×

จากราชาลูกหนังสู่คุกปารากวัย ชีวิตที่ผกผันเกินจินตนาการของ ‘โรนัลดินโญ’

11.03.2020
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 MINS. READ
  • โรนัลดินโญ ตำนานลูกหนังชาวบราซิล ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวและใส่กุญแจมือ แม้ว่าจะได้รับอนุญาตให้เอาผ้าสีชมพูคลุมไว้ก็ตาม เป็นภาพที่สร้างความตกใจให้แก่ฟุตบอลทั่วโลก
  • ศาลปฏิเสธให้ประกันตัว ทำให้โรนัลดินโญต้องถูกขังในคุกปารากวัย
  • พฤติกรรมกินดื่มเหล้ายาปลาปิ้ง ปาร์ตี้สุดขีดของเขา ขึ้นชื่อมาตั้งแต่ครั้งยังเป็นผู้เล่น เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เขาตกจากจุดสูงสุดของชีวิตการเล่นอย่างรวดเร็ว

กาลครั้งหนึ่งไม่นานมานี้ เขาคือนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลก เป็นราชาลูกหนัง ‘หมายเลข 10’ ที่มีลีลาและจินตนาการในการเล่นเหนือกว่าผู้ใดในสนาม ในวันที่เขาพร้อม ไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้ พรสวรรค์และรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในไอดอลของนักเตะและแฟนบอลมากมายทั่วโลก

 

แต่วันนี้​ โรนัลโด เด อัสซิส โมเรยรา หรือ โรนัลดินโญ เกาโช กลายเป็นผู้ต้องหาในคดีปลอมแปลงพาสปอร์ต และวันนี้เขาต้องติดคุก

 

เกิดอะไรขึ้นกับอดีตซูเปอร์สตาร์หมายเลข 1 ของโลกคนนี้กัน?

 

วันสิ้นอิสรภาพของโรนัลดินโญ

แม้จะประกาศอำลาสนามมา 2 ปี แต่ชื่อและภาพของโรนัลดินโญยังคงปรากฏต่อหน้าสื่ออยู่เนืองๆ มีทั้งข่าวดีบ้าง ไม่ดีบ้าง (และเคยเดินทางมาประเทศไทยในระยะเวลาสั้นๆ ด้วย) แต่ไม่มีครั้งใดที่จะทำให้แฟนฟุตบอลทั่วโลกตกใจได้มากเท่ากับข่าวที่เขาถูกจับกุมตัวที่ประเทศปารากวัยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

 

โรนัลดินโญ ตำนานลูกหนังชาวบราซิล ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวและใส่กุญแจมือ แม้ว่าจะได้รับอนุญาตให้ปกปิดภาพกุญแจมือด้วยการเอาผ้าสีชมพูคลุมไว้ก็ตาม แต่มันเป็นภาพที่ชวนตกใจอยู่ดี และดูเหมือนครั้งนี้ทุกคนจะรู้ดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องธรรมดา

 

นอกจากตัวโรนัลดินโญแล้ว พี่ชายของเขา โรแบร์โต เด อัสซิส โมเรยรา ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีม ก็ถูกควบคุมตัวด้วยเช่นกัน

 

ความผิดของทั้งสองคือ การใช้พาสปอร์ตปลอมในการผ่านเข้าประเทศปารากวัย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออย่างมากที่เกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้นกับนักฟุตบอลที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งของโลก

 

เหตุการณ์นั้นย้อนกลับไปในวันพุธที่แล้ว เมื่อโรนัลดินโญและพี่ชายเดินทางเข้าประเทศปารากวัย โดยที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเองก็ไม่ได้ผิดสังเกตในพาสปอร์ตของเขาแต่อย่างใด โดยหลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองแล้ว สตาร์วัย 39 ปี ที่ยังคงปรากฏตัวเพื่อเล่นฟุตบอลตามคำเชิญของสปอนเซอร์หรือหน่วยงานการกุศลที่ร้องขอมายังได้พบกับแฟนๆ ของเขาที่นอกสนามบินอยู่

 

แต่เมื่อทางการปารากวัยพบความผิดสังเกต เมื่อพาสปอร์ตของโรนัลดินโญและพี่ชายไม่ได้เป็นพาสปอร์ตของประเทศบราซิล แต่เป็นพาสปอร์ตของประเทศปารากวัย จึงได้ดำเนินการบุกไปจับกุมตัวถึงห้องพัก โดยมีการยึดบัตรประจำตัวประชาชนและเอกสารการเดินทางทั้งหมด

