นักวิทยาศาสตร์เผยงานวิจัยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า วัคซีนต้านโควิดที่ผลิตโดย Pfizer-BioNTech และ Moderna จะกระตุ้นภูมิคุ้มกันแบบคงอยู่ได้นาน ซึ่งสามารถป้องกันไวรัสโคโรนาได้เป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี
การค้นพบดังกล่าวเพิ่มหลักฐานที่บ่งชี้ได้ว่า คนที่ได้รับวัคซีนชนิด mRNA ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ผลิตวัคซีนของ Pfizer-BioNTech และ Moderna แล้ว ไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นเพิ่มเติม หรือ Booster ตราบใดที่เชื้อไวรัสและเชื้อกลายพันธุ์ยังไม่พัฒนาไปเกินกว่ารูปแบบปัจจุบัน ส่วนผู้ที่ฟื้นตัวหรือหายดีจากโควิดก่อนที่จะฉีดวัคซีน ก็อาจไม่จำเป็นต้องฉีดเข็ม 3 หรือใช้ Booster เช่นกัน แม้ว่าไวรัสจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญก็ตาม
“มันเป็นสัญญาณที่ดีว่าภูมิคุ้มกันของเราที่ได้จากวัคซีนนี้มีความทนทานมากเพียงใด” ดร.อาลี เอลเลเบดี นักภูมิคุ้มกันวิทยาจากมหาวิทยาลัยวอชิงตันในเซนต์หลุยส์ ซึ่งเป็นผู้นำทีมวิจัยชิ้นนี้ระบุ โดยผลการศึกษาดังกล่าวตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร Nature
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ไม่ได้ศึกษาวัคซีนที่ผลิตโดย Johnson & Johnson ด้วย แต่ ดร.เอลเลเบดี คาดว่าการตอบสนองของภูมิคุ้มกันจากวัคซีนดังกล่าวจะคงทนน้อยกว่าวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยี mRNA
ดร.เอลเลเบดี และทีมงานรายงานในเดือนที่แล้วว่า ในร่างกายผู้ที่ฟื้นตัวจากโควิด เซลล์ภูมิคุ้มกันซึ่งจดจำไวรัสได้จะอยู่ในไขกระดูกเป็นเวลาอย่างน้อย 8 เดือนหลังจากที่ติดเชื้อแล้ว ขณะที่งานวิจัยจากทีมวิจัยอีกทีมชี้ว่า เซลล์บีที่ทำหน้าที่สร้างแอนติบอดีนั้นจะยังคงเติบโตและแข็งแรงต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปีหลังจากที่ติดเชื้อ
จากการค้นพบเหล่านี้ ทำให้นักวิจัยประเมินว่าภูมิคุ้มกันอาจคงอยู่ได้หลายปี หรืออาจยาวนานตลอดชีวิต ในกลุ่มผู้ที่เคยติดเชื้อไวรัสโคโรนาและฉีดวัคซีนในภายหลัง แต่เวลานี้ยังไม่แน่ชัดว่า ตัววัคซีนเพียงลำพังจะกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ยาวนานแบบเดียวกันหรือไม่
ภาพ: Marcos del Mazo / LightRocket via Getty Images
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง: