×

เบื้องหลัง ROCTEC ทรานส์ฟอร์มธุรกิจ จากผู้บุกเบิกสื่อบันเทิงในรถไฟฟ้า สู่ผู้บริการ ICT ครบวงจร

04.09.2025
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • ROCTEC ทรานส์ฟอร์มธุรกิจครั้งใหญ่ จากธุรกิจสื่อโฆษณา (MACO) สู่ธุรกิจบริการ ICT เต็มตัว ดันรายได้จาก ICT ในปัจจุบันคิดเป็น 85% ของรายได้ทั้งหมด
  • หนึ่งในเหตุผลสำคัญเบื้องหลังการทรานส์ฟอร์มคือธุรกิจสื่อมีความผันผวนสูงและอัตรากำไรลดลง โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ขณะที่ธุรกิจ ICT มีความมั่นคงกว่าและสอดคล้องกับเทรนด์ Digital Transformation
  • ผมคิดว่าเราเป็นบริษัทแรกของโลกที่สร้างระบบความบันเทิงขนาดใหญ่แบบนี้ในรถไฟฟ้า” เว่ย แซม แลม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ROCTEC เล่าถึงความเชี่ยวชาญของ ROCTEC ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา
  • บริษัทมีทีมวิจัยและพัฒนาเป็นของตัวเอง ทำให้สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ และควบคุมคุณภาพ, ต้นทุน, รวมถึงแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หลายคนที่เคยใช้บริการขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้า BTS น่าจะคุ้นชินกับหน้าจอที่มีสื่อบันเทิงหลากหลาย โดยเฉพาะโฆษณาทั้งในพื้นที่สถานีและภายในตัวรถไฟฟ้า 

 

รู้หรือไม่ว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังระบบเหล่านี้ คือ บริษัทที่ชื่อว่า ROCTEC หรือ บริษัท ร็อคเทค โกลบอล จำกัด (มหาชน) 

 

ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน หลังจากที่ประเทศไทยเริ่มมีรถไฟฟ้าสายแรก คือ รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวที่เริ่มให้บริการมาตั้งแต่ปี 2542 หลังจากนั้น BTS กำลังมองหาโซลูชั่นเกี่ยวกับความบันเทิงและการขายพื้นที่โฆษณาบนรถไฟฟ้าที่ดียิ่งขึ้น ก่อนจะดึง ROCTEC เข้ามาเสริมในจุดนี้

 

ผมคิดว่าเราเป็นบริษัทแรกของโลกที่สร้างระบบความบันเทิงขนาดใหญ่แบบนี้ในรถไฟฟ้า” เว่ย แซม แลม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ROCTEC เล่าถึงความเชี่ยวชาญของ ROCTEC ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา ในเวลานั้น ROCTEC คือผู้ให้บุกเบิกการให้บริการด้านนี้ในฮ่องกง และต่อยอดไปยังรถไฟฟ้าในมาเก๊า ก่อนจะเริ่มเข้ามาทำธุรกิจในไทยภายใต้โครงการของ BTS ตั้งแต่ปี 2547 

 

ความเชี่ยวชาญของเราคือการพัฒนาระบบ ICT ให้เข้ากับความต้องการที่หลากหลาย อย่างรถไฟฟ้าในอดีตไม่มีหน้าจอเพื่อบอกผู้โดยสารว่าสถานีถัดไปคืออะไร และไม่มีระบบความบันเทิงอื่นๆ เป็นที่มาของการพัฒนาระบบดิจิทัลพิเศษภายในรถไฟฟ้า ทั้งส่วนของจอ LCD ซอฟต์แวร์และระบบเครือข่ายเพื่อถ่ายโอนสัญญาณ เช่น รายงานข่าวตั้งแต่ยุคที่ยังไม่มี 4G หรือ 5G

 

 

จาก MACO สู่ ROCTEC 

 

จากความสำเร็จในฮ่องกงและมาเก๊า ROCTEC Technology ต่อยอดธุรกิจมายังแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในไทย สิงคโปร์ และเวียดนาม ทำให้บริษัทมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบ ICT โดยเฉพาะด้านการสื่อสารในระบบรางขนาดใหญ่ของแต่ละประเทศ 