 

ทั้งสองให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี พร้อมย้ำว่า พวกเขาไม่ทราบว่าพาสปอร์ตดังกล่าวเป็นของปลอม เนื่องจากเป็นพาสปอร์ตที่ได้รับจากฝ่ายที่เชิญมาร่วมงานสัมมนาที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรการกุศลที่ช่วยเหลือเด็กผู้ยากไร้

 

‘คนโง่’ หรือ ‘คนบาป’

เซร์คิโอ เกวรอซ ทนายความของโรนัลดินโญ กล่าวว่า “โรนัลดินโญไม่ได้กระทำอะไรผิด เพราะเขาไม่รู้ว่าพาสปอร์ตที่พวกเขาได้รับเป็นของปลอม” พร้อมย้ำว่า พาสปอร์ตที่ได้รับมานั้น เพื่อโอกาสในการทำธุรกิจในอนาคต เพื่อโปรโมตอดีตนักเตะคนดังและบริษัทของเขา

 

พร้อมกับยังระบุว่า โรนัลดินโญเป็นเพียง ‘คนโง่’ ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร

 

ด้านทนายของ ดาเลีย โลเปซ ผู้บริหารมูลนิธิ Angelic Fraternity ที่เชิญโรนัลดินโญมา ชี้แจงว่า เธอได้ร้องขอพาสปอร์ตปารากวัยให้แก่พี่น้องโรนัลดินโญ แต่ไม่ทราบมาก่อนว่าพาสปอร์ตนั้นเป็นของปลอม 

 

อย่างไรก็ดี ทนายของโลเปซเปิดเผยว่า โรนัลดินโญได้มีการจ่ายเงิน 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเร่งกระบวนการออกพาสปอร์ต ซึ่งในทีแรกไม่คิดว่าจะเป็นการให้ข้อมูลที่ผิดพลาดต่อทางการ และที่สำคัญคือ ทางโลเปซไม่ได้มีการจ่ายเงินเพื่อเชิญโรนัลดินโญมาปารากวัย หรือมีส่วนเกี่ยวข้องทางธุรกิจกับเขา

 

แต่ทางด้าน วิลมอนเดส ซูซา นักธุรกิจที่ถูกจับกุมตัวด้วยจากกรณีนี้ รวมถึงนักธุรกิจชาวบราซิลอีกราย และหญิงชาวปารากวัยอีก 2 ราย ระบุชัดเจนว่า โลเปซเป็นคนที่รับผิดชอบโดยตรงต่อการทำพาสปอร์ตปลอม

 

ผลกระทบต่อเรื่องนี้รุนแรงกว่าที่คิด เมื่อศาลปฏิเสธการขอประกันตัวให้ออกจากคุก มาถูกคุมตัวอยู่ที่บ้านพักในปารากวัยแทน ด้วยหลักทรัพย์มูลค่า 8 แสนดอลลาร์สหรัฐ โดยให้เหตุผลว่า ขาดเอกสารทางกฎหมายบนที่ดินจำนวน 27 เอเคอร์ ซึ่งเป็นของนักธุรกิจท้องถิ่นที่ทนายของโรนัลดินโญพยายามเสนอให้

 

นั่นทำให้โรนัลดินโญและโรแบร์โตจะต้องติดคุกต่อไปก่อนในระหว่างนี้

 

ขณะที่ทางการบราซิลจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่ไม่มีการแทรกแซงกระบวนการทางกฎหมายแต่อย่างใด โดยผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของปารากวัยต้องลาออก เพื่อรับผิดชอบต่อกรณีที่ปล่อยให้โรนัลดินโญผ่านเข้าประเทศได้ทั้งๆ ที่ใช้พาสปอร์ตปลอม

 

สิ่งที่เป็นคำถามที่น่าสนใจคือ ทำไมโรนัลดินโญจึงต้องใช้พาสปอร์ตปลอมของปารากวัย ในเมื่อชาวบราซิลสามารถใช้เพียงแค่บัตรประชาชนก็สามารถเข้าประเทศได้แล้ว

 

เรื่องนี้อาจสอดคล้องกับรายงานข่าวของสื่อท้องถิ่นปารากวัย ที่เผยให้สื่อในบราซิลต่ออีกทอดว่า โรนัลดินโญกำลังเป็นผู้ต้องสงสัยในการกระทำอาชญากรรมบางอย่าง แต่ไม่มีการเปิดเผยว่าเป็นเรื่องอะไร

