สำนักข่าว Reuters เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของ หลุยส์ วัยรุ่นชายชาวไทยอายุ 18 ปี ที่ถูกหลอกลวงไปทำงานที่กัมพูชา ก่อนจะถูกทรมานและบังคับให้ทำงานในขบวนการหลอกลวงทางออนไลน์ จนท้ายที่สุดตัดสินใจหนี ด้วยการกระโดดหน้าต่างลงจากอาคารสูงหลายชั้น จนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด
หลุยส์ให้สัมภาษณ์กับ Reuters ที่กรุงเทพฯ 1 วันก่อนที่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล จะเปิดเผยรายงานฉบับใหม่ ที่บ่งชี้ว่ารัฐบาลกัมพูชา กำลังเพิกเฉยต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน การค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็ก และการทรมานที่กระทำโดยกลุ่มอาชญากรรมภายในศูนย์สแกมเมอร์กว่า 50 แห่งทั่วประเทศ
จุดเริ่มต้นในเรื่องราวของหลุยส์ เกิดขึ้นในวัย 17 ปี หลังจากที่เขาโพสต์หางานทาง Facebook และได้รับการติดต่อจากผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเสนองานที่มีค่าตอบแทนดี พร้อมอาหารและที่พักให้
เธอชักชวนให้เขาเดินทางไปกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขาออกจากจังหวัดบ้านเกิด และหลังจากนั้นหญิงคนดังกล่าวก็บอกให้เขาเดินทางต่อไปที่ชายแดน ก่อนที่เขาจะถูกพาตัวไปยังอาคารหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์สแกมเมอร์อย่างน้อย 53 แห่งในกัมพูชา ที่ได้รับการยืนยันโดยแอมเนสตี้
หลังจากนั้นหลุยส์ถูกบังคับให้ทำงานหลอกลวงผู้หญิงไทยให้ส่งเงินให้ โดยใช้ซอฟต์แวร์ Deepfake ในการปลอมแปลงใบหน้า ซึ่งเขาบอกว่ารู้สึกกดดัน และหลังจากนั้นอีกราว 1 สัปดาห์ เขาก็ถูกขายไปยังศูนย์สแกมเมอร์อีกแห่งหนึ่งใกล้ชายแดนเวียดนาม ซึ่งมีลักษณะเหมือน ‘คุก’
ศูนย์สแกมเมอร์ที่เขาถูกขังและบังคับให้ทำงาน เป็นอาคารที่ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงและลวดหนาม มีชายถือกระบองไฟฟ้าเฝ้าอยู่ตลอดเวลา ซึ่งดำเนินการโดยกลุ่มอาชญากรชาวจีน
เขาต้องทนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย ใช้ชีวิตราวกับ ‘ทาส’ ถูกบังคับให้ทำงานตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงคืน และถูกลงโทษอย่างรุนแรง เป็นเวลากว่า 1 ปี พร้อมกับเหยื่อที่เป็นเด็กอีกหลายคน ซึ่งบางคนอายุเพียง 13 ปี
ในห้องที่เขาอยู่ มีชายและหญิงไทย 8 คน พวกเขาถูกสั่งให้หลอกลวงอย่างน้อยเดือนละ 1 ล้านบาท (ประมาณ 30,000 ดอลลาร์) และหากมาสาย พักผ่อนมากเกินไป หรือไม่สามารถทำยอดได้ตามเป้า จะถูกลงโทษด้วยการช็อตด้วยกระบองไฟฟ้า
หลุยส์เล่าว่า เขาตัดสินใจหลบหนีหลังจากที่ถูกขังไว้ในห้องมืด โดยเขาอยู่ที่ชั้น 8 ก่อนจะพังหน้าต่างและกระโดดลงมาที่ชั้น 5 ทำให้คางของเขากระแทกพื้นจนแตกและมีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก
“ปากผมเต็มไปด้วยเลือด เลือดไหลไปทั่ว และฟันของผมก็หัก จากนั้นผมก็หมดสติไป” เขากล่าว
ขณะที่กลุ่มอาชญากรได้ถอดเสื้อผ้าของเขาออกจนหมด แต่ก็พาเขาไปโรงพยาบาล และจากที่นั่น เขาจึงสามารถพาตัวเองกลับไปบ้านได้
หลุยส์กล่าวทิ้งท้ายว่า เขาต้องการเตือนคนไทยที่กำลังหางาน ว่าอย่าไปกัมพูชา
“อย่าไปดีกว่า เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของเราเอง ถ้าวันไหนเราเกิดพลาด เราอาจจะไม่ได้กลับมา (ไทย) อีกก็ได้”
ภาพ: Napat Wesshasartar / Reuters
อ้างอิง:
