วันนี้ (20 สิงหาคม) ศาลอาญาได้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องอดีตแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) รวม 13 คน ในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมและก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง จากเหตุการณ์ชุมนุมขับไล่รัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในปี 2552 โดยได้เลื่อนไปเป็นวันที่ 7 ตุลาคม 2568 เวลา 09.00 น.
คดีนี้สืบเนื่องมาจากการชุมนุมระหว่างวันที่ 31 มกราคม ถึง 9 เมษายน 2552 ซึ่งกลุ่ม นปช. ได้ร่วมกันปิดทางเข้าออกทำเนียบรัฐบาล เพื่อขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีในขณะนั้น
นอกจากนี้ ผู้ชุมนุมบางส่วนยังได้บุกไปยังบ้านพักของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ (ขณะนั้นดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรี) เพื่อกดดันให้ พล.อ.เปรม พร้อมด้วย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และ ชาญชัย ลิขิตจิตถะ ลาออกจากองคมนตรี ซึ่งในการชุมนุมครั้งนี้ยังได้มีการปิดล้อมสถานที่ราชการสำคัญหลายแห่งในกรุงเทพฯ ด้วย
การเลื่อนคำพิพากษาในครั้งนี้มีสาเหตุจากจำเลย 2 คนไม่เดินทางมาศาล ได้แก่ พงศ์พิเชษฐ์ หรือพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง จำเลยที่ 10 ซึ่งทนายความแจ้งว่าขาดการติดต่อไปนานแล้ว และ อดิศร เพียงเกษ จำเลยที่ 11 ซึ่งแจ้งว่าติดประชุมสภาฯ
ด้วยเหตุนี้ ศาลจึงได้มีคำสั่ง ออกหมายจับพงศ์พิเชษฐ์ พร้อมทั้ง ปรับนายประกัน เป็นเงิน 200,000 บาท ขณะที่ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ, จตุพร พรหมพันธุ์ และนายแพทย์เหวง โตจิราการ รวมถึงแกนนำคนอื่น ๆ ได้ทยอยเดินทางมาฟังคำพิพากษาตามนัดหมายในวันนี้