 

เป็น ‘เงื่อนงำ’ ที่ชวนสงสัย และต้องรอคำตอบจากกระบวนการสอบสวนอีกครั้ง

 

 โรนัลดินโญผู้ยิ่งใหญ่ในความทรงจำของแฟนฟุตบอลทั่วโลก

 

เทวดาท่าจะบ๊อง

ภาพความตกต่ำของโรนัลดินโญเป็นเรื่องเศร้าสำหรับแฟนฟุตบอลทั่วโลก ที่ต้องเห็นอดีตนักเตะอันดับ 1 ของโลก คนที่มีพรสวรรค์สูงสุดต้องตกอยู่ในสภาพนี้

 

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นก็มาจากการกระทำของโรนัลดินโญเองทั้งสิ้น

 

พฤติกรรมกินดื่มเหล้ายาปลาปิ้ง ปาร์ตี้สุดขีดของเขา ขึ้นชื่อมาตั้งแต่ครั้งยังเป็นผู้เล่น และเป็นเช่นนี้มาตลอด

 

ในช่วงที่อยู่บนจุดสูงสุดของชีวิตการเล่น บ่อยครั้งที่โรนัลดินโญไปเที่ยวกลางคืนจนเกือบเช้า ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ กินสุด ดื่มสุด บางวันอยู่จนร้านปิดช่วงตี 5 ทั้งๆ ที่เป็นคืนก่อนจะลงสนามเกมสำคัญในรายการยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก

 

สโมสรในเวลานั้นอย่างบาร์เซโลนา โดยเฉพาะโค้ช แฟรงก์ ไรจ์การ์ด พยายามมองข้ามสิ่งเหล่านี้ ตราบใดที่เขายังทำผลงานได้ดีในสนาม

 

แต่กว่าที่เขาจะรู้ตัวอีกที ร่างกายที่เคยดีและทำให้เขาทำอะไรก็ได้ในสนามก็ค่อยๆ ทรุดโทรม บาร์เซโลนาไม่ต้องการเก็บเขาไว้อีกต่อไป เพราะทีมกำลังมีความหวังใหม่ในตัว ลิโอเนล เมสซี ที่ก้าวขึ้นมาแทนที่ได้ทันที ก่อนที่สุดท้าย เป๊ป กวาร์ดิโอลา จะตัดสินใจเด็ดขาดในการขับโรนัลดินโญออกจากทีม ด้วยเหตุผลลึกๆ คือ กังวลว่าสตาร์ชาวบราซิลจะทำให้รุ่นน้องชาวอาร์เจนไตน์เสียคน

 

การตัดสินใจของเป๊ปไม่ผิด เพราะหลังจากนั้นโรนัลดินโญมีแต่จะตกต่ำลง กับเอซี มิลานอาจจะมีช่วงวันเวลาที่เขาเล่นได้ดีสมราคานักเตะอันดับ 1 ของโลกบ้าง แต่วันเหล่านั้นไม่ได้มาบ่อยนัก และพฤติกรรมที่ไร้ความเป็นมืออาชีพของเขาที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ก็ทำให้เขาค่อยๆ กลายเป็นเรื่องเล่าในวันวาน

 

โรนัลดินโญกลับไปตายรังในบ้านเกิด พร้อมจะเล่นให้ทีมใดก็ได้ที่อยากได้ตัวเขา แต่ไม่เคยกลับมายิ่งใหญ่เหมือนเดิมได้อีกครั้ง ก่อนจะกลายเป็นความทรงจำที่ดีของแฟนฟุตบอลทั่วโลกแทน

 

เหลือไว้เพียงคำถามว่า หากเขามีความเป็นมืออาชีพได้เพียงสักเสี้ยวหนึ่งของ คริสเตียโน โรนัลโด และรักความสงบเหมือนเมสซี เขาจะไปถึงจุดไหน?

