ริชาร์ด แบรนสัน มหาเศรษฐีชาวอังกฤษและผู้ร่วมก่อตั้ง Virgin Group บริษัทที่ครอบคลุมธุรกิจหลากหลายตั้งแต่สายการบิน โทรคมนาคม ไปจนถึงการท่องเที่ยวอวกาศ ออกมาเปิดเผยกับ CNBC Make It ว่า เขารู้สึก ‘ค่อนข้างดูถูก’ เมื่อถูกแนะนำตัวว่าเป็น ‘มหาเศรษฐีริชาร์ด แบรนสัน’ มากกว่าที่จะเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Virgin Group
สาเหตุที่เขารู้สึกเช่นนั้นก็เพราะเขาเชื่อว่าไม่ควรตัดสินความสำเร็จของคนจากมูลค่าความมั่งคั่ง และการที่ใครคนหนึ่งมีชีวิตอยู่เพื่อเงินทองเพียงอย่างเดียวนั้นเป็นเรื่องที่ ‘น่าเศร้า’ มาก แบรนสันมองว่าชื่อเสียงและความภาคภูมิใจของทีมงานที่ร่วมสร้างธุรกิจมาด้วยกันต่างหากคือสิ่งที่สำคัญกว่า
“บางทีในอเมริกาการเป็น ‘มหาเศรษฐี’ อาจเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ แต่สำหรับผมมันไม่ใช่” แบรนสันกล่าว “ผมคิดว่าชื่อเสียงของคุณคือสิ่งที่คุณสร้างขึ้นมา”
สำหรับแบรนสัน ชื่อเสียงของเขามักจะผูกติดกับ Virgin Group ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำให้เขามีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิประมาณ 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 9 หมื่นล้านบาท ตามการจัดอันดับของ Forbes แต่เขาก็ไม่เห็นด้วยกับความคิดที่ว่าเขาสร้างบริษัทนี้ขึ้นมาเพื่อหาเงิน
“ชื่อเสียงของคุณคือความภาคภูมิใจของทีมงานที่ทำงานร่วมกับคุณในสิ่งที่พวกเขาได้สร้างขึ้นมา” แบรนสันกล่าว “การจ่ายบิลให้ตรงเวลาเป็นเรื่องสำคัญ แต่สิ่งที่ผู้ประกอบการทั่วโลกทำกันในทุกวันนี้และเป็นเหตุผลเดียวที่พวกเขาประสบความสำเร็จคือ การสร้างความแตกต่างให้กับชีวิตผู้อื่น และนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”
ทุกครั้งที่แบรนสันเริ่มธุรกิจใหม่เขาจะถามตัวเองสองคำถามเสมอคือ ธุรกิจนี้จะดีกว่าสิ่งที่คนอื่นทำอยู่หรือไม่ และมันจะสร้างความแตกต่างที่แท้จริงให้กับโลกได้หรือไม่ แม้ความสำเร็จทางการเงินจะตามมาบ่อยครั้ง แต่แบรนสันก็ยืนยันว่าเงินไม่เคยเป็นแรงจูงใจหลักของเขา
ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จครั้งแรกของเขาคือ ‘Student’ นิตยสารวัฒนธรรมสำหรับเยาวชน ซึ่งมีจุดประสงค์หลักเพื่อท้าทายสิ่งพิมพ์ดั้งเดิมที่ ‘ล้าสมัย’ โดยนำเสนอประเด็นทางวัฒนธรรม เช่น ดนตรีที่ได้รับความนิยม และการรณรงค์ต่อต้านสงครามเวียดนาม
“ผมอยากให้มันอยู่รอด และใช่ ผมอยากได้โฆษณาพอที่จะจ่ายเงินให้โรงพิมพ์และผู้ผลิตกระดาษ” เขากล่าว “แต่เงินไม่ใช่แรงจูงใจในการทำนิตยสารอย่างแน่นอน”
คำแนะนำของแบรนสันสำหรับการประสบความสำเร็จคือ การมองหาโอกาสที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้น เพราะเป็นหนทางสู่ความสุขที่แท้จริง และมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าการคิดถึงแต่ผลกำไรเพียงอย่างเดียว
“เรามีชีวิตเดียว” แบรนสันกล่าว “เราใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงาน และมันคงน่าเศร้าถ้าเราทำไปเพื่อเงินเดือนเพียงอย่างเดียว”
แน่นอนว่าความสำเร็จไม่ได้มาง่ายๆ หากคุณทำตามความฝัน คุณยังคงต้องมีปัจจัยอื่นๆ เช่น พรสวรรค์และความมุ่งมั่น เพื่อหลีกเลี่ยงความล้มเหลว
อย่างไรก็ตาม แบรนสัน ไม่ใช่มหาเศรษฐีเพียงคนเดียวที่แนะนำว่า ความสุขในชีวิตไม่ได้มาจากความมั่งคั่งเสมอไป มาร์ค คิวบัน มหาเศรษฐีและนักลงทุนชื่อดัง ก็เคยกล่าวว่า ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่มี แต่เป็นการตั้งเป้าหมายและรู้สึกดีกับสิ่งที่ทำสำเร็จในทุกๆ เช้า
คิวบัน ซึ่งเติบโตมาในครอบครัวชนชั้นแรงงานใกล้เมืองพิตต์สเบิร์ก มีมุมมองมาตลอดว่า เส้นทางอาชีพของเขาถูกกำหนดโดยความปรารถนาที่จะควบคุมเวลาของตัวเองมากกว่าแรงบันดาลใจทางการเงินใดๆ
“เวลาเป็นทรัพย์สินอย่างเดียวที่คุณไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ คุณไม่สามารถเป็นเจ้าของมันได้อย่างแท้จริง” เขากล่าวในงาน SXSW เมื่อเดือนมีนาคม “ผมอยากอยู่ในตำแหน่งที่ผมสามารถตัดสินใจเองได้ และใช้เวลาในแบบที่ผมต้องการ นั่นคือแรงจูงใจของผมเสมอมา”
ภาพ: Gabe Ginsberg / Getty Images
อ้างอิง: