสร้างผลงานให้มากขึ้นกว่าปีที่แล้ว
พีระพันธุ์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาไม่คิดว่าจะมาทำงานด้านพลังงาน เมื่อเข้ามาก็ทำให้เห็นว่า 51 ปีที่ผ่านมาได้เห็นระบบพลังงานของประเทศว่าอยู่มาได้อย่างไร เมื่อมาทำงานต้องรื้อทิ้งทั้งระบบ เพื่อให้ต่อจากนี้ไปจะไม่ให้มีการปรับราคาน้ำมันรายวัน แต่ต้องอยู่ที่รัฐบาล ไม่ใช่ตลาดโลก พร้อมปลดแอกประชาชนจากเรื่องค่าไฟด้วยการใช้พลังงานจากแสงแดด ด้วยการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป พร้อมกันนี้พรรคยังได้ประสานขยายโครงการโคแสนล้านตัวเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร
จากนั้นเอกนัฏกล่าวว่า แรงบันดาลใจทางการเมืองของตน หากพูดไปแล้วใครไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ นักการเมืองที่ตนได้ฟังคำปราศรัยคนแรกในชีวิตคือ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ตอนนั้นลงสมัคร สส. กรุงเทพฯ แต่ตนเชื่อว่าเมื่อชะตาลิขิตแล้ว เราสองคนทำอะไรด้วยกันมันก็จะเกิดความสำเร็จ จากพรรคการเมืองที่ถูกปรามาสว่าจะมี สส. แม้แต่คนเดียวหรือเปล่า แต่วันนี้ได้รับคะแนนเสียงจากการเลือกตั้ง 5 ล้านเสียง ซึ่งถือว่ามากที่สุดสำหรับพรรคการเมืองหนึ่งที่ตั้งขึ้นใหม่ และมี สส. 36 ที่นั่งสานต่อจิตวิญญาณของลุงตู่
แต่ตนก็เชื่ออีกว่า พีระพันธุ์เป็นคนที่มีวาสนา ซึ่งตนจะขอทำหน้าที่ในฐานะด้อมพีระพันธุ์ เพื่อปั้นนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค แต่เราไม่หวังให้เป็นนายกรัฐมนตรีส้มหล่น ไม่เอา เที่ยวนี้เรามี สส. เพียง 36 ที่นั่ง เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เราไม่หวังให้พีระพันธุ์มาเป็นนายกรัฐมนตรีส้มหล่นในรอบนี้ แต่ตนหวังว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไป ขอให้เราสู้ช่วยกัน 36 ที่นั่งไม่พอที่จะเสนอและตั้งนายกรัฐมนตรีได้ แต่ 250 ที่นั่งคือเป้าหมาย ฉะนั้นขอให้ทุกท่านช่วยกัน
ส่วนกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น เอกนัฏระบุว่า ตนเองได้คุยกับหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติว่า พรรครวมไทยสร้างชาติเดินมาด้วยระบบกลไกที่มีมาตรฐาน ดังนั้นวันนี้ไม่ต้องไปฟังข่าวลือในเรื่องต่างๆ ที่สื่อคาดการณ์กัน เช่น ชื่อรัฐมนตรีและว่าที่รัฐมนตรีทั้งหลาย วันนี้มาอยู่ที่นี่พร้อมกันหมด ทั้งนี้ ตนขอยืนยันว่าพรรคเดินมาถึงวันนี้ได้เพราะความเสียสละ เพราะฉะนั้นรัฐมนตรีและ สส. ทุกคนไม่มีใครติดและยึดกับตำแหน่ง ซึ่งหัวหน้าพรรคก็พูดเสมอว่าไม่ยึดติด เพราะฉะนั้นผู้ที่มีตำแหน่งทั้งหมดขอให้สำนึกว่าเรามาจากพี่น้องประชาชน และทำงานเข้มแข็งให้กับประเทศชาติบ้านเมือง
ทั้งนี้ ที่ประชุมพรรคได้พิจารณาวาระรับรองรายงานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2566 รับรองงบการเงินประจำปี 2566 ครั้งที่ผ่านมา และพรรครวมไทยสร้างชาติยังเปิดตัวทีมอาสามาด้วยใจ ซึ่งเป็นการรวมตัวของกลุ่มคน เช่น อินฟลูเอ็นเซอร์ นักวิชาการ และคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการมาทำงานช่วยเหลือ โดยจะใช้โซเชียลมีเดียสร้างฐานเสียงและแนวร่วมในการขับเคลื่อนพรรคต่อไป หลังจากก่อนหน้านี้พรรค รวมไทยสร้างชาติมักถูกโจมตีโดยใช้โซเชียลมีเดียบิดเบือนข้อมูล โดยเฉพาะการทำงานของ พล.อ. ประยุทธ์ ที่ผ่านมา โดยทีมอาสามาด้วยใจได้เปิดตัว สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ผู้ดำเนินรายการ คนค้นฅน ที่พร้อมสนับสนุนการทำงานของพรรค
อย่างไรก็ตาม พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค เนื่องจากมีภารกิจอื่นหลายประการ ทำให้ไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ โดยขอให้มีผลตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2567 เป็นต้นไป