กรณีที่ ศบค. มีการปรับเกณฑ์พื้นที่สถานการณ์ โดยมี 6 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด คือ กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี, เชียงใหม่, นนทบุรี, ปทุมธานี และสมุทรปราการ ซึ่งหนึ่งในเกณฑ์ที่มีการปรับปรุงคือ การงดรับประทานอาหารในร้าน ให้ซื้อกลับบ้านเท่านั้น และร้านอาหารให้ขายได้ไม่เกินเวลา 21.00 น. มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ต่อเนื่อง 14 วัน
เกณฑ์นี้จะส่งผลต่อหุ้นที่ดำเนินธุรกิจร้านอาหารโดยตรง เช่น
- บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL)
- บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป (ZEN)
- บมจ.โออิชิ กรุ๊ป (OISHI)
- บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT)
- บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป (M)
- บมจ.มัดแมน (MM)
- บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF)
- บมจ.เจซีเค ฮอสพิทอลลิตี้ (JCKH)
- บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR)
- บมจ.ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ (SORKON)
- บมจ.อาฟเตอร์ยู (AU)
- บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) จากธุรกิจ Pizza Hut
ธีร์ธนัตถ์ จินดารัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า การยกระดับมาตรการให้มีความเข้มข้นขึ้นครั้งนี้ กระทบต่อผู้ประกอบการกลุ่มร้านอาหารโดยตรง โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารลักษณะ ชาบู ปิ้งย่าง กระทะร้อน หม้อร้อน บุฟเฟต์ ของหวาน และไอศกรีม เนื่องจากปรับเมนูไปสู่บริการเดลิเวอรีได้ยาก ขณะที่ร้านอาหารจานเดียวอื่นๆ แม้จะมีช่องทางการเดลิเวอรี แต่ศักยภาพในการทำกำไรก็ปรับลดลงด้วยเช่นกัน
“ก่อนหน้านี้เราเริ่มมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มร้านอาหาร และเชื่อว่าผลประกอบการรายไตรมาสจะดีขึ้นต่อเนื่อง กำไรโดยรวมจะดีกว่าปี 2563 ที่ผ่านมา แต่เมื่อมีการยกระดับมาตรการควบคุม โดยเฉพาะในพื้นที่ 6 จังหวัดเสี่ยงสูงที่เป็นจังหวัดที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ เราจึงมองว่าแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ของกลุ่มนี้จะต่ำกว่าไตรมาส 1 ปีนี้”
เบื้องต้นอาจมีการปรับประมาณการกำไรไตรมาส 2 ลง จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะเห็นการเติบโตทั้ง QoQ และ YoY โดยการแพร่ระบาดระลอกสาม และการยกระดับมาตรการควบคุมในพื้นที่สีแดงเข้มเป็นเวลา 14 วัน ทำให้คาดการณ์ว่าจะเห็นกำไรกลุ่มร้านอาหารทำจุดต่ำสุดในไตรมาส 2 แทน และน่าจะเห็นการฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง (2H64)
ในส่วนของราคาหุ้นนั้น ก่อนหน้านี้ราคาหุ้นกลุ่มร้านอาหารเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาหลังจากคลายกังวลเรื่องการแพร่ระบาด อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นได้รับผลกระทบอีกครั้งในการแพร่ระบาดระลอกสาม ขณะที่มาตรการควบคุมพื้นที่เสี่ยงที่ยกระดับขึ้นก็จะกดดันราคาหุ้นอีกครั้ง จึงแนะนำชะลอการลงทุน และรอให้ราคาหุ้นตอบรับความเสี่ยงจากปัจจัยดังกล่าวไปก่อน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
ไม่พลาดข่าวไฮไลต์ประจำวัน มาเป็นเพื่อนกับ THE STANDARD WEALTH ในไลน์ คลิก https://lin.ee/xfPbXUP