วันนี้ (3 กรกฎาคม) ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มีนโยบายให้หน่วยงานภายใต้กระทรวงสาธารณสุขขับเคลื่อนการให้บริการแก่ประชาชน โดยให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกประชาชนเข้ารับบริการใกล้บ้านและลดความแออัดในโรงพยาบาล
ในส่วนของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ผลักดันในหลายโครงการเพื่อให้ผู้มีสิทธิในหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือสิทธิบัตรทอง สามารถเข้ารับบริการได้ที่จุดบริการใกล้บ้าน ลดเวลาการเดินทางมาโรงพยาบาล
เช่น การสนับสนุนให้ผู้มีสิทธิบัตรทองที่เจ็บป่วยเล็กน้อยสามารถใช้บริการ แพทย์ทางไกลหรือ Telemedicine ผ่าน 4 แอปพลิเคชัน ครอบคลุม 42 กลุ่มโรค / อาการ การเร่งขยายเครือข่ายคลินิกกายภาพบำบัด ร่วมเป็นหน่วยบริการรับผู้ป่วยสิทธิบัตรทองใน 4 กลุ่มโรค เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายโดยไม่ต้องไปโรงพยาบาล การขึ้นทะเบียนคลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่นทั่วประเทศ ร่วมให้บริการสาธารณสุขปฐมภูมิ
ไตรศุลีกล่าวว่า สำหรับแผนงานต่อไป ภายในปี 2566 สปสช. จะเปิดให้ผู้มีสิทธิบัตรทองสามารถรับบริการตรวจทางห้องปฏิบัติการหรือแล็บ ณ คลินิกเทคนิคการแพทย์ที่เข้าร่วมให้บริการใกล้บ้าน (Lab Anywhere) ได้ ซึ่งเป็นโครงการร่วมกันผลักดันกับสภาเทคนิคการแพทย์ โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการทยอยรับรองและขึ้นทะเบียนคลินิกเทคนิคการแพทย์ที่ผ่านมาตรฐานเข้าร่วมเป็นเครือข่ายของหน่วยบริการ ล่าสุดมีคลินิกที่ได้รับการรับรองแล้ว 26 แห่ง
สำหรับบริการ Lab Anywhere จะมี สปสช. เขตทั่วประเทศเป็นผู้จัดเครือข่าย โดยคลินิกเทคนิคการแพทย์ที่เข้าร่วมจะให้บริการเจาะเลือด เก็บสิ่งส่งตรวจ พร้อมตรวจวิเคราะห์ผล ทั้งกรณีมารับบริการที่คลินิกเทคนิคการแพทย์ หรือให้ไปเจาะเลือดที่บ้านในกรณีเป็นผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยสูงอายุ หรือมีภาวะพึ่งพิง พร้อมตรวจวิเคราะห์ผลแล็บ
ไตรศุลีกล่าวว่า Lab Anywhere จะให้บริการตรวจ 24 รายการ แบ่งเป็น 2 กรณี คือ กรณีผู้ป่วยนอก (OP) ซึ่งเป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มีใบสั่งการตรวจทางห้องปฏิบัติการจากหน่วยบริการ โดยจะให้บริการตรวจจำนวน 22 รายการ ใน 9 หมวด
ได้แก่ 1. การตรวจหาความเข้มข้นและความผิดปกติของเม็ดเลือด 2. การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด 3. การตรวจน้ำตาลสะสม 4. การตรวจระดับไขมันในเลือด 5. ตรวจการทำงานของตับ 6. การตรวจหาค่ากรดยูริก 7. การตรวจการทำงานของไต 8. การตรวจปัสสาวะ 9. การตรวจไวรัสตับอักเสบบี
อีกกรณีคือบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (PP) จำนวน 2 รายการ ได้แก่ 1. บริการตรวจทดสอบปัสสาวะในกรณีสงสัยว่าตั้งครรภ์ 2. บริการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรงด้วยวิธีการตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระ สำหรับประชาชนอายุ 50-70 ปี ทุก 2 ปี ซึ่งทั้ง 2 รายการนี้ ผู้มีสิทธิบัตรทองสามารถเข้ารับบริการได้ที่คลินิกเทคนิคการแพทย์ที่ร่วมโครงการโดยไม่ต้องมีใบสั่งการตรวจทางห้องปฏิบัติการ