เมย์-รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันมือ 6 ของโลกในประเภทหญิงเดี่ยว เป็นตัวแทนรับมอบธงชาติไทยผืนประวัติศาสตร์ โดยเตรียมส่งต่อเพื่อใช้ถือนำขบวนทัพนักกีฬาไทยเดินลงสู่สนามในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิก 23 กรกฎาคมนี้
หลังจากที่พี่น้องชาวไทยทั่วประเทศออกมาร่วมกันจารึกประวัติศาสตร์สำคัญ ส่งกำลังใจให้กับนักกีฬาไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น ผ่านกิจกรรม ‘วิ่งธงชาติไทย…รวมใจสู่ชัยชนะ’ โดยให้ตัวแทนนักวิ่งจากทั่วประเทศได้มีโอกาสส่งแรงเชียร์ผ่านการร่วมวิ่งส่งต่อธงชาติไทย รวมระยะเวลา 61 วัน ผ่านพื้นที่ 35 จังหวัด 4,606 กิโลเมตร โดยที่ ‘ตูน บอดี้สแลม’ หรือ อาทิวราห์ คงมาลัย ศิลปินนักร้องคนดัง รับหน้าที่วิ่งธงชาติไทยเป็นคนสุดท้ายเข้าเส้นชัยที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมกับนำธงผืนประวัติศาสตร์ประดับตั้งไว้ที่สนามบินเพื่อรอส่งมอบให้กับตัวแทนนักกีฬาไทย
ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวันนี้ (16 กรกฎาคม) ทัพนักกีฬาไทยชุดใหญ่ 7 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย แบดมินตัน, ยิงปืน, ยิงเป้าบิน, จักรยาน, มวยสากล, ว่ายน้ำ และเทเบิลเทนนิส มีคิวออกเดินทางไปทำการแข่งขันที่ประเทศประเทศญี่ปุ่น โดยก่อนออกเดินทางได้มีพิธีส่งมอบธงไตรรงค์ผืนประวัติศาสตร์ที่ผ่านมือพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศส่งตรงถึงมือนักกีฬาโอลิมปิกไทยเป็นที่เรียบร้อย โดย เมย์-รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันอันดับ 6 ของโลกในประเภทหญิงเดี่ยว เป็นตัวแทนนักกีฬาไทยรับมอบธงไตรรงค์จาก พล.อ. รณชัย มัญชุสุนทรกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
นักแบดมินตันขวัญใจชาวไทยขอบคุณทุกแรงเชียร์ แรงสนับสนุน และกำลังใจจากคนไทยทุกคนที่ส่งผ่านธงไตรรงค์ผืนนี้ รวมถึงร่วมกันส่งผ่านกิจกรรมการวิ่งแบบเวอร์ชวลรัน ซึ่งตนมองว่านี่คือพลังเชียร์ชั้นเยี่ยม มีคุณค่าทางจิตใจ และเป็นกำลังใจสำคัญอย่างดียิ่งที่นักกีฬาไทยสัมผัสได้
“ตอนนี้สภาพร่างกายของเมย์ฟิตเต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ ที่ผ่านมาพยายามฝึกซ้อมร่างกายให้ชินและแข็งแกร่งที่สุด เนื่องจากห่างสนามไปนานราวๆ 3-4 เดือน และพยายามปรับแก้จุดอ่อนในเรื่องของการเล่นเกมยาวและสร้างสมาธิเพื่อไม่ให้พลาดในช่วงสำคัญๆ หลังที่ผ่านมามักจะโดนคู่แข่งใช้จิตวิทยาโจมตีใส่โดยตลอด ก็ขอสัญญาว่าจะทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ และพยายามคว้าเหรียญรางวัลมาฝากแฟนๆ กีฬาชาวไทยให้ได้” รัชนก กล่าว
ด้าน พล.อ. รณชัย เผยว่า แม้ที่ผ่านมาประเทศไทยจะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด แต่สำหรับนักกีฬาไทยยังคงเก็บตัวฝึกซ้อมมาโดยตลอดในระบบปิด ซึ่งก่อนการแข่งขันทั้งเจ้าหน้าที่และนักกีฬาทุกเข้าคนรับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดส รวมถึงเข้าตรวจหาเชื้อโควิดแล้ว ผลออกมาก็ยังเป็นปกติดีทุกคน และเมื่อไปถึงญี่ปุ่น นักกีฬาก็จะเข้ากักตัวต่อ 3 วันภายในหมู่บ้านนักกีฬาทันทีเพื่อเฝ้าระวังเชื้อโควิด
