เมื่อไม่นานมานี้ ความต้องการด้านพลังงานหมุนเวียน ยานยนต์ไฟฟ้า และเทคโนโลยีสีเขียวทั้งหลาย ช่วยให้ความมั่งคั่งของผู้คนในอุตสาหกรรมเหล่านี้เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับในอดีตที่ผ่านมา แต่ล่าสุดความมั่นคั่งที่เพิ่มขึ้นกลับค่อยๆ ลดลงไป
ข้อมูลจาก Bloomberg’s Green Billionaires ซึ่งรวมถึงส่วนของ อีลอน มัสก์ บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกคนปัจจุบัน ระบุว่า ความมั่งคั่งรวมของ 15 กลุ่มคนในอุตสาหกรรมสีเขียวลดลงไป 1.41 แสนล้านดอลลาร์ ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา โดยความมั่งคั่งรวมของกลุ่มคนเหล่านี้ลดลงไปถึง 23% ซึ่งมากกว่าการลดลงของความมั่งคั่งของกลุ่มคนที่รวยที่สุด 500 อันดับแรก
เงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นมากระทบหุ้นกลุ่มเติบโต ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีด้านพลังงานสะอาด ขณะที่ราคาของวัตถุดิบสำหรับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าก็เพิ่มขึ้นสูง นอกจากนี้ มหาเศรษฐีด้านพลังงานสะอาดจำนวน 20 ราย จาก 23 ราย ที่ Bloomberg ติดตามข้อมูลอยู่นี้ มีธุรกิจหลักอยู่ในจีน ซึ่งเศรษฐกิจของจีนเองก็ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิดในช่วงที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ธุรกิจพลังงานสะอาดในจีนเติบโตอย่างมาก หลังจากที่เปลี่ยนโฉมจากประเทศที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก มาสู่การเป็นศูนย์รวมอุตสาหกรรมการผลิตที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาดที่ใหญ่ที่สุดของโลก พร้อมกับการตั้งเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ภายในปี 2060 ทำให้หุ้นที่เกี่ยวกับพลังงานสะอาดพุ่งขึ้นสูงมาก
หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ บริษัท Contemporary Amperex Technology (CATL) ซึ่งเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ให้กับ Tesla กลายมาเป็นหุ้นที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับ 2 ของจีนเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2021 หลังจากราคาหุ้นพุ่งขึ้น 2,600% หลังจากเข้าตลาดเมื่อปี 2018
จากจุดพีคของราคาหุ้น CATL ที่มีมูลค่าลดลงไป 30% และทำให้ Robin Zeng Yuqun ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการ มีความมั่งคั่งลดลงไป 2.01 หมื่นล้านดอลลาร์ เช่นเดียวกับ Bin Li ซีอีโอของ NIO Inc. มีความมั่งคั่งลดลงถึง 52% ซึ่งมากที่สุดในกลุ่มเศรษฐีพลังงานสะอาดในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา
Alexander Chan หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ด้าน ESG ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Invesco กล่าวว่า “ขณะนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่ค่อนข้างเฉพาะตัว จากการที่เงินลงทุนถูกเคลื่อนย้ายออกจากกลุ่มหุ้นพลังงานสะอาด หลังจากทำกำไรอย่างงดงามในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนต่างไม่มั่นใจต่อความผันผวนและภาวะเงินเฟ้อสูงในปัจจุบัน ขณะนี้ผมยังมองไม่เห็นว่าจะเห็นการฟื้นตัวได้อย่างไร”
ทั้งนี้ มหาเศรษฐีในกลุ่มนี้ที่ยังคงมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นได้มีเพียงคนเดียวคือ Anthony Pratt ประธานกรรมการของ Visy Industries ซึ่งเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์จากกระดาษสัญชาติออสเตรเลีย โดยความมั่งคั่งของเขาเพิ่มขึ้น 15% เป็น 1.02 หมื่นล้านดอลลาร์ จากยอดขายของบริษัทที่พุ่งขึ้นสูงมากในช่วงโควิด
อย่างไรก็ตาม หากประเมินความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีเหล่านี้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยภาพรวมแล้วยังคงเพิ่มสูงขึ้น
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP
