วันนี้ (27 กันยายน) รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานบรรเทาสาธารณภัยและช่วยเหลือประชาชนของกระทรวงกลาโหม ระหว่างวันที่ 1-26 กันยายน 2565 ตามที่ได้เกิดสถานการณ์ฝนตกหนักและฝนตกสะสม ระหว่างวันที่ 1-26 กันยายน 2565 จากอิทธิพลร่องมรสุมพาดผ่านเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณตอนบนของ สปป.ลาว และเวียดนาม
ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง ส่งผลให้บางพื้นที่ในภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขัง สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน และส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้างในหลายพื้นที่ของประเทศไทยนั้น
รัชดากล่าวว่า กองทัพไทยและเหล่าทัพได้จัดกำลังพล 6,000 กว่านาย และยุทโธปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย เช่น รถยนต์บรรทุกขนาดต่างๆ 610 คัน เรือชนิดต่างๆ กว่า 120 ลำ ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย กระทรวงกลาโหม โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัย สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการและสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างทันท่วงทีและต่อเนื่อง
ซึ่งมีการดำเนินการที่สำคัญ เช่น การผลักดันน้ำและการสูบน้ำ, การอพยพประชาชนและขนย้ายสิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัย, การขนย้ายสิ่งกีดขวางเส้นทางจราจร, การแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค น้ำดื่ม ยาและเวชภัณฑ์, การจัดครัวสนาม, ชุดแพทย์เคลื่อนที่, การซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เป็นต้น
รัชดากล่าวต่อไปว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพกระจายกำลังพล, เครื่องมือช่าง, ยานพาหนะ ทั้งรถและเรือ อากาศยานไร้คนขับ, เครื่องสูบน้ำและเรือดันน้ำ รวมทั้งชุดกู้ภัยและชุดแพทย์เคลื่อนที่ เข้าไปเสริมการทำงานร่วมกับผ่ายปกครองของแต่ละจังหวัด และจิตอาสาในพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชนทั้งในพื้นที่วิกฤตที่น้ำป่าไหลหลาก เกิดน้ำท่วมฉับพลัน, พื้นที่เขตเมืองและชุมชนที่น้ำท่วมขังสูง, เส้นทางที่ถูกตัดขาด และบ้านเรือนประชาชนที่ชำรุดเสียทาย โดยทุกเหล่าทัพที่มีหน่วยทหารในพื้นที่ได้เข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง
สำหรับพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ได้สั่งการเพิ่มเติมให้ทุกเหล่าทัพเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำและสภาพลมฟ้าอากาศ โดยได้เตรียมการสนับสนุน กทม. ได้แก่ การเร่งลอกขยะและวัชพืชจำนวนมากที่อุดตันทางน้ำ ทั้งช่องและท่อระบายน้ำตามถนน รวมถึงเศษขยะที่ขวางคลองและประตูระบายน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำลงลำน้ำสายหลัก และการเข้าไปช่วยดูแลศาสนสถานและโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบ
รวมทั้งให้แบ่งมอบพื้นที่ จัดยานพาหนะเข้าเสริมรถสาธารณะ เพื่ออำนวยความสะดวกและรับ-ส่งประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังสูง ส่วนจังหวัดระยองที่มีมวลน้ำสูงขึ้นและทะลักเข้าเมือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้สั่งการให้กองทัพเรือเสริมกำลังพล เครื่องมือช่าง เครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยแล้ว
และจัดทำแนวกั้นน้ำ เร่งเปิดทางระบายน้ำ เพื่อลดความเสียหายในพื้นที่เขตเมือง พื้นที่เศรษฐกิจ และพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ตลอดจนได้สั่งการให้หน่วยทหารติดตามสถานการณ์น้ำในช่วงปลายเดือนกันยายน 2565 อย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนจากอุทกภัยตลอด 24 ชั่วโมง
รัชดากล่าวด้วยว่า ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ ได้ติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมนำศักยภาพและขีดความสามารถของกองทัพสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งแก้ไขปัญหาที่สำคัญของชาติให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล