วันนี้ (14 พฤษภาคม) ช่างภาพข่าว THE STANDARD เก็บภาพบรรยากาศการให้บริการขนส่งสาธารณะในพื้นที่รอบเมืองเชียงใหม่ หลังจากมีกระแสข่าวว่ารถสี่ล้อแดงและรถตุ๊กตุ๊กซึ่งถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเชียงใหม่ประสบปัญหารายได้ตกต่ำ จนถึงขั้นบางคนต้องขายรถหรือคืนรถที่เช่า เพราะแบกรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว ประกอบกับมีแอปพลิเคชันสำหรับเรียกรถต่างๆ เข้ามาให้บริการ เช่น Grab, maxim และ inDrive ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
จากการพูดคุยกับผู้ให้บริการคิวรถสี่ล้อแดงบริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดจอดรถสี่ล้อแดงสำหรับให้บริการนักท่องเที่ยวที่ต้องการใช้บริการรถสาธารณะเพื่อเดินทางไปดอยสุเทพ ดอยปุย และพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ทราบว่าจำนวนรถสี่ล้อแดงในจังหวัดเชียงใหม่ลดลงอย่างต่อเนื่องจากเดิมประมาณ 3,000 คัน เหลือประมาณ 2,000 คันเศษ ซึ่งจะมีจุดจอดหรือคิวรถอยู่ประมาณ 30 แห่งในพื้นที่เมืองเชียงใหม่ เช่น อาเขต, ท่าแพ, กาดหลวง, ประตูช้างเผือก, ประตูเชียงใหม่, หน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่, สวนสัตว์เชียงใหม่ และอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย
สำหรับคิวรถหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่จัดตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2528 ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวกว่าร้อยละ 70 ที่เหลือร้อยละ 30 เป็นคนในพื้นที่
สำหรับนักท่องเที่ยวที่นิยมใช้บริการ ได้แก่ นักท่องเที่ยวจีน เกาหลี และญี่ปุ่น เป็นหลัก แต่ก็พบว่ารายได้ลดลงมากตั้งแต่ช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ จากเดิมมีลูกค้าใช้บริการวันละ 2-3 เที่ยว มีรายได้วันละประมาณ 1,500 บาท ปัจจุบันเหลือเพียงวันละ 500-600 บาทเท่านั้น
เนื่องจากในช่วงเดือนพฤษภาคมไปจนถึงปลายเดือนตุลาคมถือเป็นช่วงโลว์ซีซันของการท่องเที่ยว จึงมีผู้โดยสารมาใช้บริการน้อย แต่จะกลับมาคึกคักอีกครั้งในช่วงเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงปลายเดือนเมษายน นอกจากนั้นผู้โดยสารที่ลดลงส่วนหนึ่ง เพราะผู้โดยสารโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางโดยการใช้บริการผ่านแอปต่างๆ ที่มีในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม พบว่าการให้บริการรถรับจ้างผ่านแอปต่างๆ ปัจจุบันพบเห็นได้อย่างแพร่หลายในพื้นที่เชียงใหม่ และยังมีจุดให้บริการในพื้นที่ต่างๆ เช่น จุดรับผู้โดยสาร Grab หรือ Grab Pick-up Point ภายในสนามบินเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 นอกจากนั้นยังมีแอปอื่นๆ ที่กำลังได้รับความนิยมสำหรับเรียกรถ เช่น maxim และ inDrive ซึ่งมีสติกเกอร์ติดไว้ที่รถอย่างชัดเจนอีกด้วย