×

ปริศนาการลาออกจากอาร์เซนอลของ ‘เอดู’ สะเทือนถึงอาร์เตตาหรือไม่?

05.11.2024
  • LOADING...
ปริศนาการลาออกจากอาร์เซนอลของ ‘เอดู’

HIGHLIGHTS

  • งานของเอดูคือการกำหนดทิศทางใหม่ให้แก่สโมสร นำวิธีการทำงานสมัยใหม่ที่ทรงประสิทธิภาพเหมาะสมกับยุคสมัย และที่สำคัญที่สุดคือการเลือก ‘คน’ ที่จะมาร่วมงานกับอาร์เซนอลอย่างเหมาะสม ไม่ใช่แค่นักเตะ แต่รวมถึงคนที่จะคุมทีมด้วย
  • บทบาทของเอดูที่จะได้ในการทำงานกับมารินิคาสคือการเป็นผู้อำนวยการเครือสโมสรของเขา ซึ่งเป็นงานที่ท้าทายความสามารถไปอีกแบบ และแน่นอนรวมถึงเรื่องของรายได้ผลตอบแทน ที่เชื่อว่าอาจจะมากกว่าที่ได้รับจากอาร์เซนอล
  • สิ่งที่อาร์เซนอลต้องการไม่ได้หมายถึง ‘Director’ แบบฟุตบอลสมัยใหม่ที่หลายสโมสรใช้งานกันในปัจจุบัน แต่เป็นคนที่จะทำงานร่วมกับอาร์เตตาและเติมเต็มในส่วนที่ผู้จัดการทีมชาวสเปนขาดอยู่ ซึ่งมีการมองว่าคนที่จะมาแทนอาจเป็น ‘กูรูในวงการซื้อขายผู้เล่น’ ที่จะชี้เป้าหมายที่ถูกต้องให้

เดือนกันยายนที่ผ่านมา อาร์เซนอลประกาศข่าวดีให้ทุกคนได้รับรู้ว่า มิเกล อาร์เตตา บอสใหญ่ผู้พาทีมกลับมามีความหวังลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ตัดสินใจต่อสัญญาฝากอนาคตไว้กับทีมกันเนอร์สต่อไป

 

“สัญญาของอาร์เตตาทำให้เรามีความมั่นคงและมีทิศทางที่ชัดเจน เพราะเราหวังที่จะไปให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก” 

 

คนในคำพูดดังกล่าวคือ เอดู ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของอาร์เซนอล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคีย์แมนคนสำคัญของสโมสรที่ผนึกกำลังกับอาร์เตตา ผลักดันและสนับสนุนอยู่เบื้องหลังมาตลอดนับตั้งแต่ปี 2019

 

แต่เมื่อวานนี้กลับเกิดกระแสข่าวสะพัดว่า เอดูตัดสินใจที่จะอำลาตำแหน่งผู้อำนวยการของอาร์เซนอล โดยจะทำงานกับสโมสรถึงเพียงแค่สิ้นสุดฤดูกาลนี้เท่านั้น

 

เกิดอะไรขึ้นกับเอดู และเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่ออนาคตของอาร์เซนอลรวมถึงอาร์เตตาอย่างไร? 

 

ภายหลังจากที่อาร์เซนอลตัดสินใจว่าพวกเขาต้องการความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของสโมสร ที่ไม่อาจให้ อาร์แซน เวนเกอร์ สุดยอดผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ทำงานในตำแหน่งเดิมอีกต่อไปเมื่อปี 2018 สโมสรก็เข้าสู่ยุคของการเปลี่ยนผ่านที่สำคัญในปีถัดมา

 

นอกเหนือจากตำแหน่งผู้จัดการทีมที่ฝ่ายบริหารเลือก อูไน เอเมรี กุนซือมือดีชาวสเปน มารับตำแหน่งแล้ว อีกหนึ่งคนสำคัญที่ถูกดึงตัวมาช่วยงานสโมสรด้วยก็คือ เอดู อดีตกองกลางชุดแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยล่าสุดของสโมสรในฤดูกาล 2003/04 ผู้เป็นหนึ่งในสมาชิกชุด The Invincibles

 

เอดู

 

เอดูในขณะนั้นรับงานอยู่กับสหพันธ์ฟุตบอลบราซิล คอยดูแลทีมแชมป์โลก 5 สมัย แต่เมื่อได้รับการติดต่อจากสโมสรเก่าก็ตกลงรับงานทันที โดยเริ่มงานในช่วงฤดูร้อน 2019 

 

งานของเอดูคือการกำหนดทิศทางใหม่ให้แก่สโมสร นำวิธีการทำงานสมัยใหม่ที่ทรงประสิทธิภาพเหมาะสมกับยุคสมัย และที่สำคัญที่สุดคือการเลือก ‘คน’ ที่จะมาร่วมงานกับอาร์เซนอลอย่างเหมาะสม ไม่ใช่แค่นักเตะ แต่รวมถึงคนที่จะคุมทีมด้วย

