ในแต่ละวัน เทคโนโลยีมีทิศทางพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดจนผู้เช่ียวชาญหลายต่อหลายคนอย่าง สตีเฟน ฮอว์คิง และอีลอน มัสก์ ออกมาเตือนถึงความอันตรายจากปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่ามนุษย์สามารถพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อช่วยรักษาโลกต่อไปได้
ภายในนิทรรศการ Robotanica ที่เนเธอร์แลนด์ จัดแสดงโชว์โครงการพัฒนาหุ่นและเทคโนโลยี 11 แบบที่หวังช่วยปกป้องธรรมชาติเอาไว้ บรรดาโครงการเหล่านี้มีตั้งแต่หุ่นยนต์เก็บรวบรวมข้อมูลที่ทำตัวคล้ายผักขนหนามไปจนถึงหุ่นนกหัวขวาน
ไอเดียส่วนใหญ่ของโครงการที่ถูกจัดแสดงในอาคาร Transnatural Institute ยังอยู่ระหว่างการออกแบบเท่านั้น แต่พวกเขามองว่าหุ่นยนต์เป็นทางออกหนึ่งในการช่วยรักษาความเสียหายที่มนุษย์ทำต่อสิ่งแวดล้อม
สำหรับหุ่นยนต์นกหัวขวาน ถือเป็นตัวอย่างสำคัญของกรณีนี้ ด้วยสาเหตุที่นกดังกล่าวใกล้สูญพันธุ์ขึ้นเรื่อยๆ จนส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ เนื่องจากการเจาะต้นไม้ของพวกมันทำให้แมลงรู้สึกกลัวจนไม่สามารถกินเปลือกไม้ได้
อาร์เจน แบงมา (Arjen Bangma) ผู้ก่อตั้ง Transnatural Institute เปิดเผยว่า “มันคงดีกว่าถ้าพวกเราหาวิธีปกป้องสายพันธ์ุนกหัวขวาน” อย่างไรก็ตาม เขามองว่าการนำหุ่นยนต์เขามาอาจช่วยให้มีเวลาในการเพิ่มประชากรนกโดยไม่กระทบต่อระบบนิเวศได้ด้วย
อีกหนึ่งโครงการที่ได้รับการแสดงยังเกี่ยวโยงต่อธรรมชาติเช่นกัน โดยพวกเขาใช้แมลงสาบเป็นรากฐานของหุ่นยนต์จนกลายเป็นหุ่นยนต์ชีวภาพ
แมลงสาบจะถูกฝังชิปเข้าไปในตัวตั้งแต่เป็นตัวอ่อนให้เส้นประสาทเติบโตขึ้นรอบๆ อุปกรณ์จนรวมเข้าด้วยกัน ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมแมลงสาบผ่านคอมพิวเตอร์ และสามารถให้ตรวจสอบหาผู้รอดชีวิตจากภัยพิบัติหรือในพื้นที่ที่ยากแก่การเข้าถึงได้
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อถกเถียงว่าโครงการนี้ละเมิดหลักจริยธรรมหรือไม่ หากรวมสัตว์เข้ากับชิ้นส่วนของหุ่นยนต์
นอกจากนี้ยังมีหุ่นยนต์ผักขนหนามที่กลิ้งไปตามกระแสลมในทะเลทรายเพื่อใช้ตรวจวัดข้อมูลทางสิ่งแวดล้อม และนำข้อมูลส่งไปสู่ส่วนกลางเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ด้วย
อ้างอิง: