วันนี้ (10 มีนาคม) รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ที่มี จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ได้พิจารณาแนวทางการส่งเสริมการมีงานทำ และการให้ความช่วยเหลือผู้พิการในช่วงสถานการณ์โควิด-19 สาระสำคัญของการประชุม มีดังนี้
- เห็นชอบปรับเพิ่มสวัสดิการเบี้ยผู้พิการให้กับคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ แต่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และมีอายุมากกว่า 18 ปี จำนวน 8.3 แสนคน จาก 800 บาทต่อเดือน เป็น 1,000 บาทต่อเดือน ให้เท่ากับผู้พิการที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้พิการที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติปรับเพิ่มให้ก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งนี้กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการจะต้องนำเสนอ ครม. เพื่อพิจารณาต่อไป
- เห็นชอบขยายเวลาการกู้ยืมเงินเพื่อประกอบอาชีพกรณีฉุกเฉินของกองทุนพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการ วงเงินกู้ไม่เกิน 10,000 บาทต่อราย โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน ไม่มีดอกเบี้ย ปลอดชำระหนี้ 1 ปี จากเดิมที่หมดเขต 31 มีนาคม 2564 ขยายไปถึง 31 พฤษภาคม 2564 ประชาชนผู้สนใจสามารถยื่นคำร้องขอกู้ได้ที่ www.dep.go.th หรือสอบถามสายด่วน พม. 1300
- เห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาการกำหนดโควตาการรับสิทธิวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แก่คนพิการ โดยเฉพาะกลุ่มคนพิการที่มีความพิการในระดับรุนแรงหรือมีปัญหาด้านสุขภาพ
- เห็นชอบให้กระทรวงการคลังพิจารณาเพิ่มมาตรการลดหย่อนภาษีให้สถานประกอบการที่จ้างงานคนพิการในช่วงสถานการณ์โควิด-19 คือ 1. การจ้างคนพิการตามมาตรา 33 ที่หักภาษีได้ 2 เท่า ขอเพิ่มเป็น 3 เท่า 2. การจ้างคนพิการมากกว่า 60% ของลูกจ้าง ที่หักภาษีได้ 3 เท่า ขอเพิ่มเป็น 4 เท่า
รัชดากล่าวด้วยว่า ที่ประชุมมีความห่วงใยผลกระทบของโควิด-19 ที่มีต่อผู้พิการ การประชุมครั้งนี้จึงเน้นไปที่การให้การช่วยเหลือฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้พิการก้าวพ้นความยากลำบากที่ประสบอยู่ขณะนี้ และส่งเสริมโอกาสแก่ผู้พิการเพื่อให้เข้าถึงการจ้างงาน มีรายได้ สามารถพึ่งพิงตนเองได้ ซึ่งขณะนี้แผนการส่งเสริมการมีงานทำของผู้พิการ ได้กำหนดแนวทางการบูรณาการ 29 หน่วยงาน ครอบคลุมการส่งเสริมการมีงานทำ การให้การคุ้มครองสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย และการพัฒนาทักษะ เพื่อประโยชน์แก่คนพิการ 2 แสนคนทั่วประเทศ ตามเป้าหมายปี 2564
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล