วันนี้ (16 ธันวาคม) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท. นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีการทุจริตสอบนักเรียนนายสิบตำรวจ หลังพบการเฉลยข้อสอบผ่านสื่อสังคมออนไลน์มาก่อนหน้านี้
หลังจากที่วานนี้ (15 ธันวาคม) เจ้าหน้าที่ได้เรียกผู้ผ่านการสอบข้อเขียนรอบแรกเข้ามารายงานตัว 581 คน ในจำนวนนี้แบ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ตำรวจมีรายชื่อแล้วเนื่องจากพบว่ามีพฤติการณ์เข้าข่ายทุจริต ซึ่งผลสอบปรากฏว่าบางรายรับสารภาพหลังการสอบสวน บางรายแสดงตัวขอสละสิทธิ์ และรายที่เหลือไม่เดินทางมาตามนัดเจ้าหน้าที่จึงคัดแยกและตัดสิทธิ์
สำหรับการตรวจสอบว่าบุคคลใดทุจริตนั้น พล.ต.ท. นิรันดรกล่าวว่า เจ้าหน้าที่มีการตรวจสอบร่องรอยจนพบ โดยมีกรรมวิธีซักถามข้อมูลจนพบกลุ่มผู้กระทำผิด และขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบคัดแยกกลุ่มผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม
พล.ต.ท. นิรันดรกล่าวต่อไปว่า ผู้เข้าสอบที่ทุจริต บางคนรับสารภาพว่าทำข้อสอบไม่ได้จึงตัดสินใจทุจริต ซึ่งชุดสืบสวนก็ได้ข้อมูลที่เชื่อว่าจะสามารถขยายผลไปสู่กลุ่มที่ 2-3 ที่เป็นผู้ร่วมกระทำความผิดได้ โดยวันนี้จะมีผู้ที่ผ่านการสอบข้อเขียนอีก 580 คน มาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และหนึ่งในนั้นมีกลุ่มผู้ทุจริตมาเพิ่มเติมอีก
ขั้นตอนจากนี้เจ้าหน้าที่จะรวบรวมพยานหลักฐานที่ได้จากการสอบปากคำและตามช่องทางต่างๆ จนสรุปความเชื่อมโยงของเครือข่ายนี้ว่าผู้กระทำผิดจะเกี่ยวข้องกับการทุจริตสอบในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 และภาค 5 ด้วยหรือไม่
ขณะที่การพิจารณากลุ่มที่ถูกตัดสิทธิ์ว่าจะให้ตัวสำรองขึ้นมาทดแทน หรือจะดำเนินการสอบใหม่หรือไม่นั้น ขอเวลาพิจารณาจากทุกฝ่ายก่อน และต้องดูว่ามีผลกระทบกับผู้เข้าสอบเป็นวงกว้างหรือไม่ หรือมีการทุจริตมากน้อยแค่ไหน แต่หากมีการเลื่อนตัวสำรองขึ้นมาทดแทนก็ต้องตรวจสอบด้วยว่าอยู่ในกลุ่มที่มีการทุจริตด้วยหรือไม่ แต่เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีมาตรการออกมาให้ชัดเจนมากขึ้น หรือหากพบว่าเข้าข่ายความผิดทางอาญาก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายหรือไม่
พล.ต.ท. นิรันดรกล่าวอีกว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนเรื่องความเชื่อมโยง แต่ขอย้ำว่าวิธีการสืบสวนครั้งนี้ตำรวจใช้วิธีการวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เข้ามาร่วมด้วย ส่วนต้นทางเครือข่ายใดที่จะมีส่วนในกระบวนการนี้ตำรวจยังไม่มีการตัดประเด็นไหนทั้งสิ้น แต่ได้ไล่รื้อสอบตั้งแต่ขั้นตอนการจัดทำข้อสอบแล้ว