 

นักฟุตบอลคนแรกๆ ที่ถูกเอดูคว้าตัวมาร่วมทีมภายใต้ ‘ปฏิบัติการพิเศษ’ คือ กาเบรียล มาร์ติเนลลี ปีกพรสวรรค์ชาวบราซิล ที่ก้าวขึ้นมาเป็นสตาร์และเป็นนักเตะคนสำคัญของทีมในปัจจุบัน 

 

และ มิเกล อาร์เตตา ตัดสินใจอำลางานมือขวาของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ในทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับข้อเสนองานคุมทีมอาร์เซนอลแทนที่ของเอเมรีที่ผลงานย่ำแย่ จนสโมสรจำเป็นต้องปลดจากตำแหน่งเมื่อปลายปี 2019

 

นั่นเป็นจุดเริ่มต้นในการทวงความยิ่งใหญ่กลับมาของอาร์เซนอล โดยที่มีเอดูเป็นคีย์แมนอยู่เบื้องหลัง โดยที่ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่ฤดูกาลเปลี่ยนให้กันเนอร์สกลายเป็นทีมลุ้นแชมป์เบียดคู่กับแมนฯ ซิตี้ ใน 2 ฤดูกาลหลังสุด ซึ่งนอกเหนือจากการตามหานักเตะฝีเท้าดีมาเสริมกำลังมากมายแล้ว อีกหนึ่งงานสำคัญคือ การที่เอดูปกป้องอาร์เตตาในช่วงวิกฤตศรัทธา #ArtetaOut จนหาทางกลับมาได้

 

ทุกสิ่งทุกอย่างมันชวนให้เชื่อว่าเอดูจะอยู่คู่กับอาร์เซนอลไปอีกนาน และพาสโมสรกลับคืนสู่ความสำเร็จให้ได้อีกครั้ง นอกเหนือจากแชมป์เอฟเอคัพที่เป็นแชมป์รายการเดียวในช่วงระยะเวลาของเขากับอาร์เตตา

 

แต่เพราะไม่มีอะไรที่แน่นอนและไม่มีอะไรที่คงอยู่ตลอดไป ข่าวการเตรียมลาออกจากตำแหน่งของเอดูจึงเป็นข่าวที่สั่นสะเทือนอาร์เซนอลอยู่ไม่น้อย

 

เอดู อาร์เซนอล

 

คำถามสำหรับแฟนกูนเนอร์สหลายคนคือ ทำไมเอดูถึงตัดสินใจปล่อยมือกันเร็วขนาดนี้?

 

เรื่องนี้ในรายละเอียดที่มีการเจาะลึกจากสื่อต่างประเทศ เหตุผลของเอดูที่ต้องการอำลาสโมสรคือเรื่องโอกาสในการทำงานใหม่ที่น่าสนใจ เมื่อได้รับการทาบทามจาก เอวานเจลอส มารินิคาส มหาเศรษฐีชาวกรีซที่เป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลหลายแห่งรวมถึงน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ทีมอันดับ 3 ของตารางพรีเมียร์ลีกในเวลานี้ และโอลิมเปียกอส สโมสรระดับท็อปของกรีซ

 

บทบาทของเอดูที่จะได้ในการทำงานกับมารินิคาสคือการเป็นผู้อำนวยการเครือสโมสรของเขา ซึ่งเป็นงานที่ท้าทายความสามารถไปอีกแบบ และแน่นอนรวมถึงเรื่องของรายได้ผลตอบแทนที่เชื่อว่าอาจมากกว่าที่ได้รับจากอาร์เซนอลถึง 3 เท่า

 

อย่างไรก็ดี เรื่องรายได้สำหรับเอดูอาจไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด

 

นั่นทำให้มีการมองว่า อีกหนึ่งเหตุผลที่อาจมีส่วนต่อการตัดสินใจคือเรื่องของสถานะ บทบาท และการทำงานภายในทีมอาร์เซนอล ที่เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น

 

หนึ่งในคนที่ถูกจับตามองคือ ทิม ลูอิส Executive Vice-Chair ซึ่งเป็นคนของ สแตน ครอนเก เจ้าของสโมสร ที่ได้รับบทบาทสำคัญมากขึ้นภายในสโมสร และอีกหนึ่งคนคือ ริชาร์ด การ์ลิก ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการของสโมสร ซึ่งได้รับการโปรโมตขึ้นมาและรับผิดชอบงานหลายอย่างแทนที่ของ วิไน เวนเคทชาม อดีตซีอีโอ – ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดของเอดู – ที่อำลาอาร์เซนอลไปเมื่อปีกลาย หลังจากทำงานมา 14 ปีเต็ม

 