 

สำหรับในไทย เดิมที ROCTEC ที่อยู่ในกลุ่ม BTS ภายใต้ บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO ที่เข้า ก่อนจะทรานส์ฟอร์มธุรกิจครั้งใหญ่ตั้งแต่ปี 2566 และเปลี่ยนชื่อมาเป็น ROCTEC เพื่อรุกธุรกิจบริการ ICT เต็มตัว 

 

หากดูโครงสร้างรายได้ของบริษัทในปัจจุบันก็จะเห็นการภาพค่อนข้างชัดเจน จากเดิมที่เราคุ้นชินว่า MACO คือธุรกิจสื่อโฆษณา โดยเฉพาะสื่อนอกบ้าน (Out of Home Media) แต่ปัจจุบันรายได้ของธุรกิจนี้ลดลงเหลือเพียง 15% ขณะที่ธุรกิจบริการ ICT มีสัดส่วนรายได้ราว 85% โดยรายได้ทั้งหมดในปัจจุบันมาจากต่างประเทศ 60% และในประเทศ 40%

 

เบื้องหลังการทรานส์ฟอร์มธุรกิจครั้งใหญ่

 

เว่ย แซม แลม เล่าต่อว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ROCTEC เป็นผู้อยู่เบื้องหลังหน้าจอต่างๆ บนรถไฟฟ้า BTS รวมทั้งหน้าจอดิจิทัลขนาดใหญ่นอกบ้านสำหรับโฆษณาเกือบทั้งหมด แต่ธุรกิจสื่อโฆษณานั้นค่อนข้างผันผวนขึ้นอยู่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และเป็นธุรกิจที่รายได้ขึ้นลงเป็นฤดูกาล ถือเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ ROCTEC ทรานส์ฟอร์มและปรับกลยุทธ์ธุรกิจครั้งใหญ่

 

“โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงโควิด-19 เราเห็นว่าอัตรากำไรของธุรกิจโฆษณาลดลง หรือไม่มีกำไรเลยในบางช่วง ในทางกลับกันเราเห็นว่าอัตรากำไรและรายได้ของธุรกิจ ICT ยังค่อนข้างคงที่ เมื่อเทียบกับธุรกิจสื่อ” ซีอีโอ ROCTEC กล่าว

 

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เราเห็นว่าเป็นเรื่องยากที่จะเติบโตต่อไปด้วยธุรกิจสื่อ ขณะที่ธุรกิจ ICT ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง สอดคล้องกับเทรนด์ Digital Transformation ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก เพื่อใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยปรับปรุงสินค้าและบริการของแต่ละธุรกิจ

 

อย่างในอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าในฮ่องกง ช่วง 5-8 ปีที่ผ่านมา มีความต้องการเทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อย่างการนำเทคโนโลยีเกี่ยวกับ Internet of Things รวมทั้งเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยปรับปรุงบริการและความปลอดภัย เช่น ระบบรถไฟรางเบาที่สัญจรพร้อมกับการจราจรบนถนนอื่นๆ ในอดีตอาจจะเกิดอุบัติเหตุชนกับรถสาธารณะอื่นๆ ซึ่งเราก็เข้าไปช่วยติดตั้งตัวควบคุมอัจฉริยะและเซ็นเซอร์ IoT บนถนน ตั้งแต่ 8 ปีก่อน ซึ่งช่วยลดจำนวนอุบัติเหตุลงอย่างมีนัยสำคัญ

 

นอกจากนี้ บริษัทยังมีบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น บริการเกี่ยวกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ รวมทั้งนวัตกรรมอื่นๆ เช่น โครงการตู้บริการตนเองอัตโนมัติ (Self-service iPostal Kiosk) ที่ดำเนินการร่วมกับไปรษณีย์ฮ่องกง ที่ผู้คนสามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ที่ทำการไปรษณีย์เปิดเพื่อส่งพัสดุหรือซื้อแสตมป์ 

