Record of Youth ออกอากาศในช่วงเวลาที่เหมาะเจาะ เพราะเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่เราได้เห็นพลังของวัยหนุ่มสาวผลิบานในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เช่นเดียวกัน ซีรีส์เรื่องนี้จะแสดงให้เห็นการเปลี่ยนผ่านของกลุ่มเพื่อนชายหญิงที่มีความฝันและมุ่งมั่นจะทำมันให้สำเร็จ

พัคโบกอม พัคโซดัม และบยอนอูซอก สามนักแสดงนำของซีรีส์ Record of Youth ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับงานแสดงของพวกเขาในครั้งนี้ ความสุขและความประทับใจที่พวกเขาถ่ายทอดออกมาทำให้เราได้เห็นว่า ‘วัยหนุ่มสาว’ คือช่วงเวลาสีสันของชีวิตห้วงเวลาหนึ่งที่ใจเรากล้าพอจะเดินหน้าทำทุกสิ่งอย่างที่ต้องการ กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง กล้าที่จะพิสูจน์ให้โลกได้เห็นว่าอิสระ เสรีภาพ และการยึดมั่นในความเชื่อคือคุณค่าที่เรามีในตัวเอง

Record of Youth เล่าเรื่องราวของ ซาฮเยจุน และวอนแฮฮโย เพื่อนในวัยเด็กที่มีพื้นฐานทางครอบครัวที่แตกต่างกัน พวกเขาเป็นนายแบบที่ทำงานอย่างหนักเพื่อพิสูจน์ตัวเองและทำตามความฝัน เช่นเดียวกับ อันจองฮา หญิงสาวที่ลาออกจากบริษัทยักษ์ใหญ่เพื่อตามความฝันในการเป็นเมกอัพอาร์ทิสต์

พัคโบกอม (Reply 1988, Love in the Moonlight, Encounter) รับบท ซาฮเยจุน นายแบบหนุ่มที่รักในการแสดง 

เขารู้ว่าตัวเองชอบหรือไม่ชอบอะไร และยินดีจะทำสิ่งที่ไม่ชอบถ้ามันจะเป็นหนทางไปสู่เป้าหมายได้ เมื่อมาเป็นนายแบบ หน้าตาที่หล่อเหลาของเขากลับเป็นอุปสรรค เหล่าดีไซเนอร์มักเลือกวอนแฮฮโยก่อนซาฮเยจุน แต่ในที่สุดซาฮเยจุนก็โด่งดังได้ด้วยความขยันและพรสวรรค์ที่มาพร้อมความมีสไตล์ 

เขาเป็นคนเปิดเผยและมองโลกในแง่ดีอย่างแท้จริง บางคนวิจารณ์เขาว่าไม่รู้จักโตและหวังอะไรไม่ได้ แต่เขาไม่เปลี่ยนตัวเองเพราะความคิดของคนอื่น เขารู้ดีว่าตัวเองเป็นใคร และแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน แต่ถึงอย่างนั้น ในขณะที่ต้องเผชิญกับความหนักหนาสาหัสของชีวิตก็มีบ่อยครั้งที่เขาต้องเสียน้ำตา

อยากให้พวกคุณแนะนำคาแรกเตอร์ที่ได้รับในซีรีส์เรื่องนี้

พัคโบกอม: ซาฮเยจุนเป็นชายหนุ่มในวัย 20 ปีที่ค่อยๆ เดินตามเป้าหมายชีวิตไปเงียบๆ ผมพยายามที่จะแสดงให้เห็นถึงตัวละครที่เป็นผู้คนธรรมดาในวัยใกล้เคียงกับผมที่ทุกคนล้วนมีความฝัน ตัวซาฮเยจุนเขาเป็นคนที่มีเหตุผลมากและเชื่อมั่นในตัวเอง ผมพยายามจะเป็นตัวเขาให้ใกล้เคียงที่สุดตอนที่ถ่ายทำซีรีส์เรื่องนี้ครับ 

พัคโซดัม: อันจองฮาเป็นคนที่เท่มากๆ ไม่เคยเหนื่อยและทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้ตามเป้าหมายที่เธอวางไว้ค่ะ