โดยมีฝ่ายที่เชื่อว่า ลึกๆ แล้วเอดูอยากรับงานในตำแหน่งซีอีโอของสโมสรแทนเวนเคทชาม แต่งานไปอยู่ในมือของการ์ลิกแทน

 

แต่อีกคนหนึ่งที่อาจมีส่วนโดยไม่ตั้งใจคือตัวของอาร์เตตาเอง ที่สถานะปัจจุบันในสโมสรถือว่าทรงอำนาจอย่างมาก

 

เดิมทีอาร์เตตาถูกแต่งตั้งในบทของ ‘โค้ช’​ แต่ผลงานการจัดการทีมที่ดีทำให้ได้รับอำนาจเพิ่มในบท ‘ผู้จัดการทีม’ ในลักษณะการทำงานแบบเดียวกับผู้จัดการทีมแบบฟุตบอลอังกฤษ ซึ่งมีส่วนในเรื่องของการจัดการทีมนอกสนามด้วยไม่เพียงแค่เรื่องในสนาม

 

นั่นหมายถึงขอบเขตการทำงานมีส่วนทับซ้อนกับเอดูอยู่บ้าง แม้ว่าทั้งสองคนจะเป็นคู่หูที่ทำงานด้วยกันได้ดีมาโดยตลอดก็ตาม

 

สิ่งเหล่านี้ทำให้เอดูพิจารณาถึงอนาคตภายในทีม ซึ่งดูเหมือนอาจจะไม่ต้องการเขามากเท่าที่ผ่านมา บวกกับเมื่อได้โอกาสที่ดี ซึ่งมารินิคาสไม่ได้เพิ่งตามจีบ แต่มีความพยายามในการติดต่อมานานแล้ว จึงตัดสินใจยอมรับข้อเสนอ

 

อาร์เซนอล

 

คำถามต่อมาคือ เรื่องนี้จะกระทบต่ออาร์เซนอลแค่ไหน รวมถึงจะกระทบต่อการทำงานของอาร์เตตาหรือไม่?

 

เรื่องนี้ในมุมมองผู้เชี่ยวชาญมองว่า การขาดหายไปของเอดูอาจไม่ได้ส่งผลลบต่อสโมสรในระยะยาวมากนัก เพราะโครงสร้างและบทบาทของบุคลากรภายในที่มีอยู่พอจะทดแทนกันได้

 

สิ่งที่อาร์เซนอลต้องการไม่ได้หมายถึง ‘Director’ แบบฟุตบอลสมัยใหม่ที่หลายสโมสรใช้งานกันในปัจจุบัน แต่เป็นคนที่จะทำงานร่วมกับอาร์เตตาและเติมเต็มในส่วนที่ผู้จัดการทีมชาวสเปนขาดอยู่ ซึ่งมีการมองว่าคนที่จะมาแทนอาจเป็น ‘กูรูในวงการซื้อขายผู้เล่น’ ที่จะชี้เป้าหมายที่ถูกต้องให้

 

คนที่มีสายตาและหูตากว้างไกลกว่าเอดู ลงลึกในรายละเอียดได้ดียิ่งกว่า ‘จิ้ม’ นักเตะได้ถูกคนมากกว่า

 

เพราะถึงจะมีส่วนกับการคว้าตัวนักเตะชั้นดีได้หลายคน รวมถึงผลงานชิ้นโบแดงอย่างการคว้า ดีแคลน ไรซ์ สตาร์ทีมชาติอังกฤษ มาได้ แต่ในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมาอาร์เซนอลกลับเสริมทัพได้ไม่เข้าตานัก โดยเฉพาะการไม่สามารถหา ‘ศูนย์หน้า’ มืออาชีพที่เป็นจุดบอดของทีม แต่กลับไปเสริมแนวรับด้วยผู้เล่นอย่าง ริคคาร์โด คาลาฟิออรี แทน ทำให้เอดูถูกเพ่งเล็งอยู่ไม่น้อย

 

อาร์เตตาจะมีบทบาทเกี่ยวกับเรื่องของการซื้อขายย้ายทีมมากขึ้น สวนทางกับบอสพรีเมียร์ลีกหลายทีม – รวมถึง อาร์เน สลอต ของลิเวอร์พูล และ รูเบน อโมริม ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – ที่จะทำงานภายใต้โครงสร้างสมัยใหม่ที่ไม่มีสิทธิ์มีเสียงในเรื่องการเลือกผู้เล่น

 

อย่างไรก็ดี ยังเป็นเรื่องที่ตอบได้ยากว่าหากเป็นไปตามการวิเคราะห์จริง อาร์เซนอลและอาร์เตตาจะได้รับผลกระทบแบบไหนและอย่างไร

 

หากออกมาดีก็แล้วไป

 

แต่หากออกมาไม่ดีเมื่อไร อาจทำได้แค่คิดถึงเอดู

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X