(21 กุมภาพันธ์) องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยคำร้องกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) ประกอบมาตรา 72 พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 กรณีพรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจาก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 191.2 ล้านบาท
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญระบุช่วงหนึ่งว่า พรรคการเมืองมีสถานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายมหาชน และเงินกู้แม้มิได้เป็นรายได้ แต่ก็เป็นรายรับและเงินทางการเมือง
การดำเนินการเกี่ยวกับการได้มาและการใช้จ่ายเพื่อกิจกรรมทางการเมืองจึงกระทำได้ในขอบเขตที่กฎหมายกำหนดได้เท่านั้น ซึ่งการกู้ยืมเงินของพรรคการเมืองต้องสอดคล้องตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญเพื่อให้พรรคการเมืองไม่ถูกครอบงำโดยบุคคลหรือกลุ่มบุคคลโดยอาศัยเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด
ศาลเห็นว่าเมื่อพิจารณาตามบทนิยามคำว่าบริจาคตาม พ.ร.ป. พรรคการเมือง มาตรา 4 หมายความว่าการให้เงินหรือทรัพย์สินแก่พรรคการเมือง ค่าธรรมเนียม ค่าบำรุง หมายความรวมถึงการให้ประโยชน์อื่นใดที่สามารถคำนวณเป็นเงินได้
คำว่าประโยชน์อื่นใดหมายรวมถึงการให้ใช้ทรัพย์สิน การให้บริการ การให้ส่วนลด หรือไม่มีค่าตอบแทน หรือมีค่าตอบแทนที่ไม่เป็นไปตามปกติทางการค้า และการทำให้หนี้ที่พรรคการเมืองเป็นลูกหนี้ลดลงหรือระงับสิ้นไป
เพราะฉะนั้นการให้ประโยชน์อื่นใดต่อพรรคการเมืองย่อมหมายรวมถึงลักษณะการกระทำที่ทำนองเดียวกับการให้บริการ การให้ส่วนลด หรือไม่มีค่าตอบแทน หรือมีค่าตอบแทนที่ไม่เป็นไปตามปกติทางการค้า และการทำให้หนี้ที่พรรคการเมืองเป็นลูกหนี้ลดลงหรือระงับสิ้นไป
ดังนั้นการให้กู้ยืมเงินโดยไม่คิดดอกเบี้ยหรือการคิดดอกเบี้ยที่ไม่เป็นปกติทางการค้าย่อมถือว่าเป็นประโยชน์อื่นใดตามกฎหมายพรรคการเมือง
ข้อเท็จจริงปรากฏว่างบการเงินประจำปี 2561 ของพรรคอนาคตใหม่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่ารายได้ 1.4 ล้านบาท
แต่กลับทำสัญญากู้ยืมเงินจากธนาธร 2 ฉบับ เป็นจำนวนเงินถึง 191.2 ล้านบาท
ทั้งนี้การคิดอัตราดอกเบี้ยที่ไม่เป็นปกติทางการค้าย่อมถือว่าเป็นประโยชน์อื่นใดตามกฎหมาย แม้พรรคอนาคตใหม่จะได้ชำระหนี้เงินกู้บางส่วนหลายครั้ง แต่การชำระคืนครั้งแรก 14 ล้านบาท ทำภายหลังการทำสัญญากู้เงินเพียง 2 วัน ซึ่งถือว่าผิดปกติวิสัย
นอกจากนี้ยังมีการทำสัญญากู้ยืมเงินเพิ่มเติมทั้งที่ยังมีหนี้ค้างชำระอยู่ย่อมไม่เป็นไปตามปกติวิสัย การทำสัญญากู้เงินนี้จึงเป็นการทำเพื่อเอื้อประโยชน์แก่พรรคอนาคตใหม่เป็นกรณีพิเศษ ไม่เป็นไปตามปกติในทางการค้า
การให้กู้เงิน 191.2 ล้านบาท รวมกับเงินที่ธนาธรบริจาคในปี 2562 จำนวน 8.5 ล้านบาทแล้ว ย่อมชัดแจ้งว่าเป็นการบริจาคเงินเกิน 10 ล้านบาทต่อปี ซึ่งต้องห้ามตามมาตรา 66 วรรค 2 ตาม พ.ร.ป. พรรคการเมือง
การที่ธนาธรได้ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจำนวนมาก กรรมการบริหารพรรคย่อมรู้ว่าการเป็นหนี้กับบุคคลใดจำนวนมากย่อมจะก่อให้เกิดการครอบงำโดยอาศัยอำนาจความเป็นเจ้าหนี้ ทั้งก่อให้เกิดความได้เปรียบทางการเงินมาเป็นผู้บงการพรรคแต่เพียงผู้เดียวหรือกลุ่มเดียวอันส่งผลให้พรรคการเมืองเป็นธุรกิจการเมือง ดังนั้นการกู้ยืมเงินของพรรคจึงเป็นเจตนาหลีกเลี่ยงการรับบริจาคเงินตามมาตรา 66 จึงมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้ถูกร้องฝ่าฝืนมาตรา 72 พ.ร.ป. พรรคการเมือง เป็นเหตุให้ยุบพรรค
เพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่จำนวน 16 คน และห้ามจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่หรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่เป็นระยะเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่งยุบพรรค (21 กุมภาพันธ์)
กรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่จำนวน 16 คน นำโดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค, ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค, กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ รองหัวหน้าพรรค และพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค ฯลฯ
สำหรับ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ที่เหลือจำนวน 65 คน (ทั้งแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ) จะต้องดำเนินการหาพรรคสังกัดใหม่ภายในระยะเวลา 60 วันตามที่กฎหมายกำหนด
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์