บยอนอูซอก: วอนแฮฮโยเป็นคนที่ไม่ชอบการได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ จากการที่เขาเกิดมาในครอบครัวคนรวย ตัวเขาเองอาจจะดูมีความสุข ไม่มีเรื่องต้องเดือดร้อน แต่เขาก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและพยายามพิสูจน์ตัวเอง ได้โปรดเห็นใจวอนแฮฮโยและให้กำลังใจเขาด้วยนะครับ

พวกคุณเตรียมตัวสำหรับคาแรกเตอร์ใน Record of Youth อย่างไรบ้าง

พัคโบกอม: ผมหาเรเฟอเรนซ์เยอะมากครับ ทั้งวิดีโอแฟชั่นโชว์ ภาพนิ่ง และคลิปสัมภาษณ์ต่างๆ ผมจะใช้ฝึกฝนในตอนที่มีเวลาว่าง คนรอบๆ ตัวผมบอกว่าความมั่นใจคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ผมจึงทำทุกอย่างในเรื่องนี้ด้วยความมั่นใจ

พัคโซดัม: ตอนที่อันจองฮาทำงานที่ซาลอน เธอต้องใส่หูฟังไร้สายเพื่อสื่อสารกับคนอื่นๆ ฉากนี้ทำให้ฉันนึกถึงพนักงานในซาลอนจริงๆ ที่ต้องสวมหูฟังไร้สายขณะทำงาน ฉันรู้เลยว่ามันยากมากที่ต้องใส่สิ่งนี้ในหูทั้งวัน แล้วบางทีก็ได้ยินไม่ชัด ฉันคิดว่าพนักงานในร้านก็คงเจอปัญหานี้กันมาตลอด

บยอนอูซอก: วอนแฮฮโยเป็นนายแบบที่ผันตัวไปเป็นนักแสดง มันจึงมีฉากเดินแฟชั่นโชว์ในซีรีส์เรื่องนี้ ตัวผมเองเป็นนายแบบที่เปลี่ยนมาเป็นนักแสดง และถึงแม้ว่าจะเดินแบบมาเยอะมากแล้ว แต่ผมกลับตื่นเต้นตอนที่ถ่ายฉากนี้ ผมต้องไปดูวิดีโอเก่าๆ ที่เคยเดินบนรันเวย์ต่างๆ และฝึกซ้อมเยอะมากเลยครับเพื่อฉากนี้

พัคโซดัม (Cinderella with Four Knights, Parasite) รับบท อันจองฮา เมกอัพอาร์ทิสต์

เมกอัพอาร์ทิสต์สาวที่ทั้งฉลาด มั่นใจ จิตใจดี และอ่อนโยน อันจองฮาพยายามมองทุกสิ่งทุกอย่างในแง่ดี พ่อแม่ของเธอหย่ากันจนต้องย้ายโรงเรียนหลายต่อหลายครั้ง เธอจึงรู้จักปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ สมัยเด็กๆ เธอคิดว่าการเรียนคือหนทางเดียวที่จะพิสูจน์ความสามารถได้ ไม่ว่าสภาพแวดล้อมนั้นจะเป็นอย่างไรก็ตาม 

ที่ผ่านมาอันจองฮารักษาบาดแผลที่มีและพิสูจน์ตัวเองโดยไม่ปริปากบอกใครถึงความเจ็บปวดของตัวเอง ในความเป็นจริงเธอร้องไห้เป็นประจำ เธอรู้สึกอ้างว้างได้ง่ายๆ เพราะแบบนี้เองจึงต้องแกล้งทำเป็นเข้มแข็งกว่าที่เป็นอยู่เพื่อไม่ให้ตัวเองรู้สึกเหงา เธอจึงสถาปนาตัวเองเป็นติ่งตัวแม่ ติดตามเหล่าไอดอลไปทั่ว บูชาเหล่าซุปตาร์เท่าชีวิต 

ชื่อซีรีส์ Record of Youth เราอยากให้พวกคุณให้คำนิยามของความหนุ่มสาวสักหน่อย

พัคโบกอม: ผมคิดว่าความเป็นหนุ่มสาวคือหัวใจของคุณตอนที่จะเริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆ ซึ่งเรื่องอายุมันไม่เกี่ยวเลยครับ

