ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่าหลังจาก บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ (24 ตุลาคม) โดยช่วงสิ้นวันราคาหุ้นอยู่ที่ 4.36 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 32.12% จากราคาจองที่ 3.30 บาทต่อหุ้น
ด้าน สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ RBF กล่าวว่าราคาหุ้น RBF ที่เพิ่มขึ้นหลังเปิดการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ น่าจะมาจากปัจจัยหลายอย่าง รวมทั้งพื้นฐานของธุรกิจที่ดี
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% หลังหักภาษีเงินได้และค่าสำรองอื่นๆ จึงเชื่อว่าหุ้น RBF เหมาะสมในการลงทุนในระยะกลางถึงยาวได้
สมชาย รัตนภูมิภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF กล่าวว่าบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปดำเนินการตามแผนงาน คือก่อสร้างโรงงานผลิตเกล็ดขนมปังและแป้งประกอบอาหารที่ประเทศอินโดนีเซีย นำไปปรับปรุงและซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติม ทั้งเครื่องจักรในการผลิตเกล็ดขนมปัง เครื่องจักรในการผลิตแป้งทอดกรอบ เครื่องจักรในการผลิตวัตถุแต่งกลิ่นรสแบบอัตโนมัติ ลงทุนเปิดบริษัทตัวแทนและห้องทดลองในประเทศสิงคโปร์ เพื่อขยายฐานลูกค้าในอนาคตของสินค้าประเภทวัตถุแต่งกลิ่นรส (Flavour) ชำระคืนเงินกู้ยืมระยะยาวจากการจัดโครงสร้างกลุ่มของบริษัท ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ และจากแผนงานดังกล่าวทำให้มีความมั่นใจว่าจะสามารถรักษาระดับการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคง
ทั้งนี้บริษัทแบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 6 กลุ่มคือ กลุ่มวัตถุแต่งกลิ่น รส และสีผสมอาหาร กลุ่มแป้งและซอส กลุ่มผลิตภัณฑ์อบแห้ง กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง กลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติก และกลุ่มผลิตภัณฑ์ซื้อมาเพื่อจำหน่าย
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2561 บริษัทมีรายได้รวม 2,738.25 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 321.11 ล้านบาท และสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2562 บริษัทมีรายได้รวม 1,412.82 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 147.23 ล้านบาท
โดยในงวดครึ่งปีแรกของปี 2562 บริษัทมีค่าใช้จ่าย One Time ประมาณ 30 ล้านบาท ประกอบด้วยการตั้งด้อยค่ากิจการโรงแรม จำนวน 11.6 ล้านบาท การตั้งสำรองหนี้สินผลประโยชน์พนักงานเพิ่มเติม จำนวน 9.9 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาด้านบัญชี ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ค่าประเมินราคาทรัพย์สิน ค่าใช้จ่ายการนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนและอื่นๆ อีกประมาณ 9 ล้านบาท
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์