วันนี้ (28 เม.ย.) ที่ศาลาบำเพ็ญบุญ วัดพระนอน (ขอนม่วง) ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เครือข่ายทวงคืนผืนป่าดอยสุเทพร่วมแถลงการณ์ก่อนการจัดชุมนุมใหญ่ในเช้าวันที่ 29 เมษายน
นำโดย นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ, นายบัณรส บัวคลี่, นายชัชวาล ทองดีเลิศ, นางพิมพ์สุชา สมมิตรวศุตม์ และนางสาวคำศรีดา แป้นไทย ท่ามกลางความสนใจของสื่อมวลชนและหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
นายบัณรส บัวคลี่ แกนนำเครือข่ายฯ กล่าวว่า ขณะนี้เครือข่ายทวงคืนผืนป่าดอยสุเทพมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นจากเดิม 16 เป็น 40 องค์กรแล้ว และจากการประชุมประเมินสถานการณ์ คาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก แต่จะเป็นการมาร่วมแสดงเจตจำนงและเลิกกันไปตามกำหนดอย่างสงบ เรียบร้อย สวยงาม และมีพลัง
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีความคิดจะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ของการชุมนุมอย่างสร้างสรรค์ เรียกว่าความท้าทาย 5 ประการ
1. เป็นการชุมนุมที่พื้นที่ข่วงประตูท่าแพจะไม่มีขยะแม้แต่ชิ้นเดียว
- การเคลื่อนขบวนการจะไม่ส่งเสียงโวยวาย แต่จะทำให้สวยงามยิ่งกว่าขบวนแห่ และมีพลังกดดันทางสังคม
- การชุมนุมพรุ่งนี้จะมีคนล้นข่วงประตูท่าแพ
- การชุมนุมวันพรุ่งนี้จะมีการ #ชุมนุมออนไลน์คู่ขนานป่าแหว่ง โดยการแชร์โพสต์ชุมนุมออนไลน์ หนี่งแชร์เท่ากับคนหนึ่งคน และเราจะนับจำนวนคนในเวลา 12.00 น. ของวันเดียวกัน ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่าต้องถึง 10,000 แชร์
- เราจะเขียวทั้งเวียงเชียงใหม่ เรียกว่าเขียวไสวทั้งเวียง โดยจะมีพิธีการหลังเวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ตลอดเขตคูเมืองเชียงใหม่จะมีสีเขียวไสว ตามบ้านเรือนประชาชนจะช่วยกันผูกริบบิ้นสีเขียว และผู้คนจะช่วยกันแจกริบบิ้น
นายบัณรสกล่าวอีกว่า การเคลื่อนไหววันที่ 29 เมษายน จำนวนคนและเจตนาจะเป็นเครื่องช่วยให้ท่านที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ผู้บริหารประเทศ ฝ่ายปกครองที่คิดว่ายังติดขัดปัญหาอะไรอยู่บ้าง ทันทีที่ภาพออกมาคงทำให้ตัดสินใจโดยเร็ววันและง่ายที่สุด ข้อเสนอเรายืนอยู่ตามมติเจตนาสุดท้ายคือขอคืนพื้นที่ให้กลับมาเป็นป่า ส่วนกระบวนการขอให้ประกาศขั้นตอนเป็นโรดแมป และระหว่างที่ติดขัด ขอให้เป็น No Man’s Land ก่อน คือไม่มีการเข้าไปจัดกิจกรรมใดๆ เพื่อให้กระบวนการดำเนินการไปเรื่อยๆ โดยเราจะมีถ้อยแถลงเจตนาของเราเสนอให้ทุกฝ่ายได้รับรู้