พัคโซดัม: วัยหนุ่มสาวคือการรับความท้าทายที่ไม่มีวันจบและเติบโตไปกับมัน

บยอนอูซอก: ความเยาว์วัยไม่ใช่เรื่องของช่วงเวลาในชีวิต มันคือเรื่องของจิตใจ บางคนยังคงเดินหน้าและเชื่อมั่นในความหวังแม้ว่าพวกเขาจะอายุ 80 แล้วก็ตาม วัยหนุ่มสาวไม่มีขอบเขตของเวลาครับ

วัยหนุ่มสาวหมายถึงการก้าวข้ามผ่านความกลัวด้วยความกล้าหาญและกล้าจะลองทำสิ่งใหม่ๆ อยากให้คุณช่วยแชร์เกี่ยวกับคุณค่าของวัยหนุ่มสาวให้กับแฟนๆ ในวัย 20-30 ปีได้ฟังหน่อย

พัคโซดัม: ฉันคิดว่าคุณต้องเตรียมตัวให้พร้อมตลอดเวลา ถ้าคุณไม่เตรียมตัว คุณจะไม่สามารถคว้าโอกาสที่มันจะเข้ามาหาได้ ฉันเชื่อว่าในวัยหนุ่มสาว ถ้าพวกเขามุ่งมั่นบนเส้นทางและทำงานตามความฝันอย่างต่อเนื่อง สิ่งนั้นจะเป็นจริง

บยอนอูซอก: ผมออกจะเขินที่ต้องพูดเกี่ยวกับคุณค่าของวัยหนุ่มสาวนะครับ เพราะสิ่งที่ผมรู้สึกในทุกวันนี้คือการที่ตัวผมเองก็ก้าวเดินบนเส้นทางที่ผมไม่เคยเดินมาก่อนเหมือนกัน ผมคิดว่ามันเป็นไปได้ดีทีเดียวที่จะทำในสิ่งใหม่ๆ ความท้าทายตัวเองใหม่ๆ ถึงแม้ว่ามันออกจะน่ากลัว แต่ขอให้เดินหน้าต่อไป ยอมรับและเรียนรู้จากความผิดพลาดที่เกิดขึ้น 

อันจองฮาเป็นตัวละครที่สว่างไสวและมีจิตใจที่เข้มแข็ง ในสถานการณ์ปัจจุบันที่คนทั่วโลกกำลังพบความยากลำบาก คุณมีคำแนะนำอะไรในฐานะอันจองฮาบ้างไหม

พัคโซดัม: ตอนที่คุณทำงานเพื่อให้เข้าใกล้ความฝันของคุณ ถ้าเผชิญหน้ากับความจริงหรือความผิดหวังก็ขอให้มุ่งมั่นต่อไปและหาทางที่จะไปให้ถึงจุดหมาย เอาชนะทุกสิ่งอย่างด้วยมายด์เซตแง่บวก

บยอนอูซอก (Dear My Friends, Search: WWW) รับบทเป็น วอนแฮฮโย นายแบบและนักแสดง

วอนแฮฮโยเป็นคนอ่อนโยน สุภาพ เป็นกันเอง และเปิดเผย เขาขี้เล่นมาก เขารู้ว่าตัวเองชอบหรือไม่ชอบอะไร และถ้าไม่อยากทำอะไรก็แค่ปฏิเสธง่ายๆ สำหรับวอนแฮฮโยแล้ว ความเป็นชายหมายถึงการท้าทายตัวเองล้วนๆ วอนแฮฮโยชอบการแข่งขันและเกลียดความพ่ายแพ้ โดยจะทุ่มเทเป็นบ้าเป็นหลังเมื่อเป็นเรื่องที่ชอบทำ

วอนแฮฮโยต้องการเป็นนักแสดง หลังสร้างชื่อให้ตัวเองในฐานะนายแบบได้แล้ว ผู้คนเริ่มคุ้นหน้า แต่เขาก็ยังไม่เป็นที่รู้จักมากพอ เขาดูเหมือนเกือบจะดังอยู่ตลอดเวลา แต่มันก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง ขาดจังหวะสำคัญเพียงจังหวะเดียวเท่านั้นที่จะส่งให้เขาดังเป็นพลุแตกได้

การที่ในชีวิตจริงคุณเป็นนายแบบ ประสบการณ์เหล่านั้นช่วยในการแสดงซีรีส์เรื่องนี้ไหม อะไรคือความเหมือนหรือต่างระหว่างตัวคุณกับตัวละครในเรื่องนี้

