วันนี้ (16 เมษายน) การศึกษาระหว่างประเทศ นำโดยออสเตรเลีย พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีน้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์หรือภาวะโรคอ้วน มีความเสี่ยงสูงที่จะมีอาการรุนแรงมากกว่า
การวิจัยเมื่อไม่นานนี้ นำโดยสถาบันวิจัยเด็กเมอร์ด็อก (MCRI) และมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Diabetes Care พบว่า ผู้ป่วยที่มีน้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์หรือภาวะโรคอ้วน ยังมีแนวโน้มต้องการออกซิเจนและเครื่องช่วยหายใจผ่านทางท่อเจาะคอมากกว่า เมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่มีน้ำหนักตามเกณฑ์
การศึกษาดังกล่าวใช้ข้อมูลจากผู้ป่วยโรคโควิด-19 วัยผู้ใหญ่จำนวน 7,244 รายที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 18 แห่ง ใน 11 ประเทศ โดยแบ่งเป็นผู้ป่วยที่มีน้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์ร้อยละ 34.8 และผู้ป่วยที่มีภาวะโรคอ้วนร้อยละ 30.8
คณะนักวิจัยพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เป็นโรคอ้วน มีแนวโน้มต้องการออกซิเจนมากกว่า และมีแนวโน้มต้องการเครื่องช่วยหายใจผ่านทางท่อเจาะคอมากกว่าถึงร้อยละ 73 ขณะที่ผู้ป่วยที่มีน้ำหนักเกินมีผลลัพธ์คล้ายคลึงกัน แต่รุนแรงน้อยกว่า
ดร.เคิร์สตี ชอร์ต ผู้ร่วมนำการวิจัยจากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ กล่าวว่า “โรคอ้วนเกี่ยวข้องกับอาการสุขภาพไม่ดีหลายอย่าง ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคทางเดินหายใจ และโรคติดต่อทางเชื้อไวรัสที่รุนแรงกว่า เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้เลือดออก และโรคโควิด-19
“จากการศึกษาขนานใหญ่นี้เราสรุปได้ว่า การมีน้ำหนักตัวที่เกินกว่าเกณฑ์หรือภาวะโรคอ้วนนั้นเป็นปัจจัยเสี่ยงต่ออาการป่วยรุนแรงกว่าในกลุ่มผู้ใหญ่ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคโควิด-19” ชอร์ตกล่าว
ด้าน ดร.แดเนียล ลองมอร์ จาก MCRI ระบุว่า การค้นพบนี้ซึ่งเน้นความสัมพันธ์ระหว่างโรคอ้วนและอาการป่วยของโรคโควิด-19 ที่สะท้อนความจำเป็นเร่งด่วนในการใช้ยุทธวิธีเพื่อแก้ปัญหาตัวกระตุ้นโรคอ้วนทางเศรษฐกิจและสังคม และมาตรการนโยบายสาธารณะ อาทิ ข้อจำกัดการโฆษณาอาหารขยะ เป็นต้น
พิสูจน์อักษร: ชฎานิสภ์ นุ้ยฉิม
อ้างอิง:
- สำนักข่าวซินหัว