วันนี้ (28 มกราคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 โดยเปิดเผยว่า วันนี้จะนำมติของที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อมมานำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ และเห็นชอบมอบอำนาจตามมาตรา 35 ของ พ.ร.บ.ควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 ให้อำนาจในการควบคุมและเฝ้าระวังพื้นที่ที่มีฝุ่น PM2.5
ทั้งนี้ จะแบ่งตามระดับความรุนแรงของฝุ่น โดยสีส้มคือปริมาณฝุ่นตั้งแต่ 37.5-75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) เป็นพื้นที่ควบคุมเฝ้าระวัง ซึ่งจะมีการสวมหน้ากากอนามัย การทำงานในพื้นที่ร่มและอาคารต่างๆ ส่วนพื้นที่ระดับสีแดงคือมีปริมาณฝุ่นมากกว่า 75 มคก./ลบ.ม. ในรอบ 24 ชั่วโมงติดต่อกัน ให้เป็นพื้นที่ที่ต้องมีการเฝ้าระวัง การป้องกัน และการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม หนึ่งในมาตรการคือการให้ Work from Home
“การสั่ง Work from Home นั้นทางผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นคนขอมา แล้วอธิบดีกรมควบคุมโรคเป็นผู้อนุมัติ คือมีอำนาจเลย เพราะวันนี้เรามาขอให้ ครม. รับทราบ และเห็นชอบให้ใช้มาตรา 35 พ.ร.บ.ควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม ให้อำนาจนี้เพื่อการดำเนินการต่อไป จะได้ไม่ต้องมาเข้า ครม. บ่อยๆ” สมศักดิ์กล่าว
สมศักดิ์กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม การควบคุม แก้ไขปัญหา และการให้ความช่วยเหลือกรณีได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 มีหลายขั้น ดังนี้
- ขั้นควบคุมเหตุรำคาญ จะใช้ พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ประกาศ
- ขั้นที่ 2 ปริมาณฝุ่นระดับสีเหลืองเข้าสู่สีแดง
- ขั้นที่ 3 สีแดง พื้นที่ควบคุมโรค
ทั้งนี้ ปัญหาระดับฝุ่นขั้นที่ 2 และ 3 นี้ จะใช้ พ.ร.บ.ควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม และขั้นที่ 4 สูงสุด คือเขตที่มีฝุ่น PM2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมงมากกว่า 150 มคก./ลบ.ม. ติดต่อกัน 5 วัน รัฐบาลต้องใช้งบประมาณ และมาตรการทางกฎหมายตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)
มีรายงานด้วยว่า ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อมกำหนดว่า เมื่อมีการประกาศเป็นเขตพื้นที่ควบคุมโรคแล้ว ให้ผู้ว่าฯ มีอำนาจพิจารณาตามสถานการณ์ปัญหา หากค่าฝุ่นสูงเกิน 2, 3 หรือ 5 วัน ก็สามารถประกาศได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อมกำหนดว่า เมื่อมีการประกาศเป็นเขตพื้นที่ควบคุมโรคแล้ว ให้ผู้ว่าฯ มีอำนาจในการดำเนินการ ดังนี้
- สนับสนุนหน้ากากป้องกันฝุ่น PM2.5 แก่ประชาชนกลุ่มเปราะบาง (เด็กเล็ก, ผู้สูงอายุ, หญิงตั้งครรภ์, ผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ หอบหืดและหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง) โดยพิจารณาชนิดหน้ากากตามที่กรมควบคุมโรคแนะนำ
- ออกประกาศ Work from Home ทำงานผ่านระบบออนไลน์ และงดทำกิจกรรมกลางแจ้ง
- จัดทำศูนย์รองรับการอพยพประชาชนกลุ่มเปราะบางและผู้ป่วยติดเตียง ให้เข้าพักคอยจนกว่าสถานการณ์จะปกติ
- ขอความร่วมมือเกษตรกร เจ้าของสถานประกอบกิจการ และผู้ประกอบการขนส่ง ดำเนินการลดฝุ่น ในส่วนของโรงพยาบาลให้จัดทำห้องปลอดฝุ่นสำหรับกลุ่มเปราะบาง เช่น ห้องเด็กแรกคลอด และห้องพักหลังคลอด และแจ้งการพบผู้ป่วยโรคจากฝุ่น PM2.5 และให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม ใช้กลไกทางกฎหมายในการแจ้ง รายงาน และสอบสวนโรคจากฝุ่น PM2.5