บยอนอูซอก: นายแบบที่กลายมาเป็นนักแสดง เขาเหมือนผมมากๆ ในเรื่องอาชีพ แต่ก็มีความแตกต่างตรงที่ตัวละครวอนแฮฮโยเกิดมาในครอบครัวที่รำ่รวย เขามีอิสระในชีวิตและมองโลกในแง่ดี แต่อย่างหนึ่งคือเขาไม่ชอบการที่รอบตัวเขามีแต่อภิสิทธิ์จากความร่ำรวยเหล่านั้น เขาจึงต้องทำงานอย่างหนักเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าเขาก็มีดีเช่นกัน

อยากให้เล่าถึงบรรยากาศในการถ่ายทำซีรีส์ Record of Youth เพราะพวกคุณอายุไล่เลี่ยกันจนดูเหมือนเพื่อนกันจริงๆ

พัคโบกอม: พวกเรามีความสุขกันมากๆ เลยครับ หยุดหัวเราะไม่ได้เลย จนโดนเทกและต้องถ่ายใหม่หลายครั้ง ผมมีความสุขมากตอนที่ถ่ายซีรีส์เรื่องนี้

พัคโซดัม: บรรยากาศในกองถ่ายสนุกมากค่ะ ฉากที่มีการเดินแฟชั่นโชว์ก็มีนายแบบนางแบบและทีมงานที่เตรียมถ่ายฉากนี้กันเยอะมาก เป็นฉากที่ฉันจะจดจำเลยค่ะ อันจองฮาเองก็ใจเต้นแรงกับฉากนี้มากๆ

บยอนอูซอก: ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างและสนุกมากๆ ระหว่างการถ่ายทำ ขอบคุณพัคโบกอมและพัคโซดัมที่เปิดหัวใจต้อนรับผมอย่างอบอุ่น ผมรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปไวมาก เหมือนว่าเราใช้เวลาอยู่กับเพื่อนๆ โดยที่แทบไม่ได้ทำอะไรมากมาย ผมเชื่อว่าความสนุกและบรรยากาศดีๆ ในการถ่ายทำจะยังคงอยู่ในเรื่องราวที่คุณจะได้ชมกันครับ

คงต้องทิ้งท้ายแล้วล่ะว่าทำไม Record of Youth จึงเป็นซีรีส์ที่คู่ควรแก่การรับชม

พัคโบกอม: มีความสนุกหลายอย่างเลยครับ คุณจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงด้านความรู้สึกของตัวละครอื่นๆ รวมถึงตัวของซาฮเยจุนด้วย

พัคโซดัม: Record of Youth เป็นซีรีส์ที่ช่วยเยียวยาจิตใจนะคะ มันเป็นเรื่องราวของความรัก มิตรภาพ และครอบครัว วัยหนุ่มสาวที่มีความแตกต่างกันได้มาพบกัน ต่อสู้กัน และเป็นห่วงเป็นใยกัน คุณจะเห็นอกเห็นใจพวกเขา และได้เยียวยาตัวเองด้วยการมองดูพวกเขาฝ่าฟันปัญหาในชีวิต

บยอนอูซอก: ซีรีส์เรื่องนี้เหมาะสำหรับคนหัวใจหนุ่มสาวครับ คนที่ทำงานอย่างหนักเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายของตัวเอง มันเป็นซีรีส์มหัศจรรย์ที่จะทำให้คุณคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของครอบครัวและเพื่อนๆ มันมีคุณค่ามากๆ และจะเชื่อมโยงถึงทุกคนได้ไม่ยาก ผู้กำกับได้ใส่รายละเอียดในการกำกับที่ทำให้เสน่ห์ของซีรีส์เรื่องนี้แสดงออกมาชัดเจน มันเต็มไปด้วยความสนุกและความอบอุ่น ซีรีส์เรื่องนี้จะทำให้วัยหนุ่มสาวไม่รู้สึกโดดเดี่ยว แต่ละคาแรกเตอร์มีความเป็นคนธรรมดาที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ ผมคิดว่าคนดูจะสนุกไปกับ Record of Youth ยิ่งถ้าพวกเขาสวมทับตัวเองเข้าไปกับตัวละครใดในเรื่อง

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์