วานนี้ (30 เมษายน) ศึกลาลีกา สเปนนัดที่ 34 ของฤดูกาล เรอัล มาดริด จ่าฝูงลงสนามพบกับเอสปันญอล ที่ซานติอาโก เบร์นาเบว โดยเกมนี้เรอัล มาดริด ต้องการเพียงแค่ 1 แต้มเพื่อคว้าแชมป์ลาลีกาในฤดูกาลนี้
โดยเกมนี้ คาร์โล อันเชล็อตติ พักทั้ง วินิซิอุส จูเนียร์ และ คาริม เบนเซมา และเลือกใช้ โรดรีโก โกเอส, มาเรียโน ดิอาซ และ มาร์โก อเซนซิโอ ลงสนามในแนวรุก
เริ่มเกมครึ่งแรก เรอัล มาดริดขึ้นนำไปก่อน 2-0 จากลูกยิงของโรดรีโก โกเอส ในนาทีที่ 33 และ 43
ต่อมาในครึ่งหลัง มาดริดนำห่างไปเป็น 3-0 จากลูกยิงของมาร์โก อเซนซิโอ ในนาทีที่ 55
4 นาทีต่อมา มาดริดเปลี่ยนตัวพร้อมกัน 3 คน เอา คาริม เบนเซมา, โทนี โครส และ อิสโก ลงมาแทน คาเซมิโร, มาเรียโน ดิอาซ และ ลูกา โมดริช
หลังจากนั้นมาดริดเกือบจะได้ประตูที่ 4 เมื่ออิสโกลากบอลจากกลางสนามมาแทงออกซ้ายให้เบนเซมา ก่อนที่จะตบกลับเข้ากลางให้อิสโกยิงเข้าประตูไปในนาทีที่ 72
แต่ผู้ตัดสินไปดู VAR และพบว่าโรดรีโกอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าและบังผู้รักษาประตู จึงได้ตัดสินใจยกเลิกประตู ทำให้มาดริดคงสกอร์ไว้ที่ 3-0
นาทีที่ 80 เบนเซมายิงประตูที่ 4 ให้กับทีมได้สำเร็จ จากจังหวะที่จูเนียร์ที่ลงมาในครึ่งหลังจ่ายบอลเข้าพื้นที่หน้ากรอบประตู และเบนเซมายิงเข้าไป พาทีมนำห่างไปเป็น 4-0
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเกิดขึ้น เรอัล มาดริด เอาชนะไปได้ 4-0 ส่งผลให้พวกเขามีแต้มขาด และได้ฉลองแชมป์ลาลีกาฤดูกาล 2021/22 ต่อหน้าแฟนบอลในบ้านของตัวเอง แม้เหลือโปรแกรมในฤดูกาลนี้อีก 4 นัดในลีก โดยนับเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของสเปนสมัยที่ 35 ของสโมสร