 

R&D คือหัวใจความสำเร็จ 

 

แม้ ROCTEC จะมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรม ICT มากว่า 40 ปี แต่เรายังเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในไทย แต่ข้อได้เปรียบของเราคือทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญจากฮ่องกง และประสบการณ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรมขนส่ง ทั้งระบบขนส่งทางรางและสนามบินในฮ่องกง หมายความว่าผลิตภัณฑ์ของเราอยู่ในมาตรฐานสากล ช่วยให้สามารถโน้มน้าวลูกค้าได้ง่ายขึ้น

 

หัวใจสำคัญที่ช่วยให้ ROCTEC ประสบความสำเร็จมาจากการมีทีมวิจัยและพัฒนา (R&D) ของตัวเอง ช่วยเราสามารถควบคุมคุณภาพ ต้นทุน และการแก้ปัญหาระหว่างทางได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า

 

“ROCTEC มีทีม R&D มาเกือบ 25 ปี โดยมีผมเป็นพนักงานคนแรกในทีม” เว่ย แซม แลม กล่าว

 

 

เป้าหมายในอีก 5 ปีข้างหน้า และความท้าทายของการทรานส์ฟอร์ม

 

หากมองไปยังอนาคตอีก 5-10 ปีข้างหน้า เป้าหมายของ ROCTEC คือการเป็นผู้นำด้านการให้บริการ ICT ในประเทศไทย โดยใช้ความเชี่ยวชาญจากฮ่องกงมาขยายธุรกิจในแนวกว้างมากขึ้น พร้อมกับการขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพสูง เช่น เวียดนามซึ่งจัดตั้งบริษัทขึ้นมาแล้ว รวมถึงการขยายธุรกิจในสิงคโปร์ผ่านการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ในพื้นที่

 

ส่วนธุรกิจสื่อโฆษณาที่เคยเป็นธุรกิจหลักของ MACO และ ROCTEC ในอดีต ปัจจุบันได้ถูกโอนย้ายไปให้พาร์ทเนอร์อย่าง Plan B เป็นผู้บริหารจัดการสินทรัพย์ในส่วนนี้ โดย ROCTEC ยังคงเป็นเจ้าของสินทรัพย์แต่ไม่เน้นการทุ่มเททรัพยากรไปกับธุรกิจนี้แล้ว เนื่องจากสัญญาที่มีอยู่จะหมดลงในปี 2572

 

 

อย่างไรก็ดี ความท้าทายที่สำคัญคือการขาดแคลนบุคลากรที่มีคุณภาพในอุตสาหกรรมนี้ รวมทั้งการปรับเปลี่ยน mindset ของพนักงานที่เคยทำงานด้านสื่อโฆษณามาเป็นเวลานานให้เข้าใจและคุ้นเคยกับธรรมชาติของธุรกิจ ICT ที่แตกต่างกัน ผสานกับการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยงานในระดับเริ่มต้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของทีมพัฒนา

 

“ROCTEC นำ AI มาใช้ในสองด้านหลักๆ ด้านหนึ่งคือการใช้ AI เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานภายใน เช่น การใช้ AI ช่วยเขียนโค้ด เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ ในส่วนที่สองคือการใช้ AI เพื่อให้บริการลูกค้า เช่น ไม่ว่าจะเป็นการให้คำปรึกษาหรือแก้ปัญหาระหว่างการใช้บริการให้กับลูกค้า”​ เว่ย แซม แลม กล่าว

 

จากความสำเร็จในอดีตสู่การเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญในปัจจุบัน ROCTEC ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนบนเส้นทางใหม่ที่เต็มไปด้วยโอกาส แม้ว่าความท้าทายในตลาด ICT ของไทยจะยังคงมีอยู่ แต่ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานกว่า 40 ปี ทีม R&D ที่แข็งแกร่ง และการสนับสนุนจากกลุ่ม BTS ทำให้ ROCTEC พร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้าน ICT อย่างเต็มตัว และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของประเทศไทยและภูมิภาคนี้ต่อไปในอนาคต

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising