วันนี้ (3 สิงหาคม) อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุถึง พ.ร.ก. กู้เงิน 2 ฉบับ ยังมีความเพียงพอในการชดเชยเยียวยาประชาชนหรือไม่ หลังมีการขยายพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มข้นเพิ่มมากขึ้น ว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้คำมั่นสัญญากับการใช้จ่ายเงินกู้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินกู้รอบล่าสุด 5 แสนล้านบาท ก็จะอนุมัติเพื่อดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เช่น ในวันนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีการอนุมัติลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองในค่าเทอมของนักเรียนนักศึกษาในทุกสังกัด วงเงิน 2.3 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีการขยายมาตรการช่วยเหลือแรงงานตามมาตรการที่มีการล็อกดาวน์เพิ่มเติมจาก 13 จังหวัด เป็น 29 จังหวัด ซึ่งจะใช้งบประมาณอีก 6 หมื่นล้านบาท โดยในกลุ่มแรก ช่วงเดือนกรกฎาคมจะมี 13 จังหวัด ซึ่งเดือนสิงหาคมมีเพิ่มอีก 16 จังหวัด รวม 29 จังหวัด ซึ่งจากการออกมาตรการทั้งลดภาระค่าใช้จ่ายผู้ปกครอง มาตรการช่วยเหลือเยียวยาแรงงานและผู้ประกอบการ จะใช้งบประมาณประมาณ 9 หมื่นล้านบาท ซึ่งก็ยังมีเงินเหลือในส่วนของเงินกู้อีกประมาณ 4 แสนกว่าล้านบาท ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความมั่นใจว่าจะดูแลประชาชนในสิ่งที่จะต้องเยียวยากับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และจะมีมาตรการตามออกมาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนแนวโน้มว่าในอนาคตมีความจำเป็นจะต้องกู้เงินเพิ่มหรือไม่นั้น อนุชาระบุว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์ หากในอนาคตมีความจำเป็นที่จะต้องดูแลประชาชน ก็จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยจะต้องคำนึงถึงเสถียรภาพทางการคลังและกรอบวินัยทางการเงินอย่างเคร่งครัด