“ส่วนเป้าหมายของการแข่งขัน ผมก็ยังมองว่าในโอลิมปิกครั้งนี้เรามีโอกาสคว้าได้อย่างน้อยๆ 1 เหรียญทอง โดย เทควันโด, กอล์ฟ, ยิงเป้าบิน, มวยสากล หรือ แบดมินตัน ต่างก็เป็นกลุ่มกีฬาความหวัง ก็อยากขอให้แฟนๆ กีฬาไทยช่วยเชียร์และส่งกำลังใจไปให้กับทัพนักกีฬาไทยในโตเกียว 2020 กันเยอะๆ ซึ่งก็สามารถร่วมเชียร์นักกีฬาไทยรวมถึงอีเวนต์การแข่งขันที่น่าสนใจได้ผ่านทางทีวีดิจิทัลทั้ง 7 ช่อง รวมไปถึงทางแพลตฟอร์มออนไลน์และจอดิจิทัลขนาดใหญ่ของ Plan B ในจุดสำคัญๆ ทั่วประเทศ ซึ่งก็จะเริ่มถ่ายทอดสดตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคมนี้ในบางชนิดกีฬา
“สุดท้ายต้องขอบคุณชาวไทยทุกคนที่ออกมาร่วมกิจกรรมวิ่งธงชาติไทยผืนประวัติศาสตร์ไปทั่วประเทศ รวม 4,606 กิโลเมตร รวมถึงที่ร่วมวิ่งแบบเวอร์ชวลรัน เสมือนจริง (Virtual) เพื่อสนับสนุนนักกีฬาไทย จนภารกิจลุล่วงครบ 1 ล้านกิโลเมตร ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ผมถือเป็นการส่งมอบแรงเชียร์และกำลังใจชั้นดีให้กับทัพนักกีฬาไทยชุดทำศึกโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์ ซึ่งครั้งนี้เราก็ได้มอบเงินสนับสนุน 1 ล้านบาทที่ได้จากการวิ่งสะสมระยะทางครบ 1 ล้านกิโลเมตรในการวิ่งแบบเวอร์ชวลรันให้กับทัพนักกีฬาไทยด้วย”
ทั้งนี้รัชนกจะเป็นตัวแทนนักกีฬาไทยนำธงไตรรงค์ผืนประวัติศาสตร์ส่งมอบให้กับ ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทยชุดทำศึกโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเก็บรักษา ก่อนที่จะส่งมอบให้กับตัวแทนนักกีฬาไทยใช้ถือเดินนำขบวนพาเหรดทัพนักกีฬาไทยเข้าสู่พิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 32 ซึ่งจะมีขึ้นที่สังเวียนโอลิมปิกสเตเดียมภายในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงค่ำวันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคมนี้ต่อไป
สำหรับการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 32 หรือ โตเกียว 2020 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม ถึง 8 สิงหาคมนี้ ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จัดแข่งขันในระบบปิด ไม่อนุญาตให้แฟนกีฬาเข้าชม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด โดยหนนี้มีนักกีฬา 205 ชาติร่วมชิงชัยใน 33 ชนิดกีฬา ซึ่งนักกีฬาไทยสามารถควอลิฟายผ่านเข้าร่วมแข่งขันในรอบสุดท้าย รวม 42 คน จาก 16 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย กรีฑา, กอล์ฟ, ว่ายน้ำ, แบดมินตัน, เรือใบ, วินด์เซิร์ฟ, ยิงปืน, ยิงเป้าบิน, มวยสากล, เรือกรรเชียง, เรือแคนู, ยูโด, ขี่ม้า, เทเบิลเทนนิส, เทควันโด และจักรยาน
สำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 แฟนๆ กีฬาไทยสามารถร่วมชม เชียร์ และให้กำลังใจนักกีฬาไทยได้ผ่านการถ่ายทอดสดทางช่อง T-Sports, ThaiPBS, NBT, PPTV, JKN18, ทรูโฟร์ยู 24, GMMTV 25, และ AIS PLAY โดย PPTV 36 จะประเดิมถ่ายทอดสดฟุตบอลหญิงและชาย เริ่มตั้งแต่วันพุธที่ 21 กรกฎาคม เวลา 17.30 น. (เวลาไทย) ประเภททีมหญิง เกมระหว่าง ญี่ปุ่น พบ แคนาดา ต่อด้วย วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม เวลา 18.30 น. ประเภททีมชาย บราซิล พบ เยอรมนี