 

ชีวิตหลังการเล่นที่โหดร้าย

อย่างไรก็ดี แม้จะเลิกเล่นฟุตบอลแล้ว โรนัลดินโญยังตกต่ำได้อีกกับอีกหลายคดีที่เกิดขึ้น

 

จากคดีของสถาบันการศึกษาของตัวเขาเองในชื่อ Insituto Ronaldinho Gaucho (IRG) ซึ่งปิดตัวไปในปี 2010 แต่ในอีก 2 ปีหลังจากนั้น มีการสอบสวนว่า มีการกระทำทุจริต ซึ่งแม้ในครั้งแรกการสอบสวนจะจบลงด้วยการระบุว่า โรนัลดินโญและพี่ชายของเขาไม่มีเจตนากระทำผิด

 

แต่ 3 ปีต่อมา มีการรื้อคดีมาสอบสวนอีกครั้ง คราวนี้มีการระบุว่า มีการทุจริตถึง 3 แสนดอลลาร์สหรัฐ แต่ศาลก็ตัดสินไม่มีบทลงโทษแต่อย่างใด 

 

จากนั้นในปี 2015 โรนัลดินโญถูกปรับจากคดีสิ่งแวดล้อม จากการสร้างท่าเรือและที่ตกปลาริมฝั่งแม่น้ำ Guaiba ในบ้านเกิดของเขาที่ปอร์โต อเลเกร ซึ่งมีการต่อสู้คดีกันหลายปี และถูกยึดพาสปอร์ต ซึ่งระหว่างนั้นแม้จะไม่มีพาสปอร์ต แต่โรนัลดินโญได้เดินทางไปทั่วโลกในฐานะทูตการท่องเที่ยว

 

สุดท้ายโรนัลดินโญยอมจ่ายค่าปรับเงิน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อแลกกับการได้พาสปอร์ตและเอกสารสำคัญของเขาคืนอีกครั้ง

 

‘เหยินน้อย’ ยังมีปัญหาเรื่องสกุลเงินคริปโต หลังถูกเชื่อมโยงกับสกุลเงินที่ชื่อ 18kRonaldinho ที่มีผู้เสียหายจำนวนมาก และมีความเสียหายมากถึง 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ทนายของเขายืนยันว่า เขาไม่รู้เห็นกับเรื่องดังกล่าว

 

ขณะที่ทรัพย์สินที่หามาได้จากการค้าแข้งของเขาแทบไม่เหลือ โดยมีรายงานเมื่อเดือนกรกฎาคมปีกลายว่า เขามีหนี้สินมากกว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยถูกทางการยึดทรัพย์สินเป็นอาคาร 4 หลัง และได้มีการเปิดประมูลขายทอดตลอดไปเรียบร้อยแล้ว

 

เรื่องราวของโรนัลดินโญดีพอจะเป็นอุทาหรณ์สอนใจให้แก่ทุกคน ไม่เฉพาะแฟนฟุตบอลหรือคนที่ชอบกีฬา ว่าต่อให้เคยอยู่บนจุดสูงสุด มีชีวิตที่ดีงามแค่ไหน แต่หากใช้ชีวิตอย่างประมาท ขาดความยับยั้งชั่งใจ ไม่ว่าใครก็สามารถตกต่ำลงมาได้ถึงขนาดนี้

 

ในฐานะแฟนฟุตบอลที่ยังทึ่งเสมอกับลีลาของโรนัลดินโญ ยังหวังว่า นี่คงจะเป็นจุดต่ำสุดของเขาแล้ว และหลังจากนี้เขาจะกลับมาเป็นคนที่ดีขึ้น

 

ให้รอยยิ้มนั้นกลับมาเป็นรอยยิ้มที่สดใสอีกครั้ง

FYI
  • โรนัลดินโญประสบความสำเร็จสูงสุด คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกกับทีมชาติบราซิลในปี 2002 ได้รางวัลบัลลงดอร์ในปี 2005 และคว้าแชมป์กับสโมสร รวมถึงรางวัลส่วนตัวอีกมากมายนับไม่ถ้วน
  • คลิปวิดีโอยิงชนคานของเขาในการโปรโมตรองเท้าฟุตบอล Nike Tiempo เป็นคลิปวิดีโอแรกที่มียอดผู้ชมถึง 1 ล้านคน ใน YouTube
  • ท่าไม้ตาย Elastico ของเขา เป็นหนึ่งในท่าที่เด็กๆ ทั่วโลกพยายามทำเลียนแบบ ซึ่งตัวเขาเองก็เลียนแบบมาจากท่าของ ริเวลิโน ตำนานลูกหนังชาวบราซิลในยุค 1970 แต่ในหมู่ชาวแอฟริกาจะเรียกท่านี้ว่า The Gaucho ซึ่งเป็นนามสกุลของเขา
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X