วันที่ 4 พฤษภาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เฉลิมพระราชมณเฑียร ทรงพระสังวาลนพรัตนราชวราภรณ์ และพระสังวาลพระนพ เสด็จเข้าริ้วขบวนเชิญเครื่องพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร ริ้วขบวนตั้งแถว ในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ หันหน้าทิศตะวันออก พลตํารวจโท วีระชัย กรานคํายี และพลตำรวจเอก ไตรรัตน์ อมาตยกุล เป็นผู้นำเทียน
ต่อมาเวลา 20.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องฉลองพระองค์เฉลิมราชมณเฑียร ทรงพระสังวาลนพรัตนราชวราภรณ์ พระสังวาลพระนพ พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออกจากพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานไปยังพระที่นั่งไพศาลทักษิณ เข้าริ้วขบวนตามผู้นำเทียน พันโท สมชาย กาญจนมณี ถวายขันทองคำพร้อมพานรอง ทรงโปรยเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนรัชกาลที่ 10 ชนิดราคา 2 บาท พระราชทานตลอดเส้นทางขบวนเสด็จ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จลงจากพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ออกประตูที่เสด็จลงพระมณฑปพระกระยาสนาน เลี้ยวซ้ายออกทางพระทวารพระมหามณเฑียรกำแพงแก้วด้านตะวันออก เลี้ยวขวาไปตามถนนทรงบาตร เลี้ยวขวาผ่านถนนหลังพระมหามณเฑียร เลี้ยวขวาผ่านพระมหามณเฑียรหมู่กลาง เข้าทางพระทวารพระมหามณเฑียรตะวันตก แล้วนำเสด็จไปตามถนนระหว่างพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน และกำแพงแก้วพระมหามณเฑียรด้านใน เลี้ยวขวาผ่านเก๋งนารายณ์ เข้าพระทวารท้องพระโรงหน้าด้านตะวันตก ผู้นำเทียนหยุดที่ท้องพระโรงหน้า
เมื่อเสด็จเข้าท้องพระโรงหน้าขึ้นพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานทางอัฒจันทร์ตะวันตก โดยขบวนตามขึ้นไปบนท้องพระโรงกลาง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับพระราชอาสน์ ท้องพระโรงกลาง พันโท สมชาย กาญจนมณี วางขันทองคำพร้อมพานรองที่โต๊ะบนพระแท่นลด, พันตำรวจเอก ธรรมนิธิ วนิชย์ถนอม เชิญพระแสงดาบคาบค่าย เฝ้าฯ อยู่ข้างที่ประทับ, ร้อยโท ธนิสร งามพริ้ง เชิญพระสุพรรณศรีบัวแฉก เชิญไปทอดที่บนโต๊ะทองข้างที่ประทับด้านขวา
ร้อยโท ฉัตรณรงค์ เรืองพุก เชิญพานพระขันหมากทองคำลงยาองค์ใหญ่เครื่องพร้อม เชิญไปทอดที่บนโต๊ะทองข้างที่ประทับด้านขวา, ร้อยเอก อภิชิต มุกข์โตเกียว เชิญพานพระโอสถไปทอดที่บนโต๊ะทองข้างที่ประทับด้านซ้าย ที่เหลือผู้เชิญนำไปมอบให้ พันโท สมชาย กาญจนมณี ที่พระที่นั่งองค์ตะวันออก เสร็จแล้วกลับมา เฝ้าฯ ที่ท้องพระโรงกลาง พันโท สมชาย กาญจนมณี นำพระแสงไปทอดที่บันไดแก้ว รับเครื่องทั้งหมดไปทอดไว้ที่โต๊ะบนชั้นลด รับแมวและไก่ขาว ให้เจ้าพนักงานอุ้มเชิญไว้ ผู้เชิญเทียนส่งเทียนให้เจ้าพนักงานแล้วไปรวมเฝ้าฯ ที่ท้องพระโรงกลาง
พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล เลขาธิการพระราชวัง นายเจริญศักดิ์ คารีขันธ์ นายมนัส เสือเปลี่ยว ลาดพระที่เสร็จแล้ว พันโท สมชาย กาญจนมณี เข้าเฝ้าฯ กราบบังคมทูลเชิญเสด็จถอดเครื่องเฉลิมพระราชมณเฑียรไว้ที่โต๊ะบนพระแท่นลด และทอดขันทองคำพร้อมพานรอง มีดอกพิกุลทองพิกุลเงินบนพระแท่นลด เสด็จเข้าห้องพระบรรทม ประทับบนพระแท่นลด
พันโท สมชาย กาญจนมณี ทูลเกล้าฯ ถวายพระแส้ขนหางช้างเผือก, นายเจริญศักดิ์ คารีขันธ์ ทูลเกล้าฯ ถวายจั่นหมากทองคำ, นายมนัส เสือเปลี่ยว ทูลเกล้าฯ ถวายกุญแจทอง ทรงรับแล้ววางไว้ปลายพระที่บนพระแท่นราชบรรจถรณ์ เสด็จขึ้นพระแท่นราชบรรจถรณ์ ทรงเอนพระองค์ลงบรรทมโดยเบื้องขวาลงสู่พระที่
ชาวพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์ แตร และดุริยางค์ เมื่อสุดเสียงประโคมแล้ว เสด็จลงประทับบนพระแท่นลด เสร็จการพระราชพิธี เสด็จฯ ประทับพักพระราชอิริยาบถ ณ ห้องกลาง ทิศตะวันออก พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน
ในคืนวันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับแรมในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน
ในพระราชพิธีมีเครื่องเฉลิมพระราชมณเฑียรและเครื่องราชูปโภค หรือเครื่องใช้ของพระมหากษัตริย์ อาทิ วิฬาร์ หรือแมว มีความหมายถึงการอยู่บ้านใหม่เป็นปกติสุขไม่โยกย้าย, ศิลาบด หรือหินบดยา หมายถึง ความหนักแน่น หรือความไม่มีโรค, พันธุ์พืชมงคล หมายถึงการงอกเงย, ฟักเขียว หมายถึง การอยู่เย็นเป็นสุข, กุญแจทอง หมายถึง กรรมสิทธ์ความเป็นเจ้าของบ้าน และ จั่นหมากทอง หมายถึง ความมั่งคั่ง
ทั้งนี้ในการพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะบรรทมเหนือพระแท่นราชบรรจถรณ์ พระแท่นที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ประดิษฐานภายในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานองค์ตะวันออก สำหรับเป็นพระแท่นบรรทมเฉพาะพระมหากษัตริย์
ภาพ: สำนักพระราชวัง (ไม่ได้มีการถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์รวมการฉพาะกิจ)