วันนี้ (28 ตุลาคม) พรรคเพื่อไทย ได้จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดขอนแก่น ในหัวข้อ ‘พรุ่งนี้เพื่อไทย: เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน’ ซึ่งจะเป็นการปลุกความหวัง คืนความฝันให้พี่น้องประชาชนอีกครั้ง ชัยเกษม นิติสิริ อดีตอัยการสูงสุดและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า นับตั้งแต่วันแรกที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำรัฐประหารในเดือนพฤษภาคม 2557 ได้ละเมิดหลักนิติธรรมตั้งแต่วันแรกที่ยึดอำนาจ คำสั่งและประกาศจำนวนมากบังคับใช้เป็นกฎหมาย โดยทำลายหลักนิติรัฐนิติธรรม ทำลายกลไกตรวจสอบถ่วงดุล ใช้กฎหมายทำลายล้างบุคคลที่คิดต่างจากรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความล้มเหลวในการจัดการโรคระบาดผิดพลาดและจากวิกฤตเศรษฐกิจ แทนที่รัฐบาลจะรับฟังข้อเรียกร้องเพื่อแก้ไขปัญหา กลับสั่งตำรวจเข้าปะทะจับกุมดำเนินคดีประชาชนอย่างเกินสมควรกว่าเหตุ ราวกับว่าไม่ได้เห็นประชาชนเป็นพี่น้องร่วมชาติของตัวเอง ทำให้หวั่นวิตกว่า หากประชาชนสิ้นศรัทธาในกระบวนการยุติธรรมแล้วนั้นบ้านเมืองจะอยู่อย่างไร
“หากประสบการณ์ที่รับราชการจนถึงอัยการสูงสุด และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมจะพอมีคุณค่า ก็ขอเรียกร้องให้ “ปล่อยตัวนักโทษทางความคิด” ที่เห็นต่างกับรัฐบาล เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นฟื้นฟูหลักนิติรัฐ นิติธรรม คืนอนาคตให้ลูกหลานและคืนชีวิตให้พี่น้องประชาชน” ชัยเกษมกล่าว
ชัยเกษมกล่าวว่า ประชาชนจะเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมก็ต่อเมื่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม ได้ทำหน้าที่ให้ประชาชนเชื่อได้ว่าเป็นความยุติธรรมที่แท้จริง กฎหมายที่จะนำออกมาบังคับใช้ ต้องได้รับการยอมรับและเห็นชอบจากตัวแทนของประชาชน ไม่ใช้อำนาจตามอำเภอใจ นอกจากนี้หลักนิติรัฐนิติธรรมยังเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ ถ้ายังออกกฎหมายและบังคับใช้ตามอำเภอใจของผู้มีอำนาจ ไม่มีมาตรฐาน ย่อมส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและเปิดช่องกันให้ทุจริตอย่างรุนแรงไร้ยางอายและไม่เห็นหัวประชาชนอย่างที่ปรากฏทุกวันนี้
สิ่งสำคัญ หากประเทศไทยกลับมาปกครองด้วยหลักนิติรัฐ นิติธรรมแล้ว
- ผู้ปกครองหรือผู้บริหารประเทศต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชน
- กฎหมายจะต้องมาจากความเห็นชอบของประชาชนผ่านรัฐสภา ซึ่งเป็นผู้แทนของปวงชน
- สถาบันตุลาการจะต้องไม่ยอมรับการรัฐประหารโดยอ้างว่าเป็นรัฏฐาธิปัตย์
ที่ผ่านมาได้เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อป้องกันการรัฐประหาร โดยเสนอให้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญให้ชัดเจนว่า การรัฐประหารมีความผิดฐานเป็นกบฏและไม่ก่อให้เกิดอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ และไม่มีกำหนดอายุความ แม้ว่ารัฐธรรมนูญจะถูกยกเลิกไป แต่หลักการดังกล่าวยังต้องคงอยู่และสามารถใช้บังคับลงโทษผู้ก่อกบฏได้ แต่น่าเสียดายที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่พรรคเพื่อไทยเสนอไม่ผ่านการพิจารณาในรัฐสภา
“ไม่ว่าจะยุคสมัยใด คนรุ่นใด จะเป็นคนรุ่นใหม่หรือคนรุ่นผม เราต่างแสวงหาความยุติธรรมเพื่อความสงบสุขของชีวิต ความยุติธรรมเท่านั้นจะแก้ปัญหาความขัดแย้งของบ้านเมือง ทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้า และสร้างความหวัง สร้างชีวิตที่ดีกว่าให้กับประชาชนได้ ประเทศไทยจะต้องไม่มีนักโทษทางความคิด ไม่มีทหารมายึดอำนาจจากรัฐบาลของประชาชน และจะไม่มีประชาชนที่ถูกกลั่นแกล้งด้วยกฎหมายอีกต่อไป” ชัยเกษมกล